รำลึก "หลวงพ่อคูณ" ... ฟื้นประเพณีโบราณแดนอีสาน

28 ม.ค. 2562 | 10:24 น.
ย้อนความหลังกลับไป เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 16 พฤษภาคม 2558 วันที่ประชาชนคนไทยได้รับทราบถึงการมรณภาพของ "พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ" ขณะทำการรักษาภายในห้องอายุรกรรมผู้ป่วยหนัก โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จ.นครราชสีมา สิริอายุ 92 ปี พรรษา 71 นำความโศกเศร้าให้กับหมู่มวลศิษยานุศิษย์ที่นับถืออย่างมาก

7c8f3789c415d973b404339a6e73ec5b
แต่ด้วยหลวงพ่อคูณท่านมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า จึงทำพินัยกรรมไว้ 8 ข้อด้วยกัน หนึ่งในนั้นระบุให้มอบสังขารแก่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใน 24 ชั่วโมงนับแต่มรณภาพ ท่านสละร่างเป็น "อาจารย์ใหญ่" เพื่อเป็นวิทยาทานแก่นักศึกษาแพทย์ เรียกได้ว่า ท่านเป็นผู้เสียสละสร้างทานบารมี จนถึงวาระสุดท้ายทีเดียว และเมื่อเหล่านักศึกษาได้ค้นคว้าเรียบร้อยแล้ว ให้จัดพิธีกรรมทางศาสนาและสวดพระอภิธรรม ก็ขอให้ทางคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำด้วยความเรียบง่าย จัดเช่นเดียวกับจัดให้กับอาจารย์ใหญ่ของนักศึกษาแพทย์ประจำปี และให้เผาที่ฌาปนสถานวัดหนองแวง อำเภอเมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น และให้นำอัฐิ เถ้าถ่าน และเศษอังคารทั้งหมด ไปลอยที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย

หลวงพ่อคูณเป็นเกจิอาจารย์แดนอีสานที่มีผู้คนนับถือทั่วทุกสารทิศ แม้จะมีพินัยกรรมให้จัดงานเรียบง่ายก็ตาม แต่เพื่อเป็นการจัดงานให้สมเกียรติงานพระราชทานเพลิงสรีรสังขาร "พระเทพวิทยาคม" หรือ "หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ" อดีตเจ้าอาวาส วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา พร้อมอาจารย์ใหญ่ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 ม.ค. 2562 ณ พุทธมณฑลอีสาน จ.ขอนแก่น นั้น สิ่งที่บรรดาศิษยานุศิษย์ ตลอดจนผู้ที่เคารพศรัทธาให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือ "เมรุ" รวมถึง "พิธีกรรม" ที่สืบทอดกันมาแต่โบราณกาล


S__148324356

ตั้งแต่การใช้โลงจากไม้จันทน์ โลงสเตนเลสส์ล็อก เพื่อไม่ให้ใครเข้าถึงอัฐิของท่าน ส่วนเมรุที่ใช้จัดทำในลักษณะของ "นกหัสดีลิงค์" ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า มีที่มาที่ไปอย่างไร ขณะเดียวกันก็ยังมีประเพณีโบร่ำโบราณอย่าง "พิธีกรรมนางสีดาฆ่านกหัสดีลิงค์" ที่มีความยึดโยงกับตำนานอันเก่าแก่ของผู้คนในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะตัว "นางสีดา" ที่มีอยู่จริงและสืบทอดสายเลือดกันมาแบบ "รุ่นต่อรุ่น" จนปัจจุบัน สามารถหาผู้สืบทอดรุ่นที่ 6 ได้แล้ว และในงานนี้ก็จะมาเป็นผู้ปราบนกหัสดีลิงค์ด้วย เราคงจะได้เห็นพิธีกรรมทั้งก่อนและหลังการทำพิธีในวันจริง

การสร้างเมรุลอยนกหัสดีลิงค์ ปกติตามประเพณีโบราณนั้น จะจัดทำเฉพาะการฌาปนกิจศพเจ้านายชั้นสูง หรือ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ เท่านั้น แต่เพื่อให้เกิดความเรียบง่ายตามประสงค์ของหลวงพ่อคูณ การออกแบบจึงถอดอัตลักษณ์ของหลวงพ่อคูณออกมา คือ ความเรียบง่าย จึงกลายเป็นงานศิลปะสีขาวบริสุทธิ์ และพิจารณาเอกลักษณ์ของหลวงพ่อผ่านงานศิลปะที่พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ พบว่า มีรูปปั้นช้างมี 4 งา ขณะที่ หัวของนกหัสดีลิงค์ก็เป็นช้าง 4 งา ด้วยเช่นกัน ส่วนการก่อสร้าง ซึ่งมาจากช่างหลายสถาบัน ทั้งภาครัฐและเอกชน จนถึงศิษยานุศิษย์ มาช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานศิลปะไทยโบราณ อาทิ เขียน แกะ สลัก ปั้น ปูน รัก หุ่น บุ กลึง หล่อ นับเป็นงานศิลป์โบราณที่น่าทึ่งทีเดียว

ส่วนโครงสร้างตัวนก สร้างจากไม้เนื้อแข็งสูง 22.6 เมตร นำไม้ไผ่มาทำเป็นโครงด้านนอก ใช้กระดาษสีขาวมาพับคล้ายการทำเปเปอร์มาเช่ ซึ่งทั้งหมดจะถูกเผาพร้อมกับร่างหลวงพ่อคูณในวันที่ทำพิธีฌาปนกิจ ประดิษฐานบนฐาน 8 เหลี่ยม กว้าง 16 เมตร ประกอบด้วยนาคที่มีความยาว 5 เมตร 12 ตน และรายล้อมด้วยสัตว์หิมพานต์ 32 ตน


090861-1927-9-335x503-8-335x503-9-2-335x503

ที่น่าสนใจอย่างยิ่งที่คนทั่วไปยังไม่ทราบ คือ นอกจากความอลังการและความงดงามของเมรุลอยแล้ว นกหัสดีลิงค์ที่ประกอบกับเมรุลอย ยังถูกสร้างให้มีกลไกในการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ได้ อาทิ หันศีรษะ ม้วนงวง กะพริบตา กระดิกหู และมีเสียงร้อง เป็นต้น ประเพณีโบราณยังไม่จบเพียงแค่เมรุ แต่ด้วยคำบอกเล่าที่มาของเมรุนี้ ยังต้องมีการประกอบพิธีกรรม "นางสีดาฆ่านกหัสดีลิงค์" ตามตำนานเล่าขานกันมาในสมัยโบราณหลายพันปีมาแล้ว ในนครตักกะศิลาเชียงรุ้งแสนหวีฟ้ามหานคร พระมหากษัตริย์แห่งนครถึงแก่สวรรคต การจัดการพระศพตามโบราณประเพณีต้องแห่พระศพออกจากพระราชวังไปยังทุ่งหลวงเพื่อถวายพระเพลิง แต่ขบวนแห่ถูกนกหัสดีลิงค์โฉบพระศพไปจึงต้องหาผู้ปราบจนได้นางสีดามาปราบสำเร็จ ดังนั้น ตามขนบธรรมเนียมไทยโบราณประเพณีเหล่านี้เราจะไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก

สำหรับงานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงพ่อคูณครั้งนี้ การเคลื่อนย้ายก็มาบนรถโบราณเช่นกัน มีการโปรยดอกคูณบุญที่เหล่าศิษยานุศิษย์ร่วมแรงร่วมใจกันทำ 3 หมื่นเหรียญ โปรยตามทาง เพื่อขอซื้อทางจากเจ้าที่ตามความเชื่อ ซึ่งเหรียญโปรยทานนี้ คณะแพทย์ฯ ได้ออกแบบเพื่องานพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่หลวงพ่อคูณโดยเฉพาะ เพื่อแสดงออกถึงความเมตตาที่หลวงพ่อมีต่อพุทธศาสนิกชน ระหว่างทางไปที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมีการสวดพระอภิธรรม มาตั้งแต่วันที่ 22-28 ม.ค. 2562 วันละ 4 รอบ พร้อมเปิดให้ประชาชนได้วางดอกไม้จันทน์ที่ศูนย์ประชุม ตั้งแต่เวลา 08.00-22.00 น. และที่ฌาปนสถานชั่วคราว วัดหนองแวง พระอารามหลวง ภายในเกาะกลางน้ำ ด้านหลังพุทธมณฑลอีสาน ตั้งแต่เวลา 08.00-22.00 น. โดยดอกไม้จันทน์ที่ประชาชนทุกคนได้วางนั้น ทุกดอกจะถูกนำไปใช้ในการฌาปนกิจจริงในวันที่ 29 ม.ค. 2562 คาดว่าในวันนั้นจะมีผู้เข้าร่วมงานนับล้านคน


news

นอกจากนี้ ทาง มข. ยืนยันอย่างชัดเจนว่า ไม่มีการทำวัตถุมงคลใด ๆ ทั้งสิ้น ทำเพียงหนังสือที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่และครูใหญ่หลวงพ่อคูณ ทั้งหมด 3 เล่มเท่านั้น สำหรับหนังสือที่ระลึกทั้ง 3 เล่ม ประกอบด้วย แบบที่ 1 คือ หนังสือที่ทำแจกเฉพาะญาติครูใหญ่ ซึ่งทำเป็นประจำทุกปี ผลิตจำนวน 800 เล่ม แบบที่ 2 คือ หนังสืออาจาริยานุสรณ์ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) เล่มเล็ก 44 หน้า จำนวน 300,000 เล่ม แจกผู้มาร่วมงานที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มข. และแบบที่ 3 คือ หนังสืออาจาริยานุสรณ์ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) เล่มใหญ่ ประมาณ 100 หน้า จำนวน 5,000 เล่ม แจกเฉพาะแขกสำคัญ แต่เนื่องจากมีผู้ต้องการหนังสือจำนวนมาก หากพลาดไปสามารถดาวน์โหลดหนังสือทั้ง 3 แบบ ได้ผ่านทางเว็บไซต์ของ มข. โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ประกอบด้วย แบบที่ 1 https://goo.gl/kJ962k แบบที่ 2 https://goo.gl/bN3TZ7 และแบบที่ 3 https://goo.gl/cw2doS

นับเป็นอีกงานที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทย ให้รำลึกถึงเกจิอาจารย์ที่ตั้งมั่นอยู่ในธรรมและสร้างทานบารมีจนถึงวาระสุดท้าย ...

หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,439 วันที่ 27 - 30 มกราคม พ.ศ. 2562

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว