ทอท. หงายเงิบ! ​สภาพัฒน์เบรก "เทอร์มินัล 2" สั่งยึดตามแผนแม่บทเดิม

24 ม.ค. 2562 | 10:48 น.
ทอท. หน้าแตก! สศช. เบรกแผนก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ตามแผนแม่บทปี 2561 ที่ ทอท. เสนอ สั่งให้เร่งเดินหน้าลงทุนตามแผนแม่บทปี 2546 เบรกแผนสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ด้านทิศเหนือ ตีกลับการเปลี่ยนงานก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันตก จี้ให้ขยายด้านตะวันออกก่อน พร้อมศึกษาสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ รวมถึงไฟเขียวลงทุนรันเวย์ 3

หลังจากกระทรวงคมนาคมได้ส่งหนังสือมายังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์เพื่อขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของรายการงานก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก เป็นงานก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันตก ซึ่งหนึ่งในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และโครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 สนามบินสุวรรณภูมิ

20160503-151823-o2q6pd6vt6JnDsOKWed-o-1-503x252-1

ล่าสุด จากรายงานของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2562 ทาง สศช. เปิดเผยมติของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่พิจารณาเรื่องนี้ไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งทางคณะกรรมการฯ มีความเห็นว่า แผนแม่บทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ฉบับ ก.ย. ปี 2561 ที่ ทอท. เสนอในครั้งนี้ ได้เพิ่มเป้าหมายการพัฒนาเพื่อรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดจาก 120 ล้านคนต่อปี เป็น 160 ล้านคนต่อปี ในปี 2578 ทำให้มีการกำหนดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในสนามบินเพิ่มเติม คือ การก่อสร้าง "อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2" ในขณะที่ แผนแม่บทฯ ปี 2561 คาดว่า ในปี 2578 สนามบินสุวรรณภูมิจะมีผู้โดยสาร 120.6 ล้านคน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายการพัฒนาขีดความสามารถของสนามบินสุวรรณภูมิตามแผนแม่บทฯ ปี 2561

นอกจากนี้ แผนแม่บทฯ ดังกล่าวยังไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกับแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศในระยะ 20 ปี อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูง รวมถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการส่งเสริมการพัฒนาท่าอากาศยานของประเทศในภาพรวม

 

[caption id="attachment_378913" align="aligncenter" width="500"] ทอท. หงายเงิบ! ​สภาพัฒน์เบรก "เทอร์มินัล 2" สั่งยึดตามแผนแม่บทเดิม เพิ่มเพื่อน [/caption]

ดังนั้น สำนักงานสภาพัฒน์เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจึงมีข้อสังเกตเพื่อให้ ทอท. ประสานกระทรวงคมนาคม เพื่อร่วมกันพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของประมาณการปริมาณผู้โดยสาร โดยคำนึงถึงบริบทการพัฒนาประเทศในอนาคต เพื่อใช้ในการกำหนดกรอบการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะช่วยให้การลงทุนภายใต้แผนแม่บทฯ เป็นไปอย่างคุ้มค่า และรักษาระดับการให้บริการของสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งระยะสั้นและระยะยาวให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล

"การลงทุนพัฒนาอาคารผู้โดยสารตามลำดับ ภายใต้กรอบแผนแม่บทฯ ปี 2546 ประกอบไปด้วย การขยายอาคารผู้โดยสาร ทั้งด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก และก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ เพื่อรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 120 ล้านคนต่อปี เป็นลำดับแรกก่อน และในกรณีที่ ทอท. ยืนยันว่า จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ถึง 150 ล้านคนต่อปีนั้น ให้ ทอท. พิจารณาแนวทางในการลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมาใช้ในการให้บริการผู้โดยสารภายในอาคารผู้โดยสาร เช่น การตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาออก พร้อมกับการตรวจบัตรโดยสารและการตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระก่อนขึ้นเครื่องแบบ Decentralize เป็นต้น ก่อนการลงทุนพัฒนาอาคารผู้โดยสารเพิ่มเติม"

05-BIRD-NIGHT_FINALbyD

ทั้งยังให้ ทอท. รับความความคิดเห็นจากผู้ที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เช่น สายการบิน และหน่วยงานที่จะต้องปฏิบัติงาน เป็นต้น เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเห็นและเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิในแต่ละระยะ

โดยสภาพัฒน์เห็นควรให้ ทอท. เร่งดำเนินงานก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้เดิม เนื่องจากมีความพร้อมที่จะดำเนินงาน เพื่อบรรเทาปัญหาความแออัดของอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ โดยใช้กลไกของสัญญาในการแก้ไขปัญหาพื้นที่เชิงพาณิชย์ในพื้นที่ก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารฝั่งตะวันออก เพื่อให้สามารถดำเนินการก่อสรางได้ตามเป้าหมายของแผนแม่บทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิปี 2546

ในขณะที่ หากจะดำเนินงานก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันตก ตามที่เสนอจะทำให้ ทอท. ต้องใช้เวลาในการจัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติตามขั้นตอน ซึ่งอาจจะทำให้แผนการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันตกล้ากว่าที่คาดการณ์ไว้

ในหลักการจึงเห็นควรให้ ทอท. เร่งรัดเตรียมโครงการงานก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันตกให้มีความพร้อมและสามารถดำเนินการได้ทันที เมื่อ ครม. เห็นชอบให้ดำเนินโครงการฯ พร้อมทั้งเร่งจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติตามขั้นตอนโดยเร็ว ก่อนนำเสนอโครงการฯ ตามขั้นตอนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้สนามบินสุวรรณภูมิมีขีดความสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารได้ 75 ล้านคนต่อปี ในปี 2565 ทั้งนี้ ในเบื้องต้นเห็นควรให้ยึดกรอบวงเงินลงทุนค่างานก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันตก วงเงิน 6,650.426 ล้านบาท (ไม่รวมสำรองราคาเปลี่ยนแปลง 10% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) ตามที่มีการเสนอมา

ทั้งยังเห็นควรให้กระทรวงคมนาคมกำกับการดำเนินงานของ ทอท. ในการเร่งศึกษาความเหมาะสมของอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ ตามแผนแม่บทฯ ปี 2546 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และนำเสนอ ครม. พิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การขยายขีดความสามารถของสนามบินสุวรรณภูมิ สอดรับกับการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสาร และป้องกันปัญหาความล่าช้าในการพัฒนาขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของสนามบินสุวรรณภูมิ

ในส่วนของโครงการทางวิ่งเส้นที่ 3 ของสนามบินสุวรรณภูมิ ทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นชอบในการหลักการตามที่เสนอมาและให้ ทอท. เร่งรัดก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ พร้อมทั้งใช้มาตรฐานการก่อสร้างที่เหมาะสม รวมถึงควรพิจารณามาตรการอื่น ๆ ที่จะช่วยบริหารจัดการน้ำใต้ดิน บริเวณพื้นที่สนามบิน ซึ่งจะช่วยป้องกัน หรือ ลดระดับความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับทางวิ่งเส้นที่ 3 ได้ในอนาคต รวมถึงจัดทำแผนการซ่อมแซมใหญ่ทางวิ่งเส้นที่ 1 และที่ 2 ให้สอดคล้องกับการเปิดใช้งานทางวิ่งเส้นที่ 3 เพื่อรักษาระดับคุณภาพการให้บรืการของสนามบิน รวมไปถึงการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด จัดทำแนวทางการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 4 ให้สอดคล้องกับแนวโน้มปริมาณการจราจรทางอากาศในอนาคต

……………….

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
บอร์ด ทอท. ไฟเขียว! สร้าง "เทอร์มินัล 2" สุวรรณภูมิ
ทอท. ชงบอร์ด 19 ธ.ค. ลุยสร้าง "เทอร์มินัล 2"

เพิ่มเพื่อน บาร์ไลน์ฐาน