การแถลงในสภา ของนายกฯเมย์ เป็นไปตามความคาดหมายและเหมือนกับสิ่งที่ได้เสนอไว้ในบทความฉบับที่ผ่านมาว่า รัฐบาลอังกฤษจะขอเปิดเวทีเจรจากับชาติสมาชิกของ EU เพื่อขอขยายระยะเวลาในการแยกตัวออกไปเป็นเดือนธันวาคม ค.ศ. 2020 นายกฯเมย์ ได้กล่าวต่อไปว่าหากสภา ไม่ต้องการที่จะให้ประเทศเผชิญหน้ากับปัญหาการแยกตัวแบบไม่มีข้อตกลง (with no deal) สิ่งที่ทำได้ ณ ตอนนี้มี 2 ทางเลือกหลัก
ประการแรก คือ การยกเลิกการถอนตัว (Revoke) จากการเป็นสมาชิกของ EU ซึ่งนายกฯเมย์มองว่าการดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นการทรยศต่อเจตจำนงของประชาชนที่ได้มาลงประชามติไว้เมื่อปี 2016
ทางเลือกที่ 2 คือ การเจรจาเพื่อขยายเวลาการแยกตัว ซึ่งถ้าหากทำได้สำเร็จก็จะทำให้รัฐบาล UK มีเวลาในการเจรจาต่อรองเกี่ยวกับข้อตกลงใหม่กับ EU ได้นานขึ้น ประเด็นนี้มีทั้งความเป็นไปได้และความเป็นไปไม่ได้ กรณีที่มีความเป็นไปได้คือเรื่องของการขอขยายระยะเวลา เนื่องจากจริงๆ แล้ว การแยกตัวแบบไม่มีข้อตกลงเลย ก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของ EU มหาศาลเช่นกัน
ดังนั้นการที่ประเทศสมาชิกอีก 27 ประเทศจะมีมติเป็นเอกฉันท์เพื่อขยายระยะเวลาการแยกตัวออกไปตามที่ UK จะร้องขอจึงมีความเป็นไปได้อยู่มาก แต่การที่จะหวังว่าหลังจากที่ได้ขยายระยะเวลาแล้วจะได้เจรจาเพื่อต่อรองให้ UK ได้ข้อตกลงที่ดีขึ้น คงจะเป็นเรื่องยากมากเช่นกัน เพราะผู้นำประเทศสมาชิกของ EU ได้แถลงไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าจะไม่มีการเจรจาอะไรเพิ่มเติมกับรัฐบาลของ UK ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการแยกตัวอีก
โดย มาร์ค เจริญวงศ์ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปัจจุบัน ศึกษาปริญญาเอกอยู่ที่ University of Kent (United Kingdom) สาขากฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรมทางอาญาระหว่างประเทศ