ชูจุดเอ็นเตอร์เทนเมนต์พาร์ค 'โชว์ดีซี' มั่นใจไทยเป็นShopping Destination ในอนาคต

20 มี.ค. 2559 | 04:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

โชว์ดีซีมั่นใจการแข่งขันค้าปลีกเมืองไทยส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว พร้อมพาไทยก้าวสู่Shopping Destination ในอนาคต แย้มเตรียมเปิดศูนย์การค้าและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ครบวงจรกลางปี ชูจุดเด่นความเป็นศูนย์ฯที่หลากหลาย พร้อมคืนทุนใน 7 ปี ก่อนพาแบรนด์สยายปีกบุกอาเซียน

นายชยดิษฐ์ หุตานุวัชร์ ประธาน บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ครบวงจร “โชว์ ดีซี” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าแนวโน้มการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกของเมืองไทยในปัจจุบัน แม้จะมีศูนย์การค้าเกิดขึ้นจำนวนมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าจะไม่มีเรื่องของพื้นที่เช่าหรือซัพพลายส์มากกว่าดีมานส์อย่างแน่นอน เนื่องจากแต่ละศูนย์การค้านั้นมีจุดเด่น และไฮไลท์ที่แตกต่างกันออกไป และแน่นอนว่าร้านค้าต่างๆก็จะแตกต่างกันตามคอนเซ็ปต์อีกด้วย จะมีเพียงแบรนด์ขนาดใหญ่บางแบรนด์เท่านั้นที่มีกระจายอยู่ในหลายศูนย์ ตรงกันข้ามการเกิดขึ้นของศูนย์การค้ากลับส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทยให้กลายเป็น Shopping destination ได้เร็วยิ่งขึ้น

ขณะที่ในส่วนของบริษัทหลังจากที่ได้เพิ่มทุนทั้งสิ้น 9.5 พันล้านบาท จากเดิมที่ใช้ 5.5 พันล้านบาท ในการลงทุนสร้างศูนย์การค้าและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ครบวงจร “โชว์ ดีซี” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 27 ไร่ หรือ 1.5 แสนตร.ม.ในย่านจตุรทิศ-พระราม 9 เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ล่าสุดความคืบหน้าโครงการแล้วเสร็จไป 90% และขายพื้นที่เช่าไปแล้วกว่า 82% นั้น โดยมีแผนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือน มิถุนายน-กรกฎาคมนี้ วางเป้าหมายเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ทั้งนี้มีการลงทุนระบบต่างๆ รองรับการเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวไว้อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของ ศูนย์การประชุมและการแสดง สปอร์ตอารีน่า K-Town เมืองเกาหลีที่ใหญ่ที่สุดในโลก การแสดงพิเศษส่งเสริมวัฒนธรรม-หิมพานต์ อวตาร เอ็นเตอร์เทนเมนต์พาร์ค “YG Entertainment” และเอเชียนฟู้ดสตรีท เป็นต้น

“ขณะนี้กระแส เค-ป๊อบมาแรงและซึมลึกเข้าไปในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งมาจากกลยุทธ์ของประเทศเกาหลีใช้วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเป็นตัวจุดกระแส จนขยายความนิยมได้มากกว่ากระแส เจ-ป๊อบ ทั้งวงการบันเทิง วงการแฟชั่นและวงการความงาม ซึ่งโชว์ ดีซี มั่นใจ แม็กเน็ตทั้งเมืองเกาหลีและเอ็นเตอร์เทนเมนต์พาร์คจะสร้างจุดแข็งและเป็นแม็กเนตสำคัญในการดึงดูดคนได้ไม่ยากผ่านรูปแบบกิจกรรมต่างๆที่จะเกิดขึ้น”

โดยในส่วนของพื้นที่เช่า 10% ที่เหลือบริษัทต้องการสร้างจุดขายรวมถึงสนับสนุนผู้ประกอบการไทยขนาดเล็ก หรือ SME ในการผลักดันให้สินค้าไทยที่มีคุณภาพได้มีโอกาสทางการเติบและเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผลไม้อบแห้ง ผลิตภัณฑ์เครื่องหอม เสื้อผ้าพื้นเมือง หรือร้านนวดสปา เป็นต้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยให้สามารถทำตลาดได้ในสภาวะที่กำลังซื้อชะลอตัว

“ผู้ประกอบการ SME หลายคนอาจจะมองว่า การนำแบรนด์มาขึ้นห้างฯหรือมาจำหน่ายภายในศูนย์เรื่องของราคาพื้นที่เช่าจะเป็นอุปสรรคสำคัญในการขาย เนื่องจากสินค้าบางรายการ แบรนด์ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ทางศูนย์ขอบอกเลยว่าเราไม่ได้มุ่งเน้นการขายพื้นที่เช่าให้กลุ่มดังกล่าว แต่เราต้องการให้สินค้าไทยมีโอกาสเติบโตและเป็นที่รู้จักของต่างชาติ ดังเช่นสินค้าพื้นเมืองของหลายๆประเทศ ดังนั้นจึงอยากบอกผู้ประกอบการ SME ว่าหากใครสนใจให้ติดต่อมาที่บริษัทหรืออาคารสำนักงานขาย ทางบริษัทจะมีแนวทางในการช่วยเหลือสำหรับผู้ประกอบการที่มีต้นทุนต่ำแน่นอน ซึ่งรูปแบบการช่วยเหลือก็จะขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ อาจจะเป็นการวางขายในรูปแบบคอร์เนอร์ คีออส เป็นต้น”

อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าหมายจะสามารถคืนทุนได้ใน 7 ปี โดยแผนงานต่อจากนี้คือการมุ่งหน้าพาโชว์ ดีซี ไปรุกตลาดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะเป็นประเทศใดนั้นเบื้องต้นอยู่ระหว่างการพิจารณาแผนงาน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,140 วันที่ 17 - 19 มีนาคม พ.ศ. 2559