'ฟูจิตสึ' ชิงบุกตลาดแอร์ หวังดันรายได้โต 30%
'ฟูจิตสึ' โหมบุกตลาดแอร์ ทุ่มงบ 65 ล้านบาท สร้างแบรนด์ผ่านออฟไลน์-ออนไลน์ พร้อมคลอด 4 รุ่นใหม่ ปูพรมทุกช่องทางการจำหน่าย วางเป้าสิ้นปีโกยยอดขายเติบโต 30%
นายทาเคชิ อุจิชิบะ ประธาน บริษัท ฟูจิตสึ เจเนอรัล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศ ภายใต้แบรนด์ 'ฟูจิตสึ' เปิดเผยว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในเมืองไทยปีนี้ บริษัทนำแบรนด์กลับมาทำตลาดเองอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยจะให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่ง ควบคู่กับการขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น หลังจากทดลองทำตลาดมาแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปี ในรูปแบบของตัวแทนจำหน่ายร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ รวมถึงตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศประมาณ 300 ราย และเพิ่มขึ้นเป็น 400 รายในปีนี้ ก่อนจะขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังโมเดิร์นเทรดผ่านห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศเพิ่มขึ้นในปีหน้า
[caption id="attachment_385773" align="aligncenter" width="323"]
ทาเคชิ อุจิชิบะ[/caption]
ด้าน นายสินเมธ อิ่มเอม ผู้จัดการทั่วไป กล่าวว่า เพื่อเป็นการสร้างการเติบโตให้แข็งแกร่งในตลาดเมืองไทยในปีนี้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของแบรนดิ้ง การสื่อสารแบรนด์ การขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ โดยได้เตรียมใช้งบการตลาดในปีนี้ราว 65 ล้านบาท ผ่านการทำตลาดควบคู่กันไป ทั้ง "อะโบฟ เดอะ ไลน์" และ "บีโลว์ เดอะ ไลน์" และจะให้ความสำคัญสื่อออนไลน์มากขึ้น อาทิ การทำไวรัลมาร์เก็ตติ้งและคลิปวิดีโอเพื่อเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ยูทูบ เฟซบุ๊ก ไลน์ และอินสตาแกรม ขณะเดียวกันกิจกรรมส่งเสริมการขายหน้าร้านก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ให้ความสำคัญ
"ปัจจุบัน บริษัทผลิตเครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก จำนวน 6 ซีรีส์ รวม 29 โมเดล ขนาดตั้งแต่ 9,000-54,000 บีทียู โดยปีนี้จะมีเพิ่มเป็น 8 ซีรีส์ 39 โมเดล ซึ่งจะเริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์สู่ตลาดอย่างน้อย 4 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น เครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัย, เครื่องปรับอากาศสำหรับเชิงพาณิชย์ขนาดเล็กและขนาดกลาง และเครื่องปรับอากาศรวมศูนย์ขนาดเล็ก"
อย่างไรก็ตาม ตลาดเครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัยในเมืองไทยปีที่ผ่านมามีมูลค่าประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวน 1.5 ล้านเครื่อง โดยฟูจิตสึมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 2% หรือคิดเป็นมูลค่าราว 450 ล้านบาท โดยมั่นใจว่า หลังจากที่บริษัทมีการปรับแผนการตลาดมาดำเนินงานเองครั้งนี้จะสามารถทำยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นราว 30% หรือประมาณ 600 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 3% โดยมีสัดส่วนการจำหน่ายในกลุ่มลูกค้าองค์กร (B2B) 40% และลูกค้าทั่วไป (B2C) 60% พร้อมกันนี้ บริษัทยังเตรียมปรับสายการผลิตเครื่องปรับอากาศให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคครอบคลุมทุกความต้องการและทุกเซ็กเมนต์ โดยปรับสัดส่วนการผลิตเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์เป็น 70% และนอน-อินเวอร์เตอร์ 30% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนการผลิตอยู่ที่ 50:50
หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,443 ระหว่างวันที่ 10 - 13 กุมภาพันธ์ 2562
นายทาเคชิ อุจิชิบะ ประธาน บริษัท ฟูจิตสึ เจเนอรัล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศ ภายใต้แบรนด์ 'ฟูจิตสึ' เปิดเผยว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในเมืองไทยปีนี้ บริษัทนำแบรนด์กลับมาทำตลาดเองอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยจะให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่ง ควบคู่กับการขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น หลังจากทดลองทำตลาดมาแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปี ในรูปแบบของตัวแทนจำหน่ายร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ รวมถึงตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศประมาณ 300 ราย และเพิ่มขึ้นเป็น 400 รายในปีนี้ ก่อนจะขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังโมเดิร์นเทรดผ่านห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศเพิ่มขึ้นในปีหน้า
[caption id="attachment_385773" align="aligncenter" width="323"]
ด้าน นายสินเมธ อิ่มเอม ผู้จัดการทั่วไป กล่าวว่า เพื่อเป็นการสร้างการเติบโตให้แข็งแกร่งในตลาดเมืองไทยในปีนี้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของแบรนดิ้ง การสื่อสารแบรนด์ การขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ โดยได้เตรียมใช้งบการตลาดในปีนี้ราว 65 ล้านบาท ผ่านการทำตลาดควบคู่กันไป ทั้ง "อะโบฟ เดอะ ไลน์" และ "บีโลว์ เดอะ ไลน์" และจะให้ความสำคัญสื่อออนไลน์มากขึ้น อาทิ การทำไวรัลมาร์เก็ตติ้งและคลิปวิดีโอเพื่อเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ยูทูบ เฟซบุ๊ก ไลน์ และอินสตาแกรม ขณะเดียวกันกิจกรรมส่งเสริมการขายหน้าร้านก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ให้ความสำคัญ
"ปัจจุบัน บริษัทผลิตเครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก จำนวน 6 ซีรีส์ รวม 29 โมเดล ขนาดตั้งแต่ 9,000-54,000 บีทียู โดยปีนี้จะมีเพิ่มเป็น 8 ซีรีส์ 39 โมเดล ซึ่งจะเริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์สู่ตลาดอย่างน้อย 4 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น เครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัย, เครื่องปรับอากาศสำหรับเชิงพาณิชย์ขนาดเล็กและขนาดกลาง และเครื่องปรับอากาศรวมศูนย์ขนาดเล็ก"
อย่างไรก็ตาม ตลาดเครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัยในเมืองไทยปีที่ผ่านมามีมูลค่าประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวน 1.5 ล้านเครื่อง โดยฟูจิตสึมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 2% หรือคิดเป็นมูลค่าราว 450 ล้านบาท โดยมั่นใจว่า หลังจากที่บริษัทมีการปรับแผนการตลาดมาดำเนินงานเองครั้งนี้จะสามารถทำยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นราว 30% หรือประมาณ 600 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 3% โดยมีสัดส่วนการจำหน่ายในกลุ่มลูกค้าองค์กร (B2B) 40% และลูกค้าทั่วไป (B2C) 60% พร้อมกันนี้ บริษัทยังเตรียมปรับสายการผลิตเครื่องปรับอากาศให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคครอบคลุมทุกความต้องการและทุกเซ็กเมนต์ โดยปรับสัดส่วนการผลิตเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์เป็น 70% และนอน-อินเวอร์เตอร์ 30% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนการผลิตอยู่ที่ 50:50
หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,443 ระหว่างวันที่ 10 - 13 กุมภาพันธ์ 2562
