GEN 2 "โวค กรุ๊ป" มุ่งโตในฐานะนักลงทุนควบนักธุรกิจ

01 ก.พ. 2562 | 02:58 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

จากธุรกิจดั้งเดิมของ "โวค กรุ๊ป" ที่เริ่มต้นจากซุปเปอร์มาร์ทใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ภายใต้ชื่อ "โวค ซุปเปอร์มาร์ท" ข้ามถิ่นมาปักหลักขยาย "โวคช็อปปิ้ง เซ็นเตอร์" ใน จ.กระบี่ นี่เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ครอบครัว "ดีไชยเศรษฐา" ย้ายมาอยู่ที่นี่ร่วมกว่า 30 ปี จนกลายเป็นคนกระบี่เต็มตัวไปแล้ว วันนี้ไม่ใช่มีเพียงธุรกิจช็อปปิ้งเท่านั้น แต่ยังแตกไลน์การลงทุนมาสู่ธุรกิจโรงแรมอีกหลายแห่ง และเมื่อถึงเวลารับไม้ต่อในยุคเจเนอเรชัน 2 มุมมองในการขับเคลื่อนธุรกิจจะเป็นเช่นไร ... อ่านได้จากการเปิดใจของ "วัชรพนธ์ ดีไชยเศรษฐา" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท โวค พระนาง เบย์ รีสอร์ท

dusitD2_watcharphon (1)

ปัจจุบัน นอกจากธุรกิจช็อปปิ้งแล้ว เรายังมีโรงแรมภายใต้บริษัทโฮลดิ้งของโวคกรุ๊ปรวม 3 แห่ง ได้แก่ "ดุสิตดีทูอ่าวนาง", "อมารี โวค กระบี่" และ "เซ็นทรา บายเซนทารา ภูพาโน กระบี่" และล่าสุด ได้ขยายการลงทุนมาสู่ธุรกิจรับซักรีดผ้าให้โรงแรมระดับชั้นนำเกือบทุกเชนใน จ.กระบี่ ในนาม "วีคลีน" ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก เพราะไหน ๆ เรามีหลายโรงแรมที่ทำเรื่องซักรีดผ้าอยู่แล้ว ก็ลงทุนทำให้ใหญ่เพื่อรับบริการให้โรงแรมอื่น ๆ ได้ด้วย

การขยายการลงทุนมาสู่ธุรกิจโรงแรม เรามองว่าเป็นการ "กระจายความเสี่ยงในการลงทุน" เพราะธุรกิจช็อปปิ้งจะเป็นลูกค้าคนไทยมากกว่าต่างชาติ แต่การลงทุนโรงแรมในเมืองท่องเที่ยว ก็ทำให้มีลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเข้ามาใช้บริการ

ต้องถือว่า ครอบครัวเราเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกธุรกิจโรงแรมในกระบี่ก็ว่าได้ เพราะเริ่มสร้าง "โวค รีสอร์ทแอนด์สปา" มาร่วม 18 ปีแล้ว ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้น กระบี่ยังเป็นเมืองที่ยังไม่มีให้เห็นในแผนที่โลก ไม่มีใครรู้จัก 5 โมงเย็น เมืองก็จะเงียบ แทบจะไม่มีรถวิ่งแล้ว ระยะเวลาที่คุณพ่อคุณแม่บริหารจัดการมาจนถึงจุดที่กระบี่เป็นที่นิยมในทุกวันนี้ลูก ๆ อย่างเรายังอดทึ่งในความมานะอดทนของท่านไม่ได้ และล่าสุด ในปีนี้เราเพิ่งพัฒนาโรงแรมที่ท่านร่วมกันสร้างขึ้นมาให้เป็นระดับอัพสเกล โดยรีแบรนด์เป็น "ดุสิต ดีทู อ่าวนาง" ภายใต้การดูแลของดุสิตธานี

thumbnail_dusitD2 Ao Nang, Krabi

ทั้งในปี 2562 นี้ เราจะปิดปรับปรุง "โรงแรมอมารี โวค กระบี่" อีกราวครึ่งปี เพื่อรีดีไซน์โฉม หลังเปิดให้บริการมากว่า 10 ปีแล้ว ส่วน "เซ็นทรา บายเซ็นทารา ภูพาโน กระบี่" ที่เป็นโรงแรมของเราอีกแห่งหนึ่ง ที่บริเวณอ่าวนาง ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวครึ่ง ก็ยังไม่มีแผนอะไร เพราะเพิ่งเปิดให้บริการมาราว 2 ปี

D2AK_Rakhang Thai-Dining (1)

หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมเราจึงดึงเชนมาบริหารโรงแรม ซึ่ง 3 โรงแรม ก็มี 3 เชน รับไปบริหารจัดการ แทนที่จะบริหารเอง ประเด็นนี้เป็นเพราะ "คุณพ่อสอนลูก ๆ เสมอว่า ให้เราเติบโตในฐานะของนักลงทุน ควบคู่กับการเป็นนักธุรกิจ" เราจึงหามืออาชีพเข้ามาทำงานให้ เพราะนั้นคือ งานถนัดของเขา ซึ่งเราเองจะได้มีเวลาในการถอยออกมาและมองหาช่องทางในการลงทุนธุรกิจใหม่ ๆ ที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต

ทั้งการเลือกเชนมาบริหารก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ทำให้เรามีช่องทางการตลาดที่กว้างขึ้น ยกตัวอย่าง โรงแรมดุสิตดีทู อ่าวนาง ซึ่งภายใต้การดูแลที่ดีมากจากดุสิตธานี ทำให้โรงแรมได้รับเลือกเป็นที่พักของผู้เข้าประกวด Miss Universe 2018 รวมถึง Demi-Leigh Nel-Peters Miss Universe 2017 ในการเก็บตัวที่ จ.กระบี่ ด้วย รวมไปถึงการดึงเชนมาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจยังช่วยในเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย อาทิ การสั่งซื้อต่าง ๆ ในโรงแรมก็จะไปรวมอยู่กับเชนต่าง ๆ ที่ถูกกว่าเราจัดซื้อเอง

D2AK-Hero Shot

ขณะเดียวกัน การเลือกใช้แบรนด์บริหารโรงแรมที่ต่างกัน ทำให้เราได้เรียนรู้จุดอ่อน จุดแข็ง ของแต่ละแบรนด์ด้วย เพื่อให้มีข้อมูลว่า หากจะลงทุนขยายโรงแรมไปในทำเลใด จะดึงเชนไหนมาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจจึงจะเหมาะ เพราะวันนี้เรามีโรงแรมตั้งแต่ 3 ดาวครึ่ง ภายใต้แบรนด์เซ็นทรา ของเซ็นทารา ระดับ 4 ดาวครึ่ง ภายใต้แบรนด์ดุสิตดีทู ของดุสิตธานี และระดับ 5 ดาว ภายใต้แบรนด์อมารี

อย่างไรก็ตาม แม้เราจะเป็นธุรกิจครอบครัว แต่การขับเคลื่อนการทำงานจะผ่านกลไกการทำงานของบอร์ดบริหารเหมือนรูปแบบบริษัท เพื่อให้ธุรกิจอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน ซึ่งเราดึงผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยกันคิดและบริหารงาน ซึ่งบอร์ดของเราเชื่อมั่นในศักยภาพการรับนักท่องเที่ยวของเมืองไทย และมั่นใจว่ายังเป็นจุดแข็งที่สำคัญของไทย เรามีนโยบายที่จะขยายธุรกิจโรงแรมเพิ่ม แต่ก็ต้องดูความพร้อมของเราและของตลาดมากกว่าการตามกระแส ว่า ช่องว่างในตลาด ว่า ที่ไหนมีโอกาสต่อการพัฒนา

dusitD2 Ao Nang-D

เราไม่ชอบตลาดที่เป็น Red Ocean หรือ โฟกัสกันแต่ Price War อย่างที่กระบี่การแข่งขันสูง เราก็พัฒนาให้เป็นอัพสเกลไปเลย เพราะมั่นใจในศักยภาพของลูกค้าที่จะยอมจ่ายสูงขึ้นเพื่อคุณภาพการพักผ่อน อีกทั้งการขยายงานก็ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องโตอยู่แค่ใน จ.กระบี่ หรือแค่ภาคใต้ "เรามี Know How ถ้าเรามี Know Who พาร์ตเนอร์ที่ดี ๆ การจะไปเปิดในภาคอื่น ๆ หรือประเทศอื่น ๆ ก็เป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทของเราให้กว้างขึ้นเช่นกัน"

ผมและพี่ ๆ ค่อนข้างโชคดีที่คุณพ่อคุณแม่สร้างธุรกิจมาไว้ให้เราแล้ว งานสานต่อ ต้องนับว่า ง่ายกว่าบุกเบิกใหม่พอตัว สิ่งที่เราต้องทำ คือ สร้างจุดแข็งให้ทุกๆธุรกิจของโวค กรุ๊ป ซึ่งลูก ๆ ทุกคน ก็จะต้อง Rotate หมุนเวียนกันดูแลธุรกิจ เพื่อให้มีมุมมองใหม่ในการทำงาน ทั้งด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ เราต้องเข้าใจว่าเทคโนโลยีกำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงธุรกิจดั้งเดิม คนที่ปรับตัวช้าก็จะโดนผลักออกจากตลาดก่อน ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะมีธุรกิจใหม่ใดที่จะเข้ามาตีตลาดอีก แต่เราต้องวิ่งให้ทันกระแสที่เกิดขึ้น

สัมภาษณ์โดย : ธนวรรณ  วินัยเสถียร

หน้า 22-23 ฉบับที่ 3,440 วันที่ 31 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

595959859