เลือกตั้ง 24 มี.ค.62 ต้องตัดตอน 'ประชานิยม'

นับถอยหลังอีกไม่ถึง 60 วันก็จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ซึ่งบรรดาพรรคการเมืองต่างทยอยประกาศนโยบายหาเสียง เพื่อแย่งชิงคะแนนนิยมจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งกันแล้ว เช่น พรรคพลังประชารัฐที่ชูนโยบาย 7:7:7 อันประกอบด้วย 3 พันธกิจประชารัฐเพื่อสร้างชาติให้ยั่งยืน ได้แก่ สวัสดิการประชารัฐ สังคมประชารัฐ และเศรษฐกิจประชารัฐ ขจัดความเหลื่อมลํ้า ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ชูนโยบาย “ประกันรายได้คนไทย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” เพิ่มเงินในมือประชาชน ยกระดับชีวิตคนไทย โดยใช้เกณฑ์ช่วยเหลือคนทุกกลุ่มที่มีรายไดตํ่ากว่า 120,000 บาทต่อปี
อย่างไรก็ตามในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้มีข้อกำหนดให้พรรคการเมืองปฏิบัติต่างจากการเลือกตั้งครั้งก่อนๆ คือ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 57 ระบุว่า ให้การโฆษณานโยบายของพรรคการเมืองที่ต้องใช้จ่ายเงินอย่างน้อยต้องมีการแสดงรายละเอียด 3 ส่วนด้วยกัน คือ 1. วงเงินที่ต้องใช้ และที่มาของเงิน ที่จะใช้ในการดําเนินการ 2. ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดําเนินนโยบาย3. ผลกระทบและความเสี่ยงในการดําเนินนโยบาย

[caption id="attachment_380235" align="aligncenter" width="500"] [/caption]

ในกรณีพรรคการเมืองไม่ดําเนินการตามให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สั่งให้ดําเนินการให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กําหนด หากยังไม่ดําเนินการ ตามคําสั่ง กกต. และในมาตรา 121 กําหนดให้ กกต.ปรับไม่เกิน 500,000 บาท และปรับอีกวันละ 10,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง โดยสาเหตุที่ต้องมีกฎหมายออกมาควบคุมนโยบายหาเสียงของพรรคการเมือง เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมามีการเมืองนำนโยบายประชานิยมแบบลด แลก แจก แถมระยะสั้น มาแปลงเป็นนโยบายรัฐบาลใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน จนสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลให้กับประเทศมาแล้ว

อ่าน | กกต. เคาะเลือกตั้ง 24 มี.ค. 62
อ่าน | เดินหน้าเลือกตั้ง 24 มี.ค. มิถุนายนได้ ‘นายกฯ-ครม.’ใหม่
อ่าน | ประกาศ กกต. ทำป่วน! ปมหลักฐานเสียภาษี พรรคการเมืองผวาสมัคร ส.ส. ไม่ทัน

บทเรียนที่เจ็บปวดจากการนำนโยบายประชานิยมมาใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือโครงการรับจำนำข้าวเปลือกทุกเมล็ดราคาตันละ 15,000 บาท ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สร้างความเสียหายให้กับประเทศมากกว่า 9 แสนล้านบาท ถือเป็นบทเรียนราคาแพงของ สังคมไทยมาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นเพื่อรักษาวินัยการเงินการคลัง และมั่นคงของประเทศในระยะยาว

เราจึงเห็นด้วยกับการป้องกันไม่ให้บรรดานักการเมืองนํานโยบายประชานิยมมาใช้ในการหาเสียงจนเกิดความเสียหายเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

| บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3439 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 27-30 ม.ค.2562