กกร. คาดจีดีพีปีนี้โต 4-4.3% ห่วงค่าเงินบาทแข็ง ส่งออกชะลอตัว

06 ก.พ. 2562 | 07:05 น.
กกร. คาดการณ์จีดีพีของประเทศปีนี้ ขยายตัว 4-4.3% ได้แรงหนุนจากภาวะเศรษฐกิจ การท่องที่ยว แต่ยังห่วงเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้น จะฉุดการส่งออก จี้รัฐแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก เร่งการใช้น้ำมันดีเซล บี20 ในรถบรรทุกและผลักดันการใช้รถยนต์ไฟฟ้า

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยภายหลังการประชุมประจำเดือน ก.พ. 2562 ว่า จากการติดตามทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวได้ที่ 4.1% โดยเป็นผลจากตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ที่ถูกกระทบจากการส่งออกและการลงทุนภาครัฐ ขณะที่ การบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชนยังรักษาระดับการเติบโตไว้ได้ดี และคาดว่าจะเป็นแรงหนุนเศรษฐกิจในปี 2562 ให้ขยายตัวได้ในกรอบประมาณการของ กกร. ที่ 4.0-4.3%

 

[caption id="attachment_385202" align="aligncenter" width="503"] นายสุพันธุ์ มงคลสุธี นายสุพันธุ์ มงคลสุธี[/caption]

ส่วนสถานการณ์สงครามการค้าและเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มเติบโตชะลอลง คาดว่าจะส่งผลให้การส่งออกของไทยในปี 2562 อาจขยายตัวชะลอลงมาอยู่ในกรอบประมาณการ กกร. ที่ 5-7% เทียบกับที่ขยายตัว 6.7% ในปี 2561

นอกจากนี้ กกร. มีความเป็นห่วงเรื่องค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มแข็งค่าในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งหากเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการส่งออกของไทยในปี 2562 ด้วย โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2562 จนถึงวันที่ 1 ก.พ. 2562 ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 3.4% แข็งค่ามากสุดเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาค เป็นรองเพียงค่าเงินรูเปียะห์ของอินโดนีเซีย ที่แข็งค่าขึ้น 3.7% ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาท เป็นผลจากปัจจัยเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาอ่อนค่า เพราะขาดแรงหนุน หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณถึงโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยที่ลดทอนลง

สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจอื่นที่สำคัญ ได้แก่ การท่องเที่ยว โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในปี 2562 จะเติบโตในอัตราที่ใกล้เคียงกับในปี 2561 ที่ 7.5% ตามการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวในตลาดสำคัญ รวมทั้งนักท่องเที่ยวจีนที่น่าจะทยอยเห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจนมากขึ้น อันเป็นผลจากความร่วมมือกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง


388764

ในระยะข้างหน้า ที่ประชุม กกร. จะติดตามสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ผลการเลือกตั้งทั่วไปและการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ความคืบหน้าเรื่องข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และความไม่แน่นอนเรื่อง Brexit ตลอดจนทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท เพื่อประเมินผลต่อเศรษฐกิจและธุรกิจไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป

นายสุพันธุ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 นั้น กกร. ขอเสนอแนะแนวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็น การให้ความรู้และคำแนะนำในการปฎิบัติตนเมื่อเข้าพื้นที่เสี่ยงผ่านสื่อทุกชนิด เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ เข้าถึงข้อมูลป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 โดยข้อมูลจะต้องออกจากแหล่งข้อมูลของรัฐบาลเพียงแหล่งเดียวเท่านั้น ขอความร่วมมือภาครัฐและภาคเอกชนในการมีมาตรการป้องกันและบรรเทาฝุ่นที่เหมาะสมในที่ก่อสร้างในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เช่น การสเปรย์น้ำ การล้างล้อรถขนวัสดุก่อสร้าง เพื่อลดการฟุ้งกระจายของฝุ่น และการทำความสะอาดสถานที่ก่อสร้างเป็นประจำ เร่งขับเคลื่อนการใช้น้ำมันดีเซล B20 ในรถบรรทุก โดยมีส่วนต่างราคาที่เหมาะสม เพื่อไม่เป็นภาระการชดเชยที่มากเกินควรสำหรับภาครัฐ และผลักดันการใช้ B20 ในระยะยาวตามยุทธศาสตร์ปาล์มของประเทศ

รวมทั้งผลักดันให้ภาครัฐมีนโยบายให้ใช้รถไฟฟ้า โดยกำหนดให้รถสาธารณะเป็นรถ EV (Electric Vehicle รถไฟฟ้า) โดยภาครัฐสนับสนุนการยกเว้นภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง

595959859