"สนธิรัตน์"ฝากสานต่องาน แผนปฎิรูปภาคเกษตรครบวงจร-ดันส่งออกโต 8%

29 ม.ค. 2562 | 09:48 น.
"สนธิรัตน์"เปิดใจลาออกจากรัฐมนตรี ระบุทำตามหน้าที่ สร้างบรรทัดฐานการเมืองใหม่ พร้อมเดินหน้าสู่สนามเลือกตั้งเต็มตัว มั่นใจทีมผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ทำหน้าที่เต็มที่ ยัน 2 ปีที่ผ่านมาทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว ฝากสานต่อแผนปฎิรูปภาคเกษตรครบวงจร ดันส่งออกปี 62 โต 8% ตั้ง "บุณยฤทธิ์"ประธานกำหนดมาตรการดูแลค่ายา-หมอ

20172 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวหลังให้ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์อำลา หลังลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์อย่างเป็นทางการ(29 ม.ค.62)ว่า การตัดสินใจลาออกครั้งนี้ถือเป็นบรรทัดฐานใหม่ทางการเมืองที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จากในรัฐบาลที่ผ่านมาในระหว่างการประกาศกฤษฎีกาการเลือกตั้งเดิมจะมีรัฐมนตรีรักษาการเพื่อปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะได้มีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมาบริหารประเทศ การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการกระทำโดยหน้าที่ไม่ได้เกี่ยวข้องทางการเมืองแต่อย่างไร ทั้งนี้เพื่อต้องการไปทำงานทางการเมืองอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องการเบียดบังเวลาราชการทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่ ทั้งนี้การทำงานในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมายอมรับว่า มีความกดดันในการทำงานจากมีกระแสเรียกร้องให้ลาออก แต่ที่ยังไม่สามารถลาออกได้จากมีภารกิจสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องดำเนินการ ทั้งปัญหาจากสงครามการค้า หากไม่วางแผนรองรับอาจส่งผลกระทบต่อประเทศ รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก การยกระดับค้าปลีกแบบดั้งเดิมให้อยู่รอด รวมทั้งการผลักดันภารกิจที่เป็นเรื่องยาก คือ การดูแลค่ารักษาพยาบาล และเรื่องสิทธิบัตรกัญชา โดยเฉพาะสิทธิบัตรสารสกัดจากกัญชา เมื่อรัฐบาลใช้ ม.44 ในการดูแลเรื่องดังกล่าวแล้วก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ตัดสินใจลาออก

“2 ปีที่ทำงานตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ทุ่มเทในการทำงานอย่างเต็มที่ที่จะช่วยเหลือประชาชน เกษตรกร โดยเฉพาะการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งได้แก้ไขและผลักดันหลายโครงการให้เกิดขึ้น เช่น โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การดูแลราคาสินค้าเกษตร ข้าว มันสำปะหลัง รวมไปถึงผลไม้ซึ่งได้ผลักดันให้ประเทศไทยเป็น "มหานครผลไม้" การผลักดันสินค้าเกษตร การใช้อี-คอมเมิร์ซ และการแก้ปัญหาความยากจน แอพถุงเงิน เป็นต้น”

สำหรับงานที่ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์สานต่อ คือ แผนปฎิรูปภาคเกษตรครบวงจร การผลักดันธุรกิจบริการ ที่ขณะนี้มีการยื่นขอตั้งกรมใหม่ คือ กรมบริการ รวมถึงการผลักดันเป้าหมายการส่งออกโต 8% ขณะเดียวกันได้แต่งตั้งนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานอนุคณะอนุกรรมการพิจารณามาตรการดูแลยาและเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ โดยมีกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ และกรมสนับสนุนสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เป็นรองประธาน ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถประชุมรอบแรกได้ภายใน1-2 วันนี้ ซึ่งทุกเรื่องยังต้องทำต่อไป ส่วนเรื่องการวางตำแหน่งข้าราชการของกระทรวงพาณิชย์ ที่ผ่านมายืนยันว่าได้วางตัวผู้บริหารไว้แล้วเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง เชื่อว่าจะสานงานต่อได้โดยไม่ยึดติดกับตัวบุคคล

นายสนธิรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การทำงานที่กระทรวงพาณิชย์ที่ผ่านมาอยู่ด้วยความสุข แม้จะไม่เคยทำงานที่นี้มาก่อน และไม่รู้จักใครเลยแต่ก็ได้รับการต้อนรับจากข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ด้วยความอบอุ่น และช่วยเหลืองานอย่างเต็มที่ ซึ่งต้องขอขอบคุณ ส่วนใครจะมารักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจะมอบหมายจะให้ใครมาทำหน้าที่ ตนไม่ทราบในเรื่องนี้ แต่เชื่อว่าผู้ที่ได้รับมอบหมายจะสามารถขับเคลื่อนภารกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ยังมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ทำหน้าที่อยู่

ส่วนอนาคตทางการเมือง ย้ำว่าไม่ได้หวังตำแหน่งทางการเมือง ไม่ได้ทำเพื่อหวังตำแหน่งแต่อยากเห็นการเมืองมีทางออกเป็นที่พึ่งเป็นหลักของบ้านเมืองในอนาคต ตนไม่ใช่นักการเมืองแต่เป็นคนที่ทำงานการเมืองในระยะหนึ่ง ที่มีความตั้งใจให้ประเทศเดินต่อให้ได้ การเมืองแพ้ชนะเป็นเรื่องรอง แต่ที่สำคัญคือการเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง การเดินหน้าไม่ต่อเนื่องเป็นการลดศักยภาพของประเทศ ไม่อยากเห็นประเทศถอยหลังกลับไป และไม่อยากเห็นการเอาชนะทางการเมืองแบบสุดโต่ง

“มั่นใจพรรคพลังประชารัฐ เป็นทางเลือกหนึ่งของประชาชนเพื่อทางออกของประเทศ เพราะเรามีบุคลากร มีนโยบายมีการบริหารจัดการที่จะสามารถขับเคลื่อนประเทศต่อไปได้ อย่างไรก็ดีการอำลาข้าราชการครั้งนี้ไม่ได้อาลัยอาวรณ์ แต่รู้สึกอบอุ่นจากทำงานอย่างมีความสุขมาตลอดทั้งที่ไม้รู้จักใครเลย ได้รับแรงหนุนที่ดีมาโดยตลอด 2 ปีที่ทำงาน รู้สึกอบอุ่นดีใจผูกพัน วันนี้เป็นการทำงานวันสุดท้ายแล้ว” โปรโมทแทรกอีบุ๊ก