แพทย์ซัด! สื่อตีข่าวเด็กป่วยล้น ร.พ. เพราะฝุ่นพิษ เผยส่วนใหญ่ป่วยไข้หวัดใหญ่ แนะสวมหน้ากากลดแพร่เชื้อ

27 ม.ค. 2562 | 05:00 น.
29343176_993034630863301_6730730763815223296_n
นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ระบุผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC" ว่า ข่าวเด็กป่วยล้นโรงพยาบาล โดยคาดว่าเกิดจากการหายใจฝุ่นพิษ PM 2.5 จะยิ่งทำให้คนไทยตื่นกลัวฝุ่นละอองมากขึ้น แต่แท้จริงแล้ว ฝุ่น PM 2.5 จะทำให้ป่วยทันที หรือ 1-2 วัน หลังหายใจเข้าไป เฉพาะกลุ่มเสี่ยง คือ คนที่มีโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ไม่ใช่คนปกติทั่วไป พร้อมระบุต่อว่า เด็กที่หายใจฝุ่น PM 2.5 ค่าเกินมาตรฐานระยะยาวติดต่อกันหลายปี จะทำให้สมรรถภาพของปอดต่ำกว่าเด็กที่หายใจอากาศไม่ปนเปื้อนฝุ่น แต่ไม่ใช่เกิดขึ้นทันที ซึ่งช่วงนี้มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ ทำให้เด็กส่วนใหญ่ที่ป่วยเข้านอนในโรงพยาบาลเกิดจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ไม่ใช่เกิดจากฝุ่น PM 2.5

51176063_1230202240479871_8223665600677806080_n




"เราต้องสอนให้เด็กที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันผู้อื่น (ไม่ใช่ N95) หน้ากากอนามัยจะจับละอองน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสเวลาไอ หรือ จาม ไว้ที่บริเวณด้านในของหน้ากาก เพราะถ้าคนป่วยไม่ใส่ ละอองน้ำนี้จะระเหย เหลือแต่เชื้อไวรัสแขวนลอยในอากาศ คนที่อยู่ใกล้ชิดหายใจเชื้อไวรัสเข้าไป ก็จะป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ถ้าหน้ากากอนามัยเปียกชื้นมาก ประสิทธิภาพจะลดลง ต้องเปลี่ยนหน้ากากวันละหลายชิ้น และใส่หน้ากากจนกว่าจะหยุดไอ เวลาเปลี่ยนต้องจับที่สายคล้องหู อย่าจับด้านในของหน้ากาก เพราะมือจะเปื้อนเชื้อโรค ทิ้งหน้ากากลงในถังขยะ ต้องคิดว่าหน้ากากที่ใช้แล้วเป็นขยะติดเชื้อ อย่าวางหน้ากากใช้แล้วบนโต๊ะ หรือ ใส่กระเป๋า เพราะเชื้อโรคจะไปอยู่ตามที่ต่าง ๆ คนปกติมาจับโต๊ะที่เปื้อนเชื้อโรค แล้วเอามือไปจับจมูก ปาก ขยี้ตา ก็จะติดไข้หวัดใหญ่ทางมือ ทั้งคนป่วยและคนทั่วไปต้องล้างมือด้วยสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจลบ่อย ๆ"

090861-1927-9-335x503-8-335x503-13-335x503