ตลท. เตือน PAE-SSI เร่งแก้ไขเหตุเพิกถอน

01 ก.พ. 2562 | 08:03 น.
ตลท. เตือน PAE-SSI เร่งแก้ไขเหตุเพิกถอน หลังใกล้ครบกำหนด หากไม่ดำเนินการเตรียมชงบอร์ดพิจารณาเพิกถอนหุ้นจากตลาดฯ

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งเตือนบริษัทจดทะเบียน (บจ.) 2 แห่ง คือ บริษัท พีเออี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (บมจ.) หรือ PAE และ บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) ให้เร่งดำเนินการแก้ไขเหตุเพิกถอนให้หมดไป หลังทั้ง 2 บริษัท เป็นบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน และใกล้ครบกำหนดเวลาแก้ไขเหตุเพิกถอนกรณีฐานะการเงินแล้ว

ทั้งนี้ หากบริษัทจดทะเบียนยังไม่สามารถแก้ไขให้เหตุเพิกถอนหมดไปภายในระยะเวลาที่กำหนด ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเสนอคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อพิจารณาเพิกถอนหุ้นสามัญของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อไป

ด้าน นายกมล จันทิมา กรรมการผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี หรือ SSI แจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูประจำไตรมาส 4/2561

1.บริษัทฯ ได้มีการชำระหนี้ในเดือน ต.ค. - ธ.ค. 2561 จำนวน 418.42 ล้านบาท โดยการชำระหนี้ตั้งแต่เริ่มแผนการฟื้นฟูถึงปัจจุบันแล้ว มี 5,490.06 ล้านบาท 2.บริษัทฯ ได้จัดเก็บเงินจากลูกหนี้ ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวข้องกัน คือ บริษัท บี เอส. เมทัล จำกัด และบริษัท สหวิริยาพาณิชย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งมีภาระหนี้คงค้างอยู่กับบริษัทฯ โดยบริษัทฯ ได้ลดหนี้คงค้างจากลูกหนี้ทั้ง 2 ราย เมื่อรวมกันต้องไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท ในปี 2561 นั้น พบว่า ณ วันสิ้นสุดงวดปี 2561 บริษัทฯ ไม่สามารถลดหนี้คงค้างได้ครบตามที่กำหนดไว้ในแผน อย่างไรก็ดี คณะกรรมการเจ้าหนี้ได้มีมติให้บริษัทฯ ดำเนินการกับลูกหนี้ทั้งสอง โดยบริษัทฯ ได้ออกหนังสือทวงถามให้ชำระหนี้ไปยังลูกหนี้ทั้งสองแล้ว เพื่อเร่งให้ลูกหนี้เข้ามาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ต่อไป

3.คณะกรรมการเจ้าหนี้ได้มีมติเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2561 ให้ผ่อนผันเหตุผิดนัดจากการชําระหนี้เงินต้นก่อนกําหนดด้วยกระแสเงินสดส่วนเกินเกินกว่ากําหนดเวลาสําหรับสําหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2560 ซึ่งส่งผลให้บริษัทมิได้ผิดนัดชําระหนี้ตามที่กําหนดไว้ในข้อ 16.1 วรรคท้ายของแผน


595959859

นอกจากนี้ บริษัทฯ ขอรายงานความคืบหน้าในการดําเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ ในปี 2561 เพิ่มเติมดังนี้

4.ตามที่เจ้าหนี้ บมจ.สหวิริยาเพลทมิล ได้ยื่นคําขอรับชําระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีคําสั่งให้ บมจ.สหวิริยาเพลทมิล ได้รับชําระหนี้จํานวน 4.3 ล้านบาท แล้วนั้น ต่อมา มีผู้ยื่นคําร้องคัดค้านต่อศาลล้มละลายกลางและศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษ ตามลําดับ เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2561 ศาลอุทธรณ์ฯ พิจารณาแล้วอนุญาตให้ผู้ร้องถอนคําร้องอุทธรณ์ จึงถือว่า คําสั่งในคําขอรับชําระหนี้ถึงที่สุดแล้ว โดยจะมีผลเป็นไปตามคําสั่งตามคําขอรับชําระหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

5.ตามที่เจ้าหนี้ บริษัท ทาทาสตีล ยูเค ลิมิเต็ด ได้ยื่นคําขอรับชําระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ต่อมา เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2561 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีคําสั่งอนุญาตให้ บริษัท ทาทา สตีล ยูเค ลิมิเต็ด ได้รับการชําระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการในมูลหนี้ ค่าประกันตามสัญญา และค่าเสียหายตามสัญญา เป็นจํานวนเงิน 31 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากบริษัทฯ โดยมีเงื่อนไขว่า เจ้าหนี้จะได้รับชําระต่อเมื่อเกิดความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมและเป็นไปตามเงื่อนไขความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมตามสัญญาซื้อขายโรงถลุงเหล็กและผลิตเหล็กกล้าครบวงจร ฉบับลงวันที่ 24 ก.พ. 2554 ส่วนที่เกินมานั้นให้ยกเสีย ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังไม่มีการเรียกเก็บหนี้ดังกล่าว

ขณะที่ นายสมพร มั่งมี ปฏิหบัติหน้าที่แทนประธานกรรมการบริหาร บมจ.พีเออี (PAE) รายงานความคืบหน้า ว่า จากกรณีที่ศาลอุทธรณ์ชำนาญพิเศษได้มีคำพิพากษาคดีเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2562 โดยพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลล้มละลายกลางให้ฟื้นฟูกิจการของบริษัทและแต่งตั้ง บริษัท พีเออี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ทำแผนตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 90/10 วรรคหนึ่ง และ 90/17 วรรคหนึ่ง ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการรอประกาศคำพิพากษาให้ฟืนฟูกิจการของบริษัทในราชกิจจานุเบกษาตามขั้นตอนที่กฏหมายกำหมด จากนั้นจึงจะสามารถดำเนินการจขั้นตอนต่าง ๆ เกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการและจัดทำแผนฟื้นฟู ซึ่งบริษัทจะแจ้งความคืบหน้าต่อไป

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก