สหรัฐฯ ยื่นฟ้อง "หัวเว่ยฯ" 23 กระทง สุมไฟเจรจาการค้า 30-31 ม.ค. นี้ ร้อนฉ่า

วันที่ 28 ม.ค. 2562 กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา ได้ยื่นฟ้อง บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ และนางเมิ่ง หวันโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัท ในคดีอาญา ซึ่งมีจำนวนความผิดมากถึง 23 กระทงด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ ข้อกล่าวหาที่ว่า หัวเว่ยฯ ได้บิดเบือนข้อมูลและทำให้ธนาคารสหรัฐฯ และธนาคารต่างประเทศเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง บริษัท หัวเว่ยฯ กับบริษัทในเครือ 2 ราย ซึ่งได้แก่ บริษัท หัวเว่ย ดีไวซ์ ยูเอสเอ และบริษัท สกายคอม เทค เพื่อที่จะทำธุรกิจกับประเทศอิหร่าน อันเป็นการละเมิดกฎหมายการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่มีต่ออิหร่าน หลังจากที่สหรัฐฯ ตัดสินใจถอนตัวออกจากข้อตกลงสันติภาพปี 2558 (หรือข้อตกลงปลดอาวุธนิวเคลียร์ที่สหรัฐฯ และประเทศตะวันตกทำไว้กับอิหร่าน) มีผลทำให้สหรัฐฯ หวนกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านอีกครั้ง ทั้งยังเพิ่มมาตรการใหม่ที่เข้มงวดและหวังผลกดดันอิหร่านมากขึ้นด้วย


นอกจากนี้ คำฟ้องของสหรัฐฯ ยังกล่าวหาหัวเว่ยฯ ขัดขวางกระบวนการยุติธรรมและขโมยเทคโนโลยีของบริษัทอื่นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัท หัวเว่ยฯ ได้ออกแถลงในทันทีว่า บริษัทขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น การโกงธนาคาร ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม หรือ การขโมยเทคโนโลยี รวมทั้งข้อกล่าวหาที่มีต่อ นางเมิ่ง หวันโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทด้วย

"บริษัทรู้สึกผิดหวังที่ได้รับทราบข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัทของเราในวันนี้ เราไม่ได้กระทำการใด ๆ ที่เป็นการละเมิดต่อตัวบทกฎหมายดังที่ถูกกล่าวหา และไม่พบว่า นางเมิ่งกระทำความผิดใด ๆ ด้วย" ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ระบุ และชี้แจงกรณีข้อกล่าวหาที่ว่าบริษัทขโมยความลับทางการค้านั้น เป็นคดีความทางแพ่งที่ตัดสินกันไปเรียบร้อยแล้ว โดยลูกขุนพบว่า ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นและบริษัทเองก็ไม่มีพฤติกรรมที่จงใจจะทุจริตหรือพฤติกรรมเลวร้าย

ในส่วนของข้อกล่าวหาที่ว่า หัวเว่ยฯ ขโมยเทคโนโลยีของ บริษัท ที โมบาย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเกี่ยวกับการทดสอบความทนทานในการใช้งานของสมาร์ทโฟนนั้น หัวเว่ยฯ ชี้แจงว่า เป็นคดีความทางแพ่งที่บริษัทถูกฟ้องในปี 2014 แต่ก็เจรจายอมความกับ ที-โมบาย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

[caption id="attachment_381351" align="aligncenter" width="503"] เมิ่ง หวันโจว ซีเอฟโอของหัวเว่ยฯ บุตรสาวผู้ก่อตั้งบริษัท ถูกจับกุมที่แคนาดาเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2561[/caption]

'หัวเว่ย' เป็นบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งยังเป็นผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมชั้นแนวหน้า ไม่เฉพาะในประเทศจีน แต่เป็นในระดับโลก ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทยังเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ทำยอดจำหน่ายได้สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจาก บริษัท ซัมซุง จากเกาหลีใต้ และนั่นหมายถึงการทำยอดขายแซงหน้าสมาร์ทโฟนของ บริษัท แอปเปิล จากสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2561 นางเมิ่ง หวันโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของบริษัท ซึ่งเป็นบุตรสาวของผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ย ได้ถูกทางการแคนาดาจับกุมที่เมืองแวนคูเวอร์ ตามคำขอของสหรัฐฯ ซึ่งแม้ต่อมานางเมิ่งจะได้รับอนุญาตจากศาลให้สามารถประกันตัว แต่ก็ต้องให้ความร่วมมือในการใส่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิก เพื่อการติดตามตัวที่ข้อเท้าและต้องถูกติดตามความเคลื่อนไหวตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการหลบหนีคดี

 

[caption id="attachment_381355" align="aligncenter" width="503"] นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน (ขวา) มีกำหนดเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน ดีซี เพื่อพบปะหารือกับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ยูเอสทีอาร์) ระหว่างวันที่ 30-31 ม.ค.นี้[/caption]

แม้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสหรัฐฯ จะออกมาชี้แจงว่า การยื่นฟ้องเพื่อดำเนินคดีกับหัวเว่ยฯ และผู้บริหาร จะไม่เกี่ยวข้องกับการเผชิญหน้าทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาที่มีมาก่อนหน้านี้ หากแต่เป็นเรื่องของการป้องกันภัยคุกคามในโลกไซเบอร์และเพื่อความมั่นคงภายในประเทศของสหรัฐฯ แต่การยื่นคำฟ้องครั้งนี้ก็เชื่อว่าจะมีผลต่อการเจรจาคลี่คลายข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่กำลังจะมีขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในระหว่างวันที่ 30-31 ม.ค. นี้ โดยจะกลายเป็นประเด็นเพิ่มความยุ่งยากและสร้างแรงกดดันให้กับคณะเจรจาของทั้ง 2 ฝ่าย