หมอนยางพารา "CHADA" เสริมแกร่งคู่ค้า สยายปีกส่งออก-แตกไลน์สินค้า

24 ม.ค. 2562 | 03:11 น.
บริษัท "42 เนอเจอรัลรับเบอร์" เปิดแผนกลยุทธ์ธุรกิจปีนี้ มุ่งเจาะตลาดต่างประเทศ เน้นเสริมแกร่งคู้ค้าในจีน เดินหน้าสยายปีกต่อไปยังเออีซีและอินเดีย แย้มกำลังเจรจากับกัมพูชา พร้อมมีผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกไตรมาส สนับสนุนตลาดในประเทศ เชื่อรายได้ปีนี้แตะ 5-6 ล้านบาท

นางสาวคุณัญญา แก้วหนู กรรมการผู้จัดการ บริษัท 42 เนอเจอรัลรับเบอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายหมอนยางพารา แบรนด์ "ชาดา" (CHADA) และถุงมือเคลือบยางพารา แบรนด์ "แม็กซ์ โกลฟ" (MAX GLOVES) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"
ว่า กลยุทธ์การทำตลาดของบริษัทปีนี้ จะมุ่งเน้นการขยายตลาดในประเทศเป็นหลัก โดยลำดับแรกจะพยายามทำให้การทำตลาดในประเทศจีนมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งล่าสุด บริษัทได้ดำเนินการจัดทำวิดีโอแนะนำสินค้าและทำบาร์โค้ด เพื่อสื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงประเทศผู้ผลิต ช่วยตัวแทนจำหน่ายและลูกค้าปลีก โดยจะเป็นการช่วยให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในการซื้อผลิตภัณฑ์มากขึ้น เพราะผู้บริโภคจีนมีความต้องการผลิตภัณฑ์จากไทยเป็นอย่างมาก


S__4391087

อย่างไรก็ดี บริษัทยังมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังประเทศในกลุ่มเออีซี (AEC) และอินเดียเพิ่มเติม โดยปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาทางธุรกิจกับตัวแทนจำหน่ายในประเทศกัมพูชาอยู่ จากเดิมที่บริษัทมีการทำตลาดอยู่ในประเทศจีนและลาว

"บริษัทได้ดำเนินการลงทุนเรื่องเทคโนโลยีเครื่องจักรในการผลิตถุงมือเคลือบยางพารา เพื่อรองรับการทำตลาดที่ขยายตัวมากยิ่งขึ้นในปีนี้ จากเดิมที่ใช้แรงงานคน ซึ่งจะผลิตได้ประมาณ 10 โหลต่อ 1 สัปดาห์ แต่เมื่อใช้เครื่องจักรสามารถผลิตได้ 10 โหลต่อ 1 ชั่วโมง"


TP8-3438-A S__4391094

ขณะที่ ช่องทางการจำหน่ายในประเทศ บริษัทจะยังคงมุ่งเน้นไปที่การออกงานแสดงสินค้า ซึ่งบริษัทมีตัวแทนในการดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้ โดยบริษัทจะทำการสนับสนุนการขายด้วยการมีผลิตภัณฑ์ออกใหม่ในทุกไตรมาส เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าและขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ล่าสุด บริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่อยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนาอยู่อีก 2 ชิ้น คาดว่าจะสามารถนำเสนอออกสู่ตลาดได้ภายในปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทยังมองไปยังตลาดของกลุ่มผู้สูงวัยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นการต่อยอดตลาดของบริษัท

นางสาวคุณัญญา กล่าวต่อไปอีกว่า จากกลยุทธ์การทำตลาดดังกล่าว เชื่อว่าจะทำให้บริษัทมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 5-6 ล้านบาทในปีนี้ หรือเติบโตขึ้นประมาณ 30-50% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 3-4 ล้านบาท


S__4391092 S__4391091

สำหรับจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่บริษัทผลิตนั้น หากเป็นหมอนยางพาราแบรนด์ "ชาดา" จะเป็นหมอนที่ผลิตด้วยการทำมือ หรือ แฮนด์เมด (Handmade) โดยจะมีความแข็งแรงและมีอายุการใช้งานยาวนาน อีกทั้งยังทำให้ยางพาราแห้งด้วยการเป่าลม หมดปัญหาเรื่องกลิ่นเวลาที่ใช้งาน ขณะที่ ถุงมือเคลือบยางพาราแบรนด์ "แม็กซ์ โกลฟ" จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยางพาราธรรมชาติทั้งหมด ซึ่งทำให้มีคุณสมบัติในการป้องกันการลื่นได้เป็นอย่างดี แม้จะอยู่ในสภาพที่เปียกชื้น เพราะยางพารามีคุณสมบัติในการป้องกันการลื่นได้ดีที่สุด


S__4391085

ด้านหลักคิดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ มองว่า อยู่ที่การเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) รายเล็ก ซึ่งทำให้บริษัทสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว เมื่อตลาดเดิมที่ทำอยู่มีอาการซบเซา เช่น จากเดิมที่ถุงมือเคลือบยางพาราของบริษัทจะผลิตออกมาแต่สีเหลือง บริษัทก็สามารถปรับเปลี่ยนสีได้ทันทีตามที่ตลาดต้องการ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมาจากปัจจัยทางด้านนวัตกรรมที่บริษัทนำมาปรับใช้กับผลิตภัณฑ์ ซึ่งตอบโจทย์กับความต้องการของตลาดยุคปัจจุบันได้

หน้า 8 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3438 วันที่ 24-26 มกราคม 2562

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว