หุ้นไทยยังน่าสนใจ แนะลงทุนหุ้นปันผลสูง
บลจ.วรรณชี้ผลตอบแทนตลาดหุ้นไทยยังน่าสน แนะปรับกลยุทธ์ลงทุนหุ้นปันผลสูง ลดพึ่งพาผลตอบแทนจากราคาหุ้นช่วงดัชนีผันผวน พร้อมเปิดเสนอกองทุนเปิด วรรณ เซ็ท ไฮ ดิวิเดนด์(ONE-SETHD) เน้นลงทุนหุ้นในดัชนี SET High Dividend 30 Total Return Index นที่ 31 ม.ค. – 15 ก.พ. นี้
[caption id="attachment_384230" align="aligncenter" width="337"]
นายพจน์ หะริณสุต[/caption]
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด(บลจ.วรรณ)เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยตั้งเป้าหมายดัชนีไว้ที่ 1,723 จุด จากปัจจัยบวกด้านเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังมีทิศทางที่ดี ประกอบกับได้แรงสนับสนุนจากการบริโภคและการฟื้นตัวภายในประเทศมาช่วยชดเชยการเติบโตที่ชะลอตัวจากการส่งออก ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามทางการค้าและการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีน
“ตลาดหุ้นไทยปีนี้ ยังมีทิศทางที่ดีจากปัจจัยภายในประเทศที่มีความชัดเจนขึ้นต่อเนื่อง ทั้งการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับการลงทุนและภาคเศรษฐกิจ การบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวได้ดีขึ้น แต่ยังอยู่ในลักษณะของการเติบโตแบบกระจุกตัว ภาคเอกชนเริ่มส่งสัญญาณที่ดีและเอื้อผลดีต่อการจ้างงานภาคเอกชน”
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างประเทศพอสมควรทั้ง สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ซึ่งกระทบภาคการส่งออกของไทย รวมถึงการลดลงของนักท่องเที่ยวจีน ทำให้มีผลต่ออัตราการเติบโตของ GDP ปีนี้ ซึ่งธปท.คาดการณ์ว่า GDP จะชะลอลงอยู่ที่ 4% จากปีก่อน 4.2% ซึ่งปัจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยให้ผันผวนได้ง่ายขึ้น” ทั้งนี้ หากพิจารณาอัตราผลตอบแทนระหว่างตลาดหุ้นและพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี (Earning Yield Gap)พบว่า หุ้นที่อยู่ในดัชนี SETHD ยังสร้างกระแสเงินสดจากอัตราเงินปันผลได้สูงในรอบ 3 ปีเฉลี่ยประมาณ 5% ขณะที่ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 2.5% ชี้ได้ว่า หุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูงยังน่าสนใจและสามารถชดเชยความผันผวนของราคาหุ้นในปีนี้
ดังนั้น บลจ.วรรณจึงมองเป็นโอกาสของการลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูง โดยบริษัทได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิด วรรณ เซ็ท ไฮ ดิวิเดนด์(ONE-SETHD)ระหว่าง 31 มกราคม-15 กุมภาพันธ์นี้ เน้นลงทุนในปันผลสูง เพื่อลดการพึ่งพาผลตอบแทนจากราคาหุ้นในภาวะที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน โดยกองทุน ONE-SETHD จะพิจารณาเลือกลงทุนในหุ้นที่อยู่ในดัชนี SET High Dividend 30 Total Return Index และเน้นการบริหารกองทุนแบบเชิงรุก(Active Fund)
[caption id="attachment_384230" align="aligncenter" width="337"]
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด(บลจ.วรรณ)เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยตั้งเป้าหมายดัชนีไว้ที่ 1,723 จุด จากปัจจัยบวกด้านเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังมีทิศทางที่ดี ประกอบกับได้แรงสนับสนุนจากการบริโภคและการฟื้นตัวภายในประเทศมาช่วยชดเชยการเติบโตที่ชะลอตัวจากการส่งออก ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามทางการค้าและการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีน
“ตลาดหุ้นไทยปีนี้ ยังมีทิศทางที่ดีจากปัจจัยภายในประเทศที่มีความชัดเจนขึ้นต่อเนื่อง ทั้งการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับการลงทุนและภาคเศรษฐกิจ การบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวได้ดีขึ้น แต่ยังอยู่ในลักษณะของการเติบโตแบบกระจุกตัว ภาคเอกชนเริ่มส่งสัญญาณที่ดีและเอื้อผลดีต่อการจ้างงานภาคเอกชน”
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างประเทศพอสมควรทั้ง สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ซึ่งกระทบภาคการส่งออกของไทย รวมถึงการลดลงของนักท่องเที่ยวจีน ทำให้มีผลต่ออัตราการเติบโตของ GDP ปีนี้ ซึ่งธปท.คาดการณ์ว่า GDP จะชะลอลงอยู่ที่ 4% จากปีก่อน 4.2% ซึ่งปัจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยให้ผันผวนได้ง่ายขึ้น” ทั้งนี้ หากพิจารณาอัตราผลตอบแทนระหว่างตลาดหุ้นและพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี (Earning Yield Gap)พบว่า หุ้นที่อยู่ในดัชนี SETHD ยังสร้างกระแสเงินสดจากอัตราเงินปันผลได้สูงในรอบ 3 ปีเฉลี่ยประมาณ 5% ขณะที่ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 2.5% ชี้ได้ว่า หุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูงยังน่าสนใจและสามารถชดเชยความผันผวนของราคาหุ้นในปีนี้
ดังนั้น บลจ.วรรณจึงมองเป็นโอกาสของการลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูง โดยบริษัทได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิด วรรณ เซ็ท ไฮ ดิวิเดนด์(ONE-SETHD)ระหว่าง 31 มกราคม-15 กุมภาพันธ์นี้ เน้นลงทุนในปันผลสูง เพื่อลดการพึ่งพาผลตอบแทนจากราคาหุ้นในภาวะที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน โดยกองทุน ONE-SETHD จะพิจารณาเลือกลงทุนในหุ้นที่อยู่ในดัชนี SET High Dividend 30 Total Return Index และเน้นการบริหารกองทุนแบบเชิงรุก(Active Fund)
