ผู้ถือหุ้นไฟเขียวเพิ่มทุนรอบ 3!! 'บินไทย' แทงกั๊กเพิ่มทุน 'นกแอร์'
"ผู้ถือหุ้นนกแอร์" ไฟเขียว! เพิ่มทุนรอบ 3 หวังระดมทุน 2,500 ล้านบาท ต่อลมหายใจ ด้าน "การบินไทย" ยังไม่ตอบชัดเจน "ดีดีสุเมธ" ยัน! ในฐานะผู้ถือหุ้นสนับสนุนนกแอร์ปฏิบัติตามแผนเพิ่มทุน แต่การบินไทยจะลงเงินหรือไม่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
นายประเวช องอาจสิทธิกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2562 มีมติเห็นชอบให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 908.79 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม จำนวน 2,499.25 ล้านบาท เป็นจำนวน 3,408.05 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 908.79 ล้านหุ้น เสนอขายผุ้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้นที่แต่ละรายถืออยู่ (Right Offering) ในราคาหุ้นละ 2.75 บาท อัตราส่วนในการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน 2.5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน
การเพิ่มทุนเพื่อนำเงินไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนลดภาระหนี้สินและนำมาใช้ในการรองรับแผนการดำเนินธุรกิจปรับปรุงฝูงบินขยายเส้นทางบิน
การเพิ่มทุนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ครั้งแรกเพิ่มทุนให้ผุ้ถือหุ้นเดิม จำนวน 625 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.40 บาท ขายได้ 511 ล้านหุ้น คงเหลือ 114 ล้านหุ้น เนื่องจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 39.2% ไม่ใช้สิทธิเพิ่มทุน
รอบที่ 2 เพิ่มทุน 1,207 ล้านหุ้น จัดสรรหุ้นให้ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน RO ในอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาเสนอขายหุ้นละ 1.50 บาท รอบนี้การบินไทยสนใจเพิ่มทุนด้วย ส่งผลให้ทุนจดทะเบียนจากเดิม 1,207 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 2,499 ล้านบาท
นายประเวช กล่าวว่า ในปี 2562 ขณะนี้นกแอร์อยู่ในช่วงการหยุดขาดทุนให้ได้เสียก่อน และคาดว่าจะทำให้ได้ 3 ไตรมาสต่อเนื่อง จากนั้นจะเริ่มสร้างเสถียรภาพ แล้วค่อยสร้างความเติบโต ซึ่งการหยุดขาดทุนต้องทำตั้งแต่ปีที่แล้ว จากเรื่องราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและผลกระทบจากทัวร์จีน ส่วนแผนลดค่าใช้จ่ายที่เริ่มแล้ว คือ 1.ลดค่าใช้จ่ายเรื่องฝูงบินให้เหลือเครื่องบินแบบเดียว ทั้งเร็ว ๆ นี้ จะปลดระหว่างเอทีอาร์ 2 ลำ 2.ลดค่าใช้จ่ายบริการภาคพื้นดิน และ 3.การช่อมบำรุงเครื่องบิน
"บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มทุน เพื่อให้มีเงินทุนเพียงพอรองรับแผนการดำเนินธุรกิจ เช่น การปรับปรุงฝูงบิน รวมทั้งการขยายเส้นทางและเครือข่ายการบิน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของบริษัทให้สูงขึ้น ท่ามกลางภาวะที่ตลาดมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง โดยนกแอร์จะเร่งดำเนินการแผนลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ และเร่งปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้ที่เกียวข้อง" นายประเวช กล่าว
[caption id="attachment_378110" align="aligncenter" width="503"]
Nok Air 737-800 YV099 Humanitarian Aid Cargo Load[/caption]
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นนกแอร์ในครั้งนี้ นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบอร์ดนกแอร์ ติดภารกิจ จึงไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย
ด้าน นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในฐานะที่การบินไทยเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของสายการบินนกแอร์ การบินไทยสนับสนุนนกแอร์ปฏิบัติตามแผนเพิ่มทุน เพื่อให้ดำเนินธุรกิจได้ตามแผนที่วางไว้ แต่การบินไทยจะเพิ่มทุนในนกแอร์หรือไม่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งหากพิจารณาแล้วเสร็จ ก็ยังต้องนำเสนอบอร์ดต่อไปว่าจะตัดสินใจอย่างไร
นายประเวช องอาจสิทธิกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2562 มีมติเห็นชอบให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 908.79 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม จำนวน 2,499.25 ล้านบาท เป็นจำนวน 3,408.05 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 908.79 ล้านหุ้น เสนอขายผุ้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้นที่แต่ละรายถืออยู่ (Right Offering) ในราคาหุ้นละ 2.75 บาท อัตราส่วนในการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน 2.5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน
การเพิ่มทุนเพื่อนำเงินไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนลดภาระหนี้สินและนำมาใช้ในการรองรับแผนการดำเนินธุรกิจปรับปรุงฝูงบินขยายเส้นทางบิน
การเพิ่มทุนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ครั้งแรกเพิ่มทุนให้ผุ้ถือหุ้นเดิม จำนวน 625 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.40 บาท ขายได้ 511 ล้านหุ้น คงเหลือ 114 ล้านหุ้น เนื่องจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 39.2% ไม่ใช้สิทธิเพิ่มทุน
รอบที่ 2 เพิ่มทุน 1,207 ล้านหุ้น จัดสรรหุ้นให้ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน RO ในอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาเสนอขายหุ้นละ 1.50 บาท รอบนี้การบินไทยสนใจเพิ่มทุนด้วย ส่งผลให้ทุนจดทะเบียนจากเดิม 1,207 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 2,499 ล้านบาท
นายประเวช กล่าวว่า ในปี 2562 ขณะนี้นกแอร์อยู่ในช่วงการหยุดขาดทุนให้ได้เสียก่อน และคาดว่าจะทำให้ได้ 3 ไตรมาสต่อเนื่อง จากนั้นจะเริ่มสร้างเสถียรภาพ แล้วค่อยสร้างความเติบโต ซึ่งการหยุดขาดทุนต้องทำตั้งแต่ปีที่แล้ว จากเรื่องราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและผลกระทบจากทัวร์จีน ส่วนแผนลดค่าใช้จ่ายที่เริ่มแล้ว คือ 1.ลดค่าใช้จ่ายเรื่องฝูงบินให้เหลือเครื่องบินแบบเดียว ทั้งเร็ว ๆ นี้ จะปลดระหว่างเอทีอาร์ 2 ลำ 2.ลดค่าใช้จ่ายบริการภาคพื้นดิน และ 3.การช่อมบำรุงเครื่องบิน
"บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มทุน เพื่อให้มีเงินทุนเพียงพอรองรับแผนการดำเนินธุรกิจ เช่น การปรับปรุงฝูงบิน รวมทั้งการขยายเส้นทางและเครือข่ายการบิน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของบริษัทให้สูงขึ้น ท่ามกลางภาวะที่ตลาดมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง โดยนกแอร์จะเร่งดำเนินการแผนลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ และเร่งปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้ที่เกียวข้อง" นายประเวช กล่าว
[caption id="attachment_378110" align="aligncenter" width="503"]
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นนกแอร์ในครั้งนี้ นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบอร์ดนกแอร์ ติดภารกิจ จึงไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย
ด้าน นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในฐานะที่การบินไทยเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของสายการบินนกแอร์ การบินไทยสนับสนุนนกแอร์ปฏิบัติตามแผนเพิ่มทุน เพื่อให้ดำเนินธุรกิจได้ตามแผนที่วางไว้ แต่การบินไทยจะเพิ่มทุนในนกแอร์หรือไม่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งหากพิจารณาแล้วเสร็จ ก็ยังต้องนำเสนอบอร์ดต่อไปว่าจะตัดสินใจอย่างไร
