เจ้าพ่อตลาดรถหรู
"เมอร์เซเดส-เบนซ์" เดินเกมเร็วตั้งแต่ต้นปี 2562 ด้วยการเปิดตัวรถใหม่
"เอ-คลาส" ตัวถังซีดานรุ่นนำเข้า และ
"ซีแอลเอส" รุ่นประกอบในประเทศ ทั้งเวอร์ชันปกติ 300d ที่ทำราคาลดลงเกือบ 6 แสนบาท และตัวแรง "เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ซีแอลเอส 53" พร้อมเปิดศูนย์กระจายอะไหล่ใหม่ที่ถนนบางนา-ตราด กม.19 รองรับบริการหลังการขาย
ตลาดรถหรูคึกคักตั้งแต่ต้นปี นำโดยเบอร์ 1
"เมอร์เซเดส-เบนซ์" ที่ไม่ยอมเสียโอกาสแม้เสี้ยววินาที เพราะเพียงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ม.ค. 2562 เริ่มออกแคมเปญส่งเสริมการขายให้รถยนต์ 3 รุ่น คือ จีแอลซี, อี-คลาส และเอส-คลาส ด้วยดอกเบี้ย 0% และแถมฟรีประกันชั้นหนึ่ง
โดย GLC 250d 4MATIC OFF-ROAD และ GLC 250d 4MATIC AMG Dynamic ลูกค้าสามารถเลือกได้ระหว่างรับอัตราดอกเบี้ย 0% สำหรับสัญญาเช่าซื้อระยะเวลา 48 เดือน หรือ ส่วนลดเงินดาวน์ ขณะที่ อี-คลาสรับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1-2 ปี และเอส-คลาสฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 3 ปี
[caption id="attachment_378956" align="aligncenter" width="503"]
CLS โฉมใหม่[/caption]
ล่าสุด ยังผลักดันยอดขายให้รถสไตล์คูเป้ 4 ประตูยอดนิยม
"ซีแอลเอส โฉมใหม่" ด้วยการขึ้นไลน์ประกอบในประเทศ หลังจากปีที่แล้วนำเข้ารุ่น CLS300d AMG Premium มาขายในราคา 4.98 ล้านบาท โดยรุ่นประกอบไทยตั้งราคาขายใหม่เป็น 4.39 ล้านบาท หรือถูกลง 5.9 แสนบาท โดยไม่ตัดออพชันใด ๆ ออกไป ซึ่งถือเป็นการทำ CKD ครั้งแรกของรถโมเดลนี้
ด้านเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า ที่ 4,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 6.4 วินาที และความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
สำหรับ CLS300d AMG Premium ยังโดดเด่นด้วยหลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า กันชนหน้า-หลัง และสเกิร์ตข้างดีไซน์สปอร์ตจาก AMG สัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์เบรก ล้ออัลลอยดีไซน์ AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว และไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออพติก
ทั้งยังออกแบบเบาะ 5 ที่นั่งใหม่ โดยมีวัสดุหุ้มเบาะเป็นหนัง Nappa ส่วนความบันเทิงจัดเต็มด้วยระบบ AUDIO 20 GPS และหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบ Digital Widescreen Cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® Surround Sound System, ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay™ & Android Auto, ระบบ Bluetooth ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย Touchpad และไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารเลือกได้ 64 สี ระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display)
"ปีที่แล้ว เรานำเสนอรถรุ่นประกอบในประเทศไทยทั้งหมด 7 รุ่นย่อย ทั้งจากตระกูล Mercedes-Benz และรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูง Mercedes-AMG ซึ่งครั้งนี้เราประเดิมศักราชใหม่ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ในกลุ่มดรีมคาร์ อย่าง CLS 300 d AMG Premium รุ่นประกอบในประเทศ ยนตรกรรมสปอร์ต พร้อมเทคโนโลยีที่ลํ้าสมัย ที่จะช่วยเสริมรากฐานและเอกลักษณ์ของรถยนต์ตระกูลนี้ให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก" นายฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
นอกจาก
"ซีแอลเอส รุ่นประกอบในประเทศ" แล้ว เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังส่งดาบสองด้วยโปรดักต์อย่าง เอ-คลาส โฉมใหม่ ตัวถังซีดาน หลังโฉมเก่าตัวถังแฮตช์แบ็กหยุดทำตลาดมานานแล้ว
เอ-คลาส โฉมใหม่ ตัวถังซีดาน เปิดตัวครั้งแรกที่งาน
"ปักกิ่ง มอเตอร์โชว์ 2018" ประเทศจีน เมื่อเดือน เม.ย. 2561 พร้อมทำตลาดด้วยรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ และ 1.3 ลิตร เทอร์โบ ส่งกำลังด้วยเกียร์คลัตช์คู่ 7 สปีด ในรหัส A250 และ A200 ตามลำดับ ส่วนเมืองไทยน่าจะได้เห็นการเปิดตัวช่วงปลายเดือน ก.พ. หรือต้นเดือน มี.ค. นี้ โดยนำเข้าล็อตเล็ก ๆ มาทำตลาดก่อน จากนั้นจะมีรุ่นประกอบในประเทศตามมาภายในปีนี้
[caption id="attachment_378237" align="aligncenter" width="560"]
บรรยากาศงานเปิดตัว เอ-คลาส ตัวถังซีดาน ที่เมืองจีนปีที่แล้ว[/caption]
โดย เอ-คลาส โฉมใหม่ ตัวถังซีดาน คาดว่าราคาขายจะอยู่ในช่วง 2-3 ล้านบาท ถือเป็นรถในกลุ่มคอมแพ็กต์ ระดับ Entry Level ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ตัวถังแฮตช์แบ็กไม่น่าจะทำตลาดในเมืองไทย) และปีหน้าอาจได้เจอกับรถสไตล์คูเป้ 4 ประตู ที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกันอย่าง
"ซีแอลเอ โฉมใหม่" ที่เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในโลกงาน CES2019 เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ต้นเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา
นอกเหนือจากแคมเปญแรงและโปรดักต์ใหม่ 2 รุ่น ที่เดินเกมเร็วตั้งแต่ต้นปีแล้ว ในด้านการลงทุน เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังสร้างศูนย์กระจายอะไหล่ใหม่ (บริเวณเดิม) บนถนนบางนา-ตราด กม.19 สอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ใหม่ที่โตต่อเนื่อง (ปีนี้คาดว่ายอดขายไม่ต่ำกว่า 1.4-1.5 หมื่นคัน) และรองรับการบริการหลังการขาย การบริการจัดการอะไหล่อย่างมีประสิทธิภาพ
ศูนย์กระจายอะไหล่แห่งใหม่ มีความสามารถในการจัดเก็บอะไหล่ได้กว่า 1.2 แสนไอเท็ม เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ 2-3 หมื่นไอเท็ม เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2560 โดยขยายพื้นที่จาก 3,500 ตร.ม. เป็น 12,000 ตร.ม. ส่วนที่ตั้งเดิมจะปรับเป็นศูนย์ฝึกอบรมช่างเทคนิค
สำหรับพิธีเปิดอย่างเป็นทางการของศูนย์กระจายอะไหล่ใหม่ บนถนนบางนา-ตราด กม.19 จะมีขึ้นภายในเดือน ก.พ. นี้ โดยพื้นที่ดังกล่าวสามารถขยับขยายได้มากขึ้น หลัง
"เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย" ย้ายศูนย์เตรียมรถยนต์ใหม่ (Vehicle Preparation Center - VPC) ไปสถานที่แห่งใหม่ขนาด 100,000 ตร.ม. บนถนนบางนา-ตราด กม.30 ซึ่งว่าจ้าง
"บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี" ให้บริหารจัดการ
ปัจจุบัน ศูนย์กระจายอะไหล่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ สามารถสต๊อกชิ้นส่วนได้จำนวน 96% ซึ่งที่เหลือ 4% เป็นการสั่งนำเข้ามาจากคลังอะไหล่ที่เยอรมนีและที่สิงคโปร์ โดยระยะเวลาในการสั่งและจัดส่งอยู่ที่ 10 วัน และ 5 วันทำการ ตามลำดับ
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,438 วันที่ 24 - 26 มกราคม พ.ศ. 2562