ลองของเล่นใหม่ "WET Mode - PORSCHE 992" สนุกได้ มั่นใจด้วย
การเดินทางไปลองขับ "ปอร์เช่ 911 โฉมใหม่ (992)" ที่สนามแข่งรถทางเรียบ "ริคาร์โด โตโม" เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน เมื่อสัปดาห์ก่อน (อ่านรีวิวฉบับเต็ม : "ปอร์เช่ 911 โฉมใหม่" สปอร์ตคาร์เบอร์ 1 ของโลก ... ใครก็โค่นยาก)
ทีมงานจากเยอรมนียังแยกการทดสอบเป็นสถานีเล็ก ๆ เพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้สัมผัสโหมดการขับขี่ใหม่ WET Mode หรือ โหมดการขับขี่บนถนนที่เปียกลื่น
รุ่นที่ลองขับเป็น "911 คาร์เรรา เอส" ขับเคลื่อน 2 ล้อ ซึ่งทีมงานใช้สนามแข่งสั้น ๆ พร้อมวางสปริงเกลอร์พ่นน้ำเต็มบริเวณ ผมได้ลองสถานี WET Mode นี้ เป็นด่านสุดท้าย หลังได้ตะบันมาเต็ม ๆ แล้วในสนามใหญ่แบบเต็มแทร็ก และขับออกไปชมสวนส้มระยะทางอีก 100 กม. นั่นหมายถึงเริ่มทำความคุ้นเคยกับรถมาระดับหนึ่งแล้ว
ผู้ฝึกสอนแจ้งว่า "ปอร์เช่ 911" ที่มีระบบ WET Mode เมื่อตรวจจับได้ว่ารถกำลังเข้าสู่พื้นถนนเปียกลื่น รถจะส่งสัญญาณแจ้งมายังคนขับให้เลือกเปลี่ยนโหมดการขับขี่ (เดิมอาจจะเป็น Normal, Sport หรือ Sport Plus อยู่) ซึ่งขึ้นอยู่กับคนขับครับ ว่า จะหมุนปุ่มเลือกให้รถทำงานใน WET Mode ตามคำแนะนำของรถหรือไม่ (จะมีปุ่มบนพวงมาลัยเมื่อติดตั้ง Sport Chrono Package)
Wet Mode จะติด Acoustic Sensors ไว้บริเวณซุ้มล้อหน้า เพื่อตรวจจับปริมาณละอองนํ้าที่ถูกสาดขึ้นมาบริเวณซุ้มล้อ ในกรณีที่ระบบตรวจพบผิวถนนที่เปียกลื่น (แล้วเราเลือกใช้โหมดนี้) ระบบจะไล่เลียงการสั่งงานจากระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Porsche Stability Management (PSM) และระบบ Porsche Traction Management (PTM) โดยทั้ง 2 ระบบ จะถูกเตรียมพร้อมและตอบสนองรวดเร็วกว่าในสถานการณ์ปกติทั่วไป พร้อมปรับระดับของสปอยเลอร์หลังให้ยกตัวสูงที่สุด รวมถึงครีบดักอากาศกันชนหน้าจะเปิดออกจนสุด เพื่อเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวของรถ จากนั้นถึงเป็นเรื่องการตอบสนองของเครื่องยนต์และตำแหน่งเกียร์
เหนืออื่นใดถ้าเป็นรุ่น "911 คาร์เรรา 4 เอส" ขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลังส่วนหนึ่งจะถูกส่งไปยังล้อคู่หน้าด้วยอัตราส่วนที่มากกว่าปกติ พร้อมปรับสัดส่วนการจับตัวของเฟืองท้าย Electronically Controlled Differential
การขับขี่จริง ผมลองเปรียบเทียบระหว่างโหมด Sport Plus กับ Wet Mode ในสนามแข่งที่นองไปด้วยนํ้า พบว่า การตอบสนองของรถต่างกันมากครับ โดยโหมดแรกเมื่อเราเข้า-ออกโค้งแรง ๆ จะมีอาการสะบัด รถมีเหวี่ยงไม่พอใจ แต่ถ้าเราเลือกใช้ Wet Mode เมื่อเข้าโค้งหรือออกจากโค้งด้วยความเร็วเดียวกัน กลับไม่พบอาการดังกล่าว
ตัวรถมีความสมดุล บนความเร็วที่เราต้องการ ซึ่งผมสัมผัสการทำงานของระบบนี้แล้ว ยืนยันว่า สามารถช่วยเรื่องความปลอดภัย หรือ สร้างความมั่นใจให้ผู้ขับได้แน่ ๆ เพียงแต่เป้าประสงค์สำคัญของปอร์เช่จากการพัฒนาระบบนี้ คือ ต้องการให้เจ้าของ 911 สามารถขับลูกรักได้อย่างสนุกสนานบนความเร็วที่ต้องการ (ตามสมควร)
"Wet Mode ได้รับการคิดค้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ในสภาพการณ์ที่ต้องเผชิญกับพื้นถนนเปียกลื่น ซึ่งการทำงานของระบบจะไม่ขวางกั้นพละกำลังมหาศาลของเครื่องยนต์และไม่ได้เป็นการจำกัดความเร็วสูง แม้สิ่งนี้ไม่ได้เป็นหลักประกันความปลอดภัยต่อการขับขี่ด้วยความเร็วสูงเกินขอบเขตในสภาวะแวดล้อมที่เต็มไปด้วยนํ้า แต่รับรองได้ว่า นี่คือ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่สามารถเข้าถึงทุกประสาทสัมผัสของผู้ขับขี่ได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ Wet Mode ยังครอบคลุมถึงการใช้งานบนพื้นผิวที่ปกคลุมด้วยหิมะด้วย" Mr.August Achleitner หัวหน้าทีมพัฒนารถยนต์ปอร์เช่ กล่าว
สำหรับ "ปอร์เช่ 911 โฉมใหม่ (992)" เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ เปิดรับจองแล้ว โดยรุ่น 911 คาร์เรรา เอส ราคา 12.808 ล้านบาท และคาร์เรรา 4 เอส 13.508 ล้านบาท ซึ่งรถจะพร้อมส่งมอบตั้งแต่เดือน ส.ค. นี้
10 เรื่องต้องรู้ 911 โฉมใหม่
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,441 วันที่ 3 - 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
ทีมงานจากเยอรมนียังแยกการทดสอบเป็นสถานีเล็ก ๆ เพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้สัมผัสโหมดการขับขี่ใหม่ WET Mode หรือ โหมดการขับขี่บนถนนที่เปียกลื่น
รุ่นที่ลองขับเป็น "911 คาร์เรรา เอส" ขับเคลื่อน 2 ล้อ ซึ่งทีมงานใช้สนามแข่งสั้น ๆ พร้อมวางสปริงเกลอร์พ่นน้ำเต็มบริเวณ ผมได้ลองสถานี WET Mode นี้ เป็นด่านสุดท้าย หลังได้ตะบันมาเต็ม ๆ แล้วในสนามใหญ่แบบเต็มแทร็ก และขับออกไปชมสวนส้มระยะทางอีก 100 กม. นั่นหมายถึงเริ่มทำความคุ้นเคยกับรถมาระดับหนึ่งแล้ว
ผู้ฝึกสอนแจ้งว่า "ปอร์เช่ 911" ที่มีระบบ WET Mode เมื่อตรวจจับได้ว่ารถกำลังเข้าสู่พื้นถนนเปียกลื่น รถจะส่งสัญญาณแจ้งมายังคนขับให้เลือกเปลี่ยนโหมดการขับขี่ (เดิมอาจจะเป็น Normal, Sport หรือ Sport Plus อยู่) ซึ่งขึ้นอยู่กับคนขับครับ ว่า จะหมุนปุ่มเลือกให้รถทำงานใน WET Mode ตามคำแนะนำของรถหรือไม่ (จะมีปุ่มบนพวงมาลัยเมื่อติดตั้ง Sport Chrono Package)
Wet Mode จะติด Acoustic Sensors ไว้บริเวณซุ้มล้อหน้า เพื่อตรวจจับปริมาณละอองนํ้าที่ถูกสาดขึ้นมาบริเวณซุ้มล้อ ในกรณีที่ระบบตรวจพบผิวถนนที่เปียกลื่น (แล้วเราเลือกใช้โหมดนี้) ระบบจะไล่เลียงการสั่งงานจากระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Porsche Stability Management (PSM) และระบบ Porsche Traction Management (PTM) โดยทั้ง 2 ระบบ จะถูกเตรียมพร้อมและตอบสนองรวดเร็วกว่าในสถานการณ์ปกติทั่วไป พร้อมปรับระดับของสปอยเลอร์หลังให้ยกตัวสูงที่สุด รวมถึงครีบดักอากาศกันชนหน้าจะเปิดออกจนสุด เพื่อเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวของรถ จากนั้นถึงเป็นเรื่องการตอบสนองของเครื่องยนต์และตำแหน่งเกียร์
เหนืออื่นใดถ้าเป็นรุ่น "911 คาร์เรรา 4 เอส" ขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลังส่วนหนึ่งจะถูกส่งไปยังล้อคู่หน้าด้วยอัตราส่วนที่มากกว่าปกติ พร้อมปรับสัดส่วนการจับตัวของเฟืองท้าย Electronically Controlled Differential
การขับขี่จริง ผมลองเปรียบเทียบระหว่างโหมด Sport Plus กับ Wet Mode ในสนามแข่งที่นองไปด้วยนํ้า พบว่า การตอบสนองของรถต่างกันมากครับ โดยโหมดแรกเมื่อเราเข้า-ออกโค้งแรง ๆ จะมีอาการสะบัด รถมีเหวี่ยงไม่พอใจ แต่ถ้าเราเลือกใช้ Wet Mode เมื่อเข้าโค้งหรือออกจากโค้งด้วยความเร็วเดียวกัน กลับไม่พบอาการดังกล่าว
ตัวรถมีความสมดุล บนความเร็วที่เราต้องการ ซึ่งผมสัมผัสการทำงานของระบบนี้แล้ว ยืนยันว่า สามารถช่วยเรื่องความปลอดภัย หรือ สร้างความมั่นใจให้ผู้ขับได้แน่ ๆ เพียงแต่เป้าประสงค์สำคัญของปอร์เช่จากการพัฒนาระบบนี้ คือ ต้องการให้เจ้าของ 911 สามารถขับลูกรักได้อย่างสนุกสนานบนความเร็วที่ต้องการ (ตามสมควร)
"Wet Mode ได้รับการคิดค้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ในสภาพการณ์ที่ต้องเผชิญกับพื้นถนนเปียกลื่น ซึ่งการทำงานของระบบจะไม่ขวางกั้นพละกำลังมหาศาลของเครื่องยนต์และไม่ได้เป็นการจำกัดความเร็วสูง แม้สิ่งนี้ไม่ได้เป็นหลักประกันความปลอดภัยต่อการขับขี่ด้วยความเร็วสูงเกินขอบเขตในสภาวะแวดล้อมที่เต็มไปด้วยนํ้า แต่รับรองได้ว่า นี่คือ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่สามารถเข้าถึงทุกประสาทสัมผัสของผู้ขับขี่ได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ Wet Mode ยังครอบคลุมถึงการใช้งานบนพื้นผิวที่ปกคลุมด้วยหิมะด้วย" Mr.August Achleitner หัวหน้าทีมพัฒนารถยนต์ปอร์เช่ กล่าว
สำหรับ "ปอร์เช่ 911 โฉมใหม่ (992)" เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ เปิดรับจองแล้ว โดยรุ่น 911 คาร์เรรา เอส ราคา 12.808 ล้านบาท และคาร์เรรา 4 เอส 13.508 ล้านบาท ซึ่งรถจะพร้อมส่งมอบตั้งแต่เดือน ส.ค. นี้
10 เรื่องต้องรู้ 911 โฉมใหม่
- 1. ประเดิมด้วยรุ่น “คาร์เรรา เอส” (ไม่มี คาร์เรรา เฉยๆ)
- 2.พัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่MMB ที่ถูกใช้เป็นครั้งแรกของรถยนต์ปอร์เช่
- 3.มิติตัวถังยาวขึ้น 20 มม.ระยะฐานล้อเท่าเดิม ส่วนความสูงเพิ่มขึ้น 4 มม. ขณะที่ด้านหน้ากว้างขึ้น 45 มม. หลังกว้างขึ้น 44 มม.
- 4.ใช้อะลูมิเนียมมาเป็นวัสดุทำตัวถังเพิ่มขึ้น ช่วยให้นํ้าหนักเบาลง 12 กิโลกรัม
- 5.เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบนอน ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ พร้อมหัวฉีดPiezo ปรับการจุดระเบิดและอัตราส่วนกำลังอัดใหม่
- 6.รีดกำลังดัวยชุดเทอร์โบคู่แบบสมมาตรที่ปรับทั้งทางเดินไอเสียและตัวเทอร์บายใหญ่ขึ้น ควบคุม ด้วยเวสต์เกตไฟฟ้า สอดคล้องกับอินเตอร์คูลเลอร์ที่ออกแบบใหม่และใหญ่ขึ้น
- 7.รุ่น “คาร์เรรา เอส” ได้แรงม้าเพิ่มขึ้น 30 ตัวเป็น 450 แรงม้า แรงบิดเพิ่มขึ้น 30 นิวตัน-เมตร เป็น 530 นิวตัน-เมตร
- 8.เกียร์คลัตช์คู่ PDK ใหม่ จากเดิม 7 สปีด เป็น 8 สปีด
- 9.ใช้กล้อง 4 ตัวรอบคัน พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับสภาพการจราจรภายนอก ทั้งช่วงกลางวันและยามมืด คอยเตือนและช่วยเบรก
- 10.ระบบใหม่ “โหมดการขับขี่ Wet” เพิ่มความปลอดภัยบนถนนเปียกลื่น
โดย กรกิต กสิคุณ
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,441 วันที่ 3 - 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
