เป็นครั้งแรกที่ “นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง” ที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจระดับพันล้านบาท ได้มารวมตัวกันสะท้อนแนวคิดและมุมมองการเมืองไทย รวมถึงความคาดหวังในรัฐบาลชุดใหม่ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2562
การรวมตัวครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการจัดเวทีเสวนา “อยากเห็นเมืองไทยดีกว่านี้ 2” ในหัวข้อ “เปิดแนวคิดวัยรุ่นพันล้านกับการเมืองใหม่” จัดโดย “สปริงนิวส์ เน็ตเวิร์ค” ซึ่งนักธุรกิจรุ่นใหม่ ยืนยันว่า พวกเขามีความหวังกับการเมืองไทย และไม่หวั่นถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่เป็น “นายกรัฐมนตรี” คนต่อไป
[caption id="attachment_379492" align="aligncenter" width="650"]
ฉาย บุนนาค[/caption]
ก่อนที่นักธุรกิจพันล้านจะได้แสดงความเห็น นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดียกรุ๊ปจํากัด (มหาชน) กล่าวเปิดงานตอนหนึ่ง ระบุว่า ส่วนตัวแล้วอยากเห็นนโยบายหรือแนวคิดของแต่ละพรรคที่จะเข้าไปช่วยประชาชนที่เป็นรากฐานของประเทศให้มีความมั่นคง และอยู่บนหลักของเศรษฐกิจพอเพียงได้ แทนที่จะมีนโยบายประชานิยม เช่น การประกันราคาสินค้า การจำนำราคาสินค้าเกษตร รวมถึงนโยบายที่มีลักษณะของการโยนเงินตรงไปให้กับประชากรหรือเกษตรกรที่มีรายได้น้อย
นายณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุ๊คบี จำกัด และผู้จัดการกองทุน 500 Tuktuks แสดงความเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้แย่และนับถือทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาทำงานเพื่อส่วนรวม ผมมีความหวังกับรัฐบาลชุดใหม่ เชื่อว่าถ้าเป็นรัฐบาลผสมก็จะทำงานกันไปได้ เพราะคงไม่สามารถได้เดินด้วยตัวคนเดียว อยากให้อยู่ด้วยกันไปแล้วทำงานร่วมกันได้ แบบยกมือแล้วมีคนฟัง เชื่อมั่นว่า ทุกคนทราบดีว่า ตัวเองมีหน้าที่และต้องทำอะไร เพื่อส่วนรวม ต้องมีคนทำและต้องมีคนฟัง
นางสาวสิรโสมย์ บริสุทธิ์สุวรรณ์ ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ยูดริ้งค์ ไอไดรฟ์ จำกัด ธุรกิจให้บริการส่งคนขับรถไปขับรถลูกค้ากลับบ้าน โดยยืนยันจากประสบการณ์ตรงว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ถ้าเลือกได้อยากให้สถานการณ์ทางการเมืองมีความมั่นคง เพราะทุกภาคส่วนเชื่อมโยงและเกี่ยวข้องถึงกัน เนื่องจากอยู่ในระบบนิเวศเดียวกัน
ถ้ามีความมั่นคงทางการเมือง ทุกหน่วยงานก็จะสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี ซึ่งถึงเวลาแล้ว ทุกคนอยากเห็นประเทศไทยไปข้างหน้า และเชื่อว่าทุกการเปลี่ยนแปลงดีเสมอ และไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นแกนนำรัฐบาล หรือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนานาชาติ และเป็นหน้าที่ของคนไทย อยากให้มาใช้สิทธิ์ใช้เสียงของตัวเอง อยากให้รัฐบาลรับฟังความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ในการหาทางออกร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ
[caption id="attachment_379453" align="aligncenter" width="500"]
[/caption]
นายณพ ณรงค์เดช รองประธานคณะกรรมการ บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด เห็นว่า คนเราอยู่ด้วยความหวังซึ่งถ้ามองย้อนกลับไป 10 ปีที่ผ่านมา ที่บ่นกันว่าแย่ๆ แต่เราก็มากันไกลพอสมควร จากประสบการณ์ในการเป็นผู้นำ มันไม่ได้ดั่งใจเสมอไปแต่ผมเชื่อเรื่องของทีมเวิร์ก การทำให้สิ่งที่คิดเกิดขึ้นมาให้ได้ โดยเฉพาะถ้าต้องเป็นผู้นำและดูแลองค์กรที่ใหญ่มากระดับประเทศ
ถ้ามองย้อนกลับไปเราก้าวไปข้างหน้าตลอดเวลา ใครก็ตามที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอยู่ที่ทีมงาน ผู้ที่คอยสนับสนุน และผู้ตาม ถ้ามีคนที่หวังดีเข้ามาทำงานตรงนี้ เราก็น่าจะช่วยกันสนับสนุนให้เต็มที่ ทุกสิ่งที่กำลังจะทำเมื่อเวลาเปลี่ยนไปอาจต้องมีการปรับเปลี่ยน ผมเชื่อว่าทุกคนเข้าใจ มันเป็นความร่วมมือของทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งภาคประชาชนและฝั่งรัฐบาล
นางสาวชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บรันช์ไทม์ จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ ไดมอนด์เกรนส์ กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิ์ออกความเห็นและรู้ทุกอย่างเท่าๆ กัน อิสระในเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญของทางรัฐบาลและประชาชน ด้วยเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยในวันนี้ทำให้ไม่สามารถที่จะปิดกั้นได้ โดยเฉพาะคนที่ทำงานอยู่ในระดับสูงที่จะมีข้อมูลต่างๆ ออกมา แต่ก่อนทำอะไรจบแล้วจบไป แต่ปัจจุบันยังอยู่บนโซเชียลมีเดีย
“คนที่มีเจตนาดีที่สุดถึงจะอยู่ได้ ต่อให้เก่งยังไง แต่ถ้าเจตนาไม่ดีก็ยากที่ประชาชนจะเชื่อใจ เช่นเดียวกันนโยบายของทุกพรรคดี ถ้าทำได้ไม่มีใครไม่เลือก ผลงาน คือตัวตัดสิน ไม่ได้อยู่ที่ว่าจะเป็น “ลุงตู่” หรือไม่ เพราะไม่รู้อนาคตว่าเลือกตั้งมาจะเป็นอย่างไร สุดท้ายเปลี่ยนแล้วเกิดหรือไม่เกิดอะไรเป็นสิ่งที่ต้องรอดู ขอให้ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าไม่อยู่ก็อยากให้คนที่เข้ามาแทนทำให้ดีที่สุด
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3438 หน้า 14 ระหว่าง วันที่ 24-26 ม.ค.2562