เปิดทางร่วม "คืนแวตตรุษจีน" 1 คน ลงทะเบียนสูงสุด 10 บัญชี
คลังเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนที่สนใจร่วมมาตรการ "คืนแวตตรุษจีน" เพิ่มทางเลือก 1 คน ลงทะเบียนสูงสุด 10 บัญชี
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเปิดให้ประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมมาตรการส่งเสริมการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการและการนำส่งข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถเลือกลงทะเบียนธนาคารได้มากกว่า 1 แห่ง และในแต่ละธนาคารยังสามารถใช้จ่ายจากบัญชีธนาคารมากกว่า 1 เลขที่บัญชีได้ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมากขึ้น โดยสามารถเลือกใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต หรือ QR Code ได้เช่นเดิม โดยผู้ลงทะเบียน 1 คน สามารถลงทะเบียนได้สูงสุดไม่เกิน 10 เลขที่บัญชี ส่วนผู้ที่ได้ลงทะเบียนไปแล้ว สามารถลงทะเบียนแก้ไขเพื่อกำหนดเลขที่บัญชีธนาคารที่จะใช้ชำระเงินใหม่ได้ โดยใช้เลขประจำตัวประชาชนและอีเมลที่ได้ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้า
ทั้งนี้ ประชาชนที่เข้าร่วมมาตรการดังกล่าวจะได้รับการชดเชยภาษีมูลค่าเพิ่ม 5% ผ่านระบบพร้อมเพย์ที่ใช้เลขประจำตัวประชาชน ภายในเดือน พ.ย. 2562 สำหรับการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต หรือ QR Code ในช่วงวันที่ 1-15 ก.พ. 2562 เป็นเงินไม่เกิน 1,000 บาท โดยประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 7–31 ม.ค. 2562 ผ่านเว็บไซต์ www.epayment.go.th โดยจะต้องเป็นการซื้อสินค้าและบริการที่มีภาษีมูลค่าเพิ่มกับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ใช้ระบบบันทึกการเก็บเงิน (Point of Sale : POS) ที่สามารถแยกจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มออกจากราคาสินค้าและบริการได้ แต่ไม่รวมถึงสินค้าภาษีสรรพสามิต 5 ประเภท คือ 1.สุรา 2.ยาสูบ 3.น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน 4.รถยนต์ และ 5.รถจักรยานยนต์
ปัจจุบัน มีธนาคารที่เข้าร่วมมาตรการฯแล้ว 17 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารทหารไทย, ธนาคารธนชาต, ธนาคารเกียรตินาคิน, ธนาคารทิสโก้, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, ธนาคารยูโอบี, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์, ธนาคารไอซีบีซี, ธนาคารออมสิน, ธนาคารซิตี้แบงค์ และธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) และมีผู้ประกอบการร้านค้าสมัครเข้าร่วมมาตรการแล้ว 65 ราย มีสาขากว่า 15,000 แห่ง
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเปิดให้ประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมมาตรการส่งเสริมการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการและการนำส่งข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถเลือกลงทะเบียนธนาคารได้มากกว่า 1 แห่ง และในแต่ละธนาคารยังสามารถใช้จ่ายจากบัญชีธนาคารมากกว่า 1 เลขที่บัญชีได้ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมากขึ้น โดยสามารถเลือกใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต หรือ QR Code ได้เช่นเดิม โดยผู้ลงทะเบียน 1 คน สามารถลงทะเบียนได้สูงสุดไม่เกิน 10 เลขที่บัญชี ส่วนผู้ที่ได้ลงทะเบียนไปแล้ว สามารถลงทะเบียนแก้ไขเพื่อกำหนดเลขที่บัญชีธนาคารที่จะใช้ชำระเงินใหม่ได้ โดยใช้เลขประจำตัวประชาชนและอีเมลที่ได้ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้า
ทั้งนี้ ประชาชนที่เข้าร่วมมาตรการดังกล่าวจะได้รับการชดเชยภาษีมูลค่าเพิ่ม 5% ผ่านระบบพร้อมเพย์ที่ใช้เลขประจำตัวประชาชน ภายในเดือน พ.ย. 2562 สำหรับการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต หรือ QR Code ในช่วงวันที่ 1-15 ก.พ. 2562 เป็นเงินไม่เกิน 1,000 บาท โดยประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 7–31 ม.ค. 2562 ผ่านเว็บไซต์ www.epayment.go.th โดยจะต้องเป็นการซื้อสินค้าและบริการที่มีภาษีมูลค่าเพิ่มกับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ใช้ระบบบันทึกการเก็บเงิน (Point of Sale : POS) ที่สามารถแยกจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มออกจากราคาสินค้าและบริการได้ แต่ไม่รวมถึงสินค้าภาษีสรรพสามิต 5 ประเภท คือ 1.สุรา 2.ยาสูบ 3.น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน 4.รถยนต์ และ 5.รถจักรยานยนต์
ปัจจุบัน มีธนาคารที่เข้าร่วมมาตรการฯแล้ว 17 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารทหารไทย, ธนาคารธนชาต, ธนาคารเกียรตินาคิน, ธนาคารทิสโก้, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, ธนาคารยูโอบี, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์, ธนาคารไอซีบีซี, ธนาคารออมสิน, ธนาคารซิตี้แบงค์ และธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) และมีผู้ประกอบการร้านค้าสมัครเข้าร่วมมาตรการแล้ว 65 ราย มีสาขากว่า 15,000 แห่ง
