เช็กลิสต์ "6 ข้อต้องรู้มัดใจทัวร์จีน" คว้าโอกาสทองช่วง "โกลเดนวีก"

05 ก.พ. 2562 | 07:17 น.
นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทยมากเป็นอันดับ 1 ในช่วงตรุษจีน ก็คือ นักท่องเที่ยวชาวจีน ด้วยสาเหตุที่เป็นช่วงวันหยุดยาว หรือ Golden Week อีกทั้งไทยก็เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนเป็นอันดับ 1 มาอย่างยาวนาน รวมทั้งการมีวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน ทำให้การเดินทางมาฉลองวันหยุดยาวช่วงตรุษจีนที่ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยสำหรับชาวจีน

รูปปลา สัญลักษณ์แห่งความมีกินมีใช้ตลอดปี
อ.อุษณีษ์ เลิศรัตนานนท์ อาจารย์ประจำหลักสูตรจีนศึกษา วิทยาลัยนานาชาติ ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลแห่งการเริ่มต้นปีใหม่ ชีวิตใหม่ และเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองของชาวจีน โดยจะเป็นช่วงเวลาที่คนจีนได้พักผ่อนก่อนจะเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ ในปีถัดไป คนจีนจำนวนไม่น้อยถือโอกาสนี้เดินทางออกไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ และประเทศไทยเองก็เป็นประเทศเป้าหมายอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวชาวจีนอยู่แล้ว

ข้อมูลเบื้องต้นจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากจีนที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปีล่าสุด อีกทั้งนักท่องเที่ยวจากจีนที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยมีจำนวนสูงกว่าสิบล้านคน และสามารถดึงดูดเม็ดเงินเข้าประเทศได้กว่า 5.8 แสนล้านบาท สำหรับเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงนี้ เป็นอีกหนึ่งโอกาสทองที่ไทยจะสามารถคว้าเม็ดเงินจำนวนมหาศาลนี้ไว้ได้ หากรู้และเข้าใจวัฒนธรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ และความต้องการของชาวจีน


ซองแดง ที่ชาวจีนนิยมมอบให้กันในวันตรุษจีน (2)

อ.อุษณีษ์ จึงได้รวบรวมเรื่องง่าย ๆ ไว้ 6 ข้อ ที่หากคนไทย รวมทั้งภาคบริการไทยทำตาม รับรองว่า จับใจนักท่องเที่ยวชาวจีนได้อย่างแน่นอน และมีโอกาสดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้กลับมาเยือนไทยในโอกาสถัดไปอีกด้วย

1.รู้คำอวยพรจีนง่าย ๆ ได้ใจชาวจีน ชาวจีนมักใช้โอกาสนี้กล่าวคำอวยพรให้กัน เพื่อเป็นศิริมงคลต่อตัวเองและคนรอบข้าง ซึ่งหากภาคบริการหรือคนทั่วไปมีโอกาสได้ทักทายชาวจีนและสามารถกล่าวคำอวยพรภาษาจีนได้ ก็จะได้ใจชาวจีนไปเต็ม ๆ โดยคำอวยพรภาษาจีนกลางแบบง่าย ๆ ที่เราควรรู้ไว้ ก็เช่น ซินเหนียนไคว่เล่อ แปลว่า สวัสดีปีใหม่, ว่านซื่อหรูอี้ แปลว่า ขอให้สมหวังดังปรารถนาทุกประการ, เซินถี่เจี้ยนคัง แปลว่า ขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และกงสี่ฟาฉาย แปลว่า ขอให้ร่ำรวยเงินทองไหลมาเทมา


นักท่องเที่ยวชาวจีน

2.มอบสิ่งดี ๆ ให้กันในวันตรุษจีน นอกจากคำอวยพรง่าย ๆ ที่สามารถกล่าวทักทายกันในเทศกาลตรุษจีนแล้ว การมอบของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เป็นธรรมเนียมที่ชาวจีนมักปฏิบัติกันในเทศกาลนี้ ไม่ว่าจะเป็น การมอบส้มจำนวนเลขคู่ที่แสดงถึงความโชคดี หรือ การมอบอั่งเป่า เพื่อแสดงถึงความกตัญญู ซึ่งเป็นปรัชญาจีนสำคัญที่ชาวจีนยึดถือ สำหรับภาคบริการไทยก็สามารถเอาใจนักท่องเที่ยวชาวจีนง่าย ๆ ด้วยการสร้างกิมมิคเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่น การมอบซองแดงที่มีคำอวยพรจีนอยู่ข้างใน หรือ การให้ใบเสร็จโดยใส่ในซองแดง เพื่อให้เข้ากับเทศกาล เป็นต้น รวมถึงการจัดกิจกรรมสนับสนุนการขาย หรือ การร่วมสนุกผ่านแฮชแท็ก เพื่อลุ้นรับรางวัล ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะขยายการรับรู้ไปยังชาวจีนจำนวนมากและตอบโจทย์ความนิยมเล่นโซเชียลมีเดียเป็นชีวิตจิตใจของชาวจีนได้


การให้ส้ม สื่อถึงความโชคดีตลอดปี

3.การแต่งกาย ประดับตกแต่งสถานที่ให้เข้ากับเทศกาล ข้อนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่คนไทยทำได้ดีอยู่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนไทยให้ความสำคัญกับเทศกาลต่าง ๆ ทั้งการแต่งกายด้วยชุดกี่เพ้า การเปิดเพลงจีนประกอบตามสถานที่ต่าง ๆ รวมทั้งการประดับตกแต่งอาคารบ้านเรือนด้วยสิ่งของมงคล ไม่ว่าจะเป็น โคมแดง ป้ายอักษรมงคลจีน รูปภาพมงคลต่าง ๆ เช่น มังกร ปลา เด็กที่มีร่างกายสมบูรณ์ ดอกเก๊กฮวย ดอกโบตั๋น เป็นต้น ของประดับตกแต่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่มีความหมายต่อชาวจีนและสามารถสร้างความประทับใจให้ชาวจีนได้ไม่น้อย

4.รองรับขาช็อปชาวจีนด้วยระบบ E-Commerce จากสถิติการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีน อันดับ 1 อยู่ที่การช็อปปิ้ง ซึ่งประเทศไทยเองก็มีสินค้าและย่านช็อปปิ้งที่หลากหลายตอบโจทย์นักท่องเที่ยวจีน สิ่งที่ภาคการค้าของไทยควรพัฒนาเพิ่มเติม ก็คือ การอำนวยความสะดวกพฤติกรรมการจับจ่ายของชาวจีนที่นิยมใช้จ่ายผ่านระบบ E-Commerce โดยการที่ร้านค้าทุกขนาดปรับตัวเพื่อรองรับการจ่ายเงินด้วย e-Money ไม่ว่าจะเป็น การใช้จ่ายผ่านแอพพลิเคชัน Alipay WeChat ที่คนจีนนิยมใช้กัน เป็นต้น จะยิ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้ชาวจีนจับจ่ายได้ง่ายขึ้น และอาจทำให้ตัวเลขการใช้จ่ายของชาวจีนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีกด้วย


การใช้จ่ายผ่านระบบ e-commerce

5.พัฒนาแอพแนะนำแหล่งที่เที่ยว ชิม ช็อป เจาะกลุ่มชาวจีนโดยเฉพาะ ปัจจุบัน รูปแบบของนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวเมืองไทยเป็นแบบอิสระมากขึ้น (non-Group Tour) เนื่องจากการเข้าถึงข้อมูลแหล่งที่กิน ที่เที่ยว สามารถทำได้ง่ายขึ้น เพื่อให้การอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวในเมืองไทยเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น เราจึงควรพัฒนาแอพพลิเคชันต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวจีนโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งร้านอาหารที่น่าสนใจ การใช้บริการคมนาคมที่สะดวก ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของชาวจีน การทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าถึงข้อมูลการท่องเที่ยวไทยได้ง่ายขึ้นผ่านแอพพลิเคชัน จะทำให้ในอนาคตชาวจีนหันมาท่องเที่ยวแบบอิสระ ไม่ผ่านกรุ๊ปทัวร์ และทำให้เม็ดเงินของชาวจีนกระจายไปสู่ธุรกิจภาคบริการและการท่องเที่ยวไทยอย่างแท้จริง

6.ตรุษจีนนี้ลดค่า PM 2.5 ด้วยประทัดแบบไร้มลพิษ หนึ่งในสิ่งที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลตรุษจีน ก็คือ การจุดประทัด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ เสียงดังเหมือนเสียงประทัด แต่ทราบหรือไม่ว่า ที่มาของการจุดประทัด ก็คือ การใช้เสียงดังเพื่อขับไล่ปีศาจที่ชั่วร้าย คนจีนจึงนิยมจุดประทัดเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายตั้งแต่ต้นปี


เทศกาลตรุษจีน

แต่ด้วยสถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ในตอนนี้ การจุดประทัดอาจจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมความเลวร้ายของสภาพอากาศ แต่เมื่อเรารู้ถึงที่มาของธรรมเนียมการจุดประทัดที่ต้องการเพียงแค่เสียงดังแล้ว ก็อาจจะปรับเปลี่ยนวิธีการทำให้เกิดเสียงดังโดยไม่เกิดมลพิษได้ ประเทศจีนเองที่มีปัญหามลพิษทางอากาศก็เริ่มหันมาเปลี่ยนจากการจุดประทัดเป็นการใช้ลูกโป่ง มาประดิษฐ์ด้วยวิธีการที่ทำให้เกิดเสียงเช่นเดียวกับประทัด เรียกได้ว่า ยังคงตอบโจทย์ความเชื่อเดิม แต่เปลี่ยนวิธีการใหม่ที่ไม่กระทบต่อมลพิษ สำหรับประเทศไทยในช่วงท่ามกลางวิกฤตฝุ่นพิษ ถ้าลองหันมาใช้วิธีแบบจีนก็จะช่วยป้องกันการเกิดมลพิษเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อย


ป้ายอักษรจีน

"การเอาใจนักท่องเที่ยวชาวจีน ก็เป็นเหมือนการค่อย ๆ ซึมซับวัฒนธรรมจีนเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเข้าใจความชอบและความต้องการที่แท้จริงของชาวจีน ซึ่งเปรียบเสมือนการลงทุนอันยิ่งใหญ่ในระยะยาว เพื่อตอบรับโอกาสอื่น ๆ จากจีนที่จะตามมาในอนาคต อีกทั้งในปัจจุบัน เทรนด์การเรียนรู้และทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในอาณาบริเวณศึกษาแห่งหนึ่งโดยเฉพาะ เป็นเทรนด์การเรียนรู้ที่มาแรงอย่างยิ่ง จีนเองเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีการเติบโตในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ รวมถึงด้านวัฒนธรรมและภาษาที่ทรงอิทธิพลมากขึ้นทั่วโลก จีนจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในการศึกษาแบบอาณาบริเวณศึกษา ซึ่งการเรียนหลักสูตรจีนศึกษา วิทยาลัยนานาชาติ ปรีดี พนมยงค์ จะสามารถตอบโจทย์การเรียนรู้ที่ลึกซึ้งและรอบด้าน เพื่อรองรับอนาคตที่เติบโตอย่างก้าวไกลของจีนได้แน่นอน" อ.อุษณีษ์ กล่าวทิ้งท้าย

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว