MQDC บุกมิกซ์ยูสเต็มตัว! ตีตลาดไทย-เทศ สุขุมวิทตอนปลาย
การขยับปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของผู้ประกอบการไทย นับวันยิ่งมีความชัดเจนขึ้น ทั้งรูปแบบและการเจาะกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะประเด็นที่ดินราคาแพง ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าคนรุ่นใหม่ กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึง ก่อให้เกิดโครงการในลักษณะ "มิกซ์ยูส" ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดในโซนใจกลางเมือง แนวรถไฟฟ้าสายสำคัญ หวังตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลาย รวมโครงการที่อยู่อาศัย คอมมูนิตี้มอลล์ และออฟฟิศ บิวดิ้งเข้าด้วยกัน ถือเป็นสูตรที่ลงตัว และถูกนำมาใช้ภายในโครงการ 101 The Third Place สุขุมวิท 101 จับกลุ่มลูกค้าไทยและต่างชาติ
นางณิชา ศรีสงวนสกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายงานบริหารพื้นที่พาณิชย์และค้าปลีก บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทได้พัฒนาคอนโดมิเนียม WHIZDOM101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) โครงการขนาดใหญ่ในย่าน สุขุมวิท 101 ใกล้สถานีรถไฟฟ้า ปุณณวิถี ราคาเฉลี่ย 1.4-1.5 แสนบาท/ตารางเมตร ในรูปแบบ The Third Place ล่าสุด เมื่อ 1 ก.พ. 2562 จัดงานเปิดตัวไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ ที่เชื่อว่าครบวงจรที่สุดแห่งแรกของไทย และเป็นสมาร์ทซี้ตี้เพียงไม่กี่แห่ง ภายใต้ชื่อ โครงการ 101 @True Digital Park รวมมูลค่าทั้งโครงการ 3 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยและพัฒนาเป็นสถานที่ทำงานรูปแบบใหม่ โดยโครงการดังกล่าวมีพื้นที่รวม 40,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้า บริการ สิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่ออกกำลังกาย รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สีเขียวรวมกัน 20,000 ตารางเมตร
โดยพื้นที่เช่าค้าปลีกของโครงการดังกล่าว มีพื้นที่ทั้งหมดรวม 20,000 ตารางเมตร ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาเช่าพื้นที่แล้วสัดส่วน 90% และคาดว่า ภายในเดือน มี.ค. นี้ จะมีลูกค้าเข้ามาใช้พื้นที่จนครบ 100% ในอัตราค่าเช่า 1,200-2,000 บาท/ตารางเมตร/เดือน เปิดสิทธิ์สัญญาการเช่าทั้งสัญญาระยะสั้นและระยะยาวสูงสุด 12 ปี ตั้งเป้าหมายมีลูกค้าเดินทางเข้ามาใช้บริการในโครงการดังกล่าว เฉลี่ย 40,000-50,000 คน/วัน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งลูกบ้านที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียม WHIZDOM 101 และกลุ่มลูกค้าในพื้นที่โดยรอบระยะทาง 3-5 กิโลเมตร ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่าชาติพักอาศัย
"จากการสำรวจในรัศมี 3 กิโลเมตร อดีตมีประชากร 7 แสนคน ปัจจุบัน เพิ่มขึ้นมากเป็น 3-4 ล้านคน ในช่วงแค่ 2 ปีเท่านั้น ส่วนคนใช้บริการรถไฟฟ้าสถานีปุณณวิถี เติบโตขึ้น 10 เท่า จากเดือนละ 2 แสนคน ปัจจุบันเป็น 2 ล้านคน ขณะที่ แนวโน้มการอยู่อาศัยของคนต่างชาติน่าสนใจในย่านนี้ มีทั้งชาวอังกฤษ สหรัฐฯ จีน และเกาหลี เป็นต้น อาศัยอยู่"
นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในรูปแบบตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะโซนกิจกรรมและร้านอาหาร มากกว่าครึ่งจะเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง รวมถึงการจัดกิจกรรม Night Market ในบางสัปดาห์ และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ ตลอดทั้งปี ผ่านการจัดคอนเสริต์ของศิลปินต่าง ๆ
ขณะที่ การพัฒนาโครงการ 101 @True Digital Park ในเฟส 2 เนื้อที่ 17 ไร่ จากทั้งหมด 43 ไร่ อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการพัฒนา 40,000 ตารางเมตร ซึ่งจัดอยู่ในรูปแบบเดียวกัน คือ ออฟฟิศรูปแบบดิจิทัลฮับ เจาะกลุ่มผู้เช่าสตาร์ทอัพ Venture Capital บริษัทต่างชาติและหน่วยงานของรัฐ เป็นต้น
สรุปจุดเด่นภายในพื้นที่ 101@True Digital Park พื้นที่หลัก 3 โซน ได้แก่
1.101 Park พื้นที่ภายในอาคารและภายนอกอาคารจะถูกผสานรวมกันด้วยพื้นที่พื้นที่สีเขียวกว่า 5,000 ตารางเมตร ที่สอดแทรกอยู่ทั่วคอมเพล็กซ์ ซึ่งมีแลนด์สเคปเป็นพื้นที่แนวนอนกว่า 3 ไร่ (เสร็จสมบูรณ์ในปี 2563) ประกอบด้วย สวนบนดาดฟ้า สวนที่ออกแบบให้สอดคล้องกับธรรมชาติท้องถิ่น เพื่อคืนระบบนิเวศดั้งเดิมสู่พื้นที่โดยรอบโครงการ และสนามหญ้าขนาดใหญ่ที่สามารถดัดแปลงเป็นลานกิจกรรม
2.Hillside Town พื้นที่ค้าปลีก ช้อป และชิมท่ามกลางบรรยากาศเมืองเล็ก ๆ กลางหุบเขา ลัดเลาะตามทางเดินบนเนินที่โค้งตัวไปมา
3.24-Hour Street ร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านสะดวกซื้อ เพื่อตอบโจทย์คนนอนดึกตลอด 24 ชั่วโมง
นางณิชา ศรีสงวนสกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายงานบริหารพื้นที่พาณิชย์และค้าปลีก บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทได้พัฒนาคอนโดมิเนียม WHIZDOM101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) โครงการขนาดใหญ่ในย่าน สุขุมวิท 101 ใกล้สถานีรถไฟฟ้า ปุณณวิถี ราคาเฉลี่ย 1.4-1.5 แสนบาท/ตารางเมตร ในรูปแบบ The Third Place ล่าสุด เมื่อ 1 ก.พ. 2562 จัดงานเปิดตัวไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ ที่เชื่อว่าครบวงจรที่สุดแห่งแรกของไทย และเป็นสมาร์ทซี้ตี้เพียงไม่กี่แห่ง ภายใต้ชื่อ โครงการ 101 @True Digital Park รวมมูลค่าทั้งโครงการ 3 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยและพัฒนาเป็นสถานที่ทำงานรูปแบบใหม่ โดยโครงการดังกล่าวมีพื้นที่รวม 40,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้า บริการ สิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่ออกกำลังกาย รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สีเขียวรวมกัน 20,000 ตารางเมตร
โดยพื้นที่เช่าค้าปลีกของโครงการดังกล่าว มีพื้นที่ทั้งหมดรวม 20,000 ตารางเมตร ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาเช่าพื้นที่แล้วสัดส่วน 90% และคาดว่า ภายในเดือน มี.ค. นี้ จะมีลูกค้าเข้ามาใช้พื้นที่จนครบ 100% ในอัตราค่าเช่า 1,200-2,000 บาท/ตารางเมตร/เดือน เปิดสิทธิ์สัญญาการเช่าทั้งสัญญาระยะสั้นและระยะยาวสูงสุด 12 ปี ตั้งเป้าหมายมีลูกค้าเดินทางเข้ามาใช้บริการในโครงการดังกล่าว เฉลี่ย 40,000-50,000 คน/วัน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งลูกบ้านที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียม WHIZDOM 101 และกลุ่มลูกค้าในพื้นที่โดยรอบระยะทาง 3-5 กิโลเมตร ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่าชาติพักอาศัย
"จากการสำรวจในรัศมี 3 กิโลเมตร อดีตมีประชากร 7 แสนคน ปัจจุบัน เพิ่มขึ้นมากเป็น 3-4 ล้านคน ในช่วงแค่ 2 ปีเท่านั้น ส่วนคนใช้บริการรถไฟฟ้าสถานีปุณณวิถี เติบโตขึ้น 10 เท่า จากเดือนละ 2 แสนคน ปัจจุบันเป็น 2 ล้านคน ขณะที่ แนวโน้มการอยู่อาศัยของคนต่างชาติน่าสนใจในย่านนี้ มีทั้งชาวอังกฤษ สหรัฐฯ จีน และเกาหลี เป็นต้น อาศัยอยู่"
นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในรูปแบบตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะโซนกิจกรรมและร้านอาหาร มากกว่าครึ่งจะเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง รวมถึงการจัดกิจกรรม Night Market ในบางสัปดาห์ และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ ตลอดทั้งปี ผ่านการจัดคอนเสริต์ของศิลปินต่าง ๆ
ขณะที่ การพัฒนาโครงการ 101 @True Digital Park ในเฟส 2 เนื้อที่ 17 ไร่ จากทั้งหมด 43 ไร่ อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการพัฒนา 40,000 ตารางเมตร ซึ่งจัดอยู่ในรูปแบบเดียวกัน คือ ออฟฟิศรูปแบบดิจิทัลฮับ เจาะกลุ่มผู้เช่าสตาร์ทอัพ Venture Capital บริษัทต่างชาติและหน่วยงานของรัฐ เป็นต้น
สรุปจุดเด่นภายในพื้นที่ 101@True Digital Park พื้นที่หลัก 3 โซน ได้แก่
1.101 Park พื้นที่ภายในอาคารและภายนอกอาคารจะถูกผสานรวมกันด้วยพื้นที่พื้นที่สีเขียวกว่า 5,000 ตารางเมตร ที่สอดแทรกอยู่ทั่วคอมเพล็กซ์ ซึ่งมีแลนด์สเคปเป็นพื้นที่แนวนอนกว่า 3 ไร่ (เสร็จสมบูรณ์ในปี 2563) ประกอบด้วย สวนบนดาดฟ้า สวนที่ออกแบบให้สอดคล้องกับธรรมชาติท้องถิ่น เพื่อคืนระบบนิเวศดั้งเดิมสู่พื้นที่โดยรอบโครงการ และสนามหญ้าขนาดใหญ่ที่สามารถดัดแปลงเป็นลานกิจกรรม
2.Hillside Town พื้นที่ค้าปลีก ช้อป และชิมท่ามกลางบรรยากาศเมืองเล็ก ๆ กลางหุบเขา ลัดเลาะตามทางเดินบนเนินที่โค้งตัวไปมา
3.24-Hour Street ร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านสะดวกซื้อ เพื่อตอบโจทย์คนนอนดึกตลอด 24 ชั่วโมง
