เปิด 5 กลยุทธ์ ดัน 'แพนดอร่า' เจาะนักช็อป
'ธนจิรา' สู้ศึกตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์พรีเมียม ส่ง 'แพนดอร่า' มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน ชู 5 กลยุทธ์ หวังกวาดยอดขาย 850 ล้านบาท เติบโต 17% พร้อมเดินหน้าขยายสาขา 4 แห่ง
ด้วยสภาวะการแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบันที่ดุเดือดมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์พรีเมียมในกลุ่มระดับกลาง-บน ที่มีช่องทางการซื้อขายที่หลากหลาย ทั้งในระบบออนไลน์และออฟไลน์ ขณะที่ การพรีออร์เดอร์สินค้าก็เป็นวิธีที่ลูกค้าส่วนใหญ่นิยมซื้อขายกัน ด้วยรูปแบบวิธีการซื้อขายที่ง่ายขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันคุณค่าของความซื่อสัตย์ต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ลดน้อยลงไป และถึงแม้สินค้ากลุ่มนี้จะแข่งขันรุนแรงแค่ไหน แต่ก็ยังมีผู้เล่นเก่าใหม่ทยอยลงสนามนี้อย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวกัน ธนจิรา Exclusive Distributor ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายและทำการตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์แฟชั่นจากต่างประเทศ ในช่วงที่ผ่านมาที่ได้ประกาศ 5 กลยุทธ์สำคัญในการดำเนินธุรกิจแบรนด์ PANDORA (แพนดอร่า) เครื่องประดับและจิวเวลรีแบรนด์ดังสัญชาติเดนมาร์ก เพื่อให้เหมาะสมกับการแข่งขันกับตลาดในปัจจุบัน
นายธนพงษ์ จิราพาณิชกุล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายแพนดอร่า 850 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 17% โดยการเติบโตครั้งนี้จะมาจากการวางแผนกลยุทธ์สำคัญของบริษัท คือ 1.กลยุทธ์ราคาขาย โดยบริษัทวางแผนปรับราคาขายลง 10% ทุกรายการสินค้า เพื่อให้เท่ากับประเทศหลัก ๆ ในภูมิภาค เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และจีน เป็นต้น 2.การเข้าถึงสินค้าออนไลน์ โดยเฉพาะสินค้าตลาดสีเทา หรือ Grey Market จากประเทศที่ราคาสินค้าถูกว่าประเทศไทยมาก ทำให้แพนดอร่าต้องรีบเร่งยกระดับมาตรฐานการบริการ
3.สิทธิประโยชน์จากการเป็นสมาชิกของธนจิราการ์ด (TANACHIRA Card) ที่มีต่อลูกค้า ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้ปรับปรุงระบบใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2561 และจะสามารถกลับมาใช้งานแบบเต็มรูปแบบอีกครั้ง (Go Live) ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2562 เป็นต้นไป เพื่อตอบโจทย์ว่า ลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์สิ่งใดบ้าง รวมถึงสามารถเห็นคะแนนสะสมแบบเรียลไทม์เมื่อซื้อ
ขณะเดียวกัน กลยุทธ์ที่สำคัญในด้านที่ 4 การขยายสาขาของแบรนด์แพนดอร่าอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิด 4 สาขาใหม่ในปีนี้ และการปรับปรุงสาขาเดิมให้มีรูปลักษณ์ที่เป็น New Design Concept เพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจอย่างสูงสุด โดยการเปิดสาขาใหม่นี้ บริษัทได้วางงบประมาณในการลงทุนเปิดสาขาพร้อมปรับปรุงสาขาใหม่ ราว 50 ล้านบาท และ 5.การออกคอลเลกชันใหม่ต่อเนื่อง โดยปีนี้จะมีคอลเลคชั่นใหม่ 10 คอลเลกชันต่อปี เพื่อดึงกลุ่มลูกค้าใหม่ พร้อมทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมให้ยังมีความสนใจในตัวผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง แผนงานการตลาดในการจัดทำโปรโมชันซึ่งในปีนี้ บริษัทได้วางงบประมาณการตลาดประจำปี 2562 ราว 30 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในด้านภาพรวมของบริษัทในทุกกิจการปีนี้ คาดการณ์รายได้ในปี 2562 ประมาณ 1,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปี 2561 ขณะที่ แบรนด์แพนดอร่ายังคงเป็นแบรนด์เรือธง มีสัดส่วน 50% ของบริษัท ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ลดลงจากปีก่อน 62%
หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3441 ระหว่างวันที่ 3-6 กุมภาพันธ์ 2562
ด้วยสภาวะการแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบันที่ดุเดือดมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์พรีเมียมในกลุ่มระดับกลาง-บน ที่มีช่องทางการซื้อขายที่หลากหลาย ทั้งในระบบออนไลน์และออฟไลน์ ขณะที่ การพรีออร์เดอร์สินค้าก็เป็นวิธีที่ลูกค้าส่วนใหญ่นิยมซื้อขายกัน ด้วยรูปแบบวิธีการซื้อขายที่ง่ายขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันคุณค่าของความซื่อสัตย์ต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ลดน้อยลงไป และถึงแม้สินค้ากลุ่มนี้จะแข่งขันรุนแรงแค่ไหน แต่ก็ยังมีผู้เล่นเก่าใหม่ทยอยลงสนามนี้อย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวกัน ธนจิรา Exclusive Distributor ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายและทำการตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์แฟชั่นจากต่างประเทศ ในช่วงที่ผ่านมาที่ได้ประกาศ 5 กลยุทธ์สำคัญในการดำเนินธุรกิจแบรนด์ PANDORA (แพนดอร่า) เครื่องประดับและจิวเวลรีแบรนด์ดังสัญชาติเดนมาร์ก เพื่อให้เหมาะสมกับการแข่งขันกับตลาดในปัจจุบัน
นายธนพงษ์ จิราพาณิชกุล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายแพนดอร่า 850 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 17% โดยการเติบโตครั้งนี้จะมาจากการวางแผนกลยุทธ์สำคัญของบริษัท คือ 1.กลยุทธ์ราคาขาย โดยบริษัทวางแผนปรับราคาขายลง 10% ทุกรายการสินค้า เพื่อให้เท่ากับประเทศหลัก ๆ ในภูมิภาค เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และจีน เป็นต้น 2.การเข้าถึงสินค้าออนไลน์ โดยเฉพาะสินค้าตลาดสีเทา หรือ Grey Market จากประเทศที่ราคาสินค้าถูกว่าประเทศไทยมาก ทำให้แพนดอร่าต้องรีบเร่งยกระดับมาตรฐานการบริการ
3.สิทธิประโยชน์จากการเป็นสมาชิกของธนจิราการ์ด (TANACHIRA Card) ที่มีต่อลูกค้า ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้ปรับปรุงระบบใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2561 และจะสามารถกลับมาใช้งานแบบเต็มรูปแบบอีกครั้ง (Go Live) ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2562 เป็นต้นไป เพื่อตอบโจทย์ว่า ลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์สิ่งใดบ้าง รวมถึงสามารถเห็นคะแนนสะสมแบบเรียลไทม์เมื่อซื้อ
ขณะเดียวกัน กลยุทธ์ที่สำคัญในด้านที่ 4 การขยายสาขาของแบรนด์แพนดอร่าอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิด 4 สาขาใหม่ในปีนี้ และการปรับปรุงสาขาเดิมให้มีรูปลักษณ์ที่เป็น New Design Concept เพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจอย่างสูงสุด โดยการเปิดสาขาใหม่นี้ บริษัทได้วางงบประมาณในการลงทุนเปิดสาขาพร้อมปรับปรุงสาขาใหม่ ราว 50 ล้านบาท และ 5.การออกคอลเลกชันใหม่ต่อเนื่อง โดยปีนี้จะมีคอลเลคชั่นใหม่ 10 คอลเลกชันต่อปี เพื่อดึงกลุ่มลูกค้าใหม่ พร้อมทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมให้ยังมีความสนใจในตัวผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง แผนงานการตลาดในการจัดทำโปรโมชันซึ่งในปีนี้ บริษัทได้วางงบประมาณการตลาดประจำปี 2562 ราว 30 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในด้านภาพรวมของบริษัทในทุกกิจการปีนี้ คาดการณ์รายได้ในปี 2562 ประมาณ 1,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปี 2561 ขณะที่ แบรนด์แพนดอร่ายังคงเป็นแบรนด์เรือธง มีสัดส่วน 50% ของบริษัท ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ลดลงจากปีก่อน 62%
หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3441 ระหว่างวันที่ 3-6 กุมภาพันธ์ 2562
