'กสิกรไทย' ดัน 5i สู้ศึกแบงก์ยุคดิจิตอล

06 ก.พ. 2562 | 08:39 น.
เมื่อโลกมีการเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคและประชาชนเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โลกการแข่งขันของธนาคารพาณิชย์จำเป็นต้องปรับและเปลี่ยนให้ทัน ครั้งนี้ 'กสิกรไทย' ประกาศสู้ศึกภายใต้ภารกิจ 5i Mission Leader ที่จะต้องแกร่งทั้งในและขยายสู่ต่างประเทศ พร้อมจัดทัพคนไอที ฐานข้อมูล (Data) และพันธมิตร เพื่อบริการที่ตรงใจลูกค้า

ภายใต้ภารกิจ 5i ได้วางเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อ 5-7% และจะผลักดันรายได้ที่เกิดจากการนำข้อมูล (Data) มาใช้ประโยชน์ให้ได้ไม่ตํ่ากว่า 50% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2563 จากที่มีสัดส่วนเพียง 5% เท่านั้น และภายใน 3 ปีข้างหน้า รายได้จากธุรกิจในต่างประเทศจะต้องเพิ่มขึ้น 8 เท่า หรือจากที่ 1 พันล้านบาท เป็น 8 พันล้านบาท


ประกอบรายงาน

i ตัวแรก คือ Incorporate คือ การร่วมมือกันของธนาคารไทย พัฒนาระบบและบริการเพื่อยกระดับการให้บริการของสถาบันการเงินในประเทศไทยให้อยู่ระดับแนวหน้าในอาเซียน ซึ่ง "ปรีดี ดาวฉาย" กรรมการผู้จัดการกสิกรไทย บอกว่า ใน 2 ปีข้างหน้า คนไทยจะได้รับบริการใหม่ ๆ ที่เกิดจากความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐาน เร็ว ๆ นี้จะเป็นโครงการ National Digital ID (NDID) ลูกค้าสามารถยืนยันตัวตนผ่านระบบออนไลน์ได้ทันที เปิดบัญชีออนไลน์โดยไม่ต้องไปที่สาขา และผลักดันให้เกิด White-Label ATM เพื่อช่วยให้บริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น

i ต่อมา คือ Insight รู้จักเพื่อรู้ใจ ซึ่ง "ขัตติยา อินทรวิชัย" กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า โจทย์ธุรกิจปีนี้ คือ Data ที่เกิดขึ้นทุกที่ ทุกเวลา แต่จะทำอย่างไรให้ข้อมูลที่เกิดขึ้นมหาศาลนี้มีประโยชน์ ธนาคารจึงจะเพิ่มศักยภาพด้าน Analytic แปลงข้อมูลมาเป็น Insight เพื่อให้รู้ใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น เพื่อเสนอบริการที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล เช่น อนุมัติสินเชื่อรวดเร็วขึ้น ต้นทุนถูกลง และดอกเบี้ยที่คิดลูกค้าลดลงด้วย

i ที่ 3 คือ  Ignite จุดประกายโอกาส ก้าวข้ามพรมแดน "พิพิธ เอนกนิธิ" กรรมการผู้จัดการกสิกรไทย บอกว่า ภายใต้เศรษฐกิจผสานมิติ (Augmented Economy) ธนาคารต้องปรับการทำธุรกิจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยไม่ได้มองแค่ในประเทศ แต่ผลักธุรกิจไทยไปสู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาด CLMV รวมจีนและอินเดีย ที่ขนาดเศรษฐกิจ (จีดีพี) ใหญ่กว่าไทยถึง 41 เท่า หรือ 28.64 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้น จึงเชื่อมโยงการค้าตั้งแต่ต้นนํ้าจนถึงผู้บริโภครายย่อย รวมถึงสร้างแพลตฟอร์มการชำระเงินแห่งภูมิภาค เช่น เริ่มทดลอง QR KBANK ให้กับชาวเวียงจันทน์ใน สปป.ลาว ซึ่งผลตอบรับดี และจะขยายไปใน CLMV ซึ่งกัมพูชา เป็นตลาดที่น่าสนใจและเป้าหมายใหม่


บาร์ไลน์ฐาน

i ต่อไป Integrate รวมพลังเพื่อเติบโต ซึ่ง "พัชร สมะลาภา" กรรมการผู้จัดการกสิกรไทย กล่าวว่า เป็นการรวมจุดให้บริการลูกค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงต้อง Integrate ภายในองค์กร เพื่อให้งานรวดเร็วยิ่งขึ้น และการ Integrate คนดูแลลูกค้า ทั้งลูกค้ารายใหญ่ เอสเอ็มอี และรายย่อย เพื่อให้การทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ภายใต้เป้าหมายการเงินที่ตั้งไว้ โดยสินเชื่อรายใหญ่โต 3-5% สินเชื่อเอสเอ็มอีโต 2-4% และรายย่อย 9-12% โดยรักษาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) 3.3-3.7% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) 3.3-3.5% ขณะที่ รายได้ค่าธรรมเนียมติดลบน้อยลงเหลือ 5-7% จากปีก่อนติดลบ 9.17%

i ที่ 5 คือ innovation เทคโนโลยีเพื่อธุรกิจและชีวิตที่ดีกว่า โดย "เรืองโรจน์  พูนผล" ประธาน กสิกร บิซิเนส - เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวว่า ภายในปี 2565 ตั้งเป้าพัฒนา KBTG ไปสู่การเป็นองค์กรเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเปลี่ยนแกนเทคโนโลยีของโลกมาสู่ประเทศไทย ซึ่งยุค Disruption การสร้างพันธมิตรเป็นสิ่งสำคัญ ผ่านนวัตกรรมความร่วมมือ 3 รูปแบบ คือ Open Banking API เชื่อมต่อบริการของธนาคารได้สะดวกและปลอดภัย K PLUS Business Platform เปลี่ยนธนาคารบนมือถือสู่การเป็นแพลตฟอร์มธุรกิจ และ Innovation Sandbox สนามทดลองไอเดียใหม่ ๆ ของกลุ่มสตาร์ตอัพ

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,442 วันที่  7 - 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว