ไทยเจ๋ง! ส่งออก "กาแฟ" เบอร์ 6 โลก จร. หนุนเจาะตลาดเพิ่ม-สู้ศึกค้าเสรี

22 ม.ค. 2562 | 08:45 น.
กรมเจรจาฯ ลงพื้นที่น่าน หนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการกาแฟเตรียมความพร้อมสู้ศึกเปิดเสรีและใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ ดันกาแฟไทยเจาะตลาดโลก หลังผงาดส่งออกผลิตภัณฑ์กาแฟเบอร์ 6 โลก

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (จร.) เปิดเผยว่า ทางกรมฯ ร่วมกับสมาคมกาแฟไทย หอการค้าไทย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดน่าน และสำนักงานเกษตรจังหวัดน่าน จัดสัมมนาและลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและผู้ประกอบการกาแฟตลอดห่วงโซ่การผลิต ในวันที่ 25 ม.ค. 2562 ณ จ.น่าน เพื่อให้ความรู้และการใช้ประโยชน์จากความตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ไทยทำกับประเทศต่าง ๆ ในการส่งออกผลิตภัณฑ์กาแฟไทยและนำเข้าวัตถุดิบราคาถูกเพื่อต่อยอด ตลอดจนพัฒนาศักยภาพสินค้ากาแฟไทย ผ่านการแปรรูปและสร้างผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย พัฒนาคุณภาพกาแฟไทยให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคไทยและต่างประเทศ เพื่อดันอุตสาหกรรมกาแฟไทยเจาะตลาดโลก


DSCF1490

การลงพื้นที่และจัดสัมมนาครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่กรมฯ จัดต่อเนื่องจากปี 2561 ที่ได้ร่วมกับกรมวิชาการเกษตร สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานเกษตรจังหวัด และสมาคมกาแฟไทย เป็นต้น ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ทั้งในภาคเหนือที่ จ.เชียงราย และภาคใต้ที่ จ.ชุมพร ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟสำคัญของประเทศไทย เพื่อให้ความรู้และแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเกษตรกร ผู้ปลูกกาแฟ ผู้คั่วกาแฟ ร้านกาแฟ ผู้ประกอบการ และผู้ส่งออก เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือการเปิดเสรี ทั้งการเพาะปลูก การผลิต การรักษาคุณภาพ มาตรฐานกาแฟไทย ให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค

จากการสัมมนาและลงพื้นที่ในปี 2561 ที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปว่า อุตสาหกรรมกาแฟไทยยังมีโอกาสในการขยายตัวได้อีกมาก เนื่องจากผู้บริโภคกาแฟทั้งในไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งไทยในฐานะที่เป็นประเทศที่มีการปลูกและยังเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์กาแฟเป็นอันดับ 6 ของโลก (ข้อมูลปี 2559 ประเทศผู้ผลิตและส่งออกกาแฟ 5 อันดับแรกของโลก ได้แก่ บราซิล เวียดนาม โคลัมเบีย อินโดนีเซีย เอธิโอเปีย) สามารถพัฒนาด้านการผลิต การแปรรูป การสร้างคุณภาพมาตรฐานที่น่าเชื่อถือ และการสร้างอัตลักษณ์เฉพาะให้กับกาแฟไทยเป็นที่รู้จักในโลก


sh7

"กิจกรรมในปี 2562 จะขยายไปที่การพัฒนาผู้ประกอบการในช่วงกลางน้ำและปลายน้ำ ตลอดห่วงโซ่การผลิตด้วย เพื่อให้ผู้ส่งออก โรงงานแปรรูป ผู้ประกอบการ รวมถึงเกษตรกรที่ผันตัวมาเป็นผู้ประกอบการ มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การแปรรูปผลิตภัณฑ์ การพัฒนาคุณภาพให้น่าเชื่อถือ นำไปสู่การยอมรับของตลาดในประเทศและต่างประเทศ"

สำหรับสินค้าเมล็ดกาแฟและผลิตภัณฑ์กาแฟถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย ไทยมีพื้นที่เพาะปลูกกว่า 258,000 ไร่ทั่วประเทศ ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์กาแฟเป็นอันดับที่ 6 ของโลก โดยผลิตภัณฑ์กาแฟส่วนใหญ่ที่ส่งออก เช่น กาแฟ 3 in 1 และกาแฟสำเร็จรูป ไปประเทศในอาเซียน เช่น เมียนมา สปป.ลาว และฟิลิปปินส์ และเนื่องจากการบริโภคกาแฟของโลกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอุตสาหกรรมกาแฟไทยก็มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน พิจารณาจากความต้องการใช้เมล็ดกาแฟของโรงงานแปรรูปในประเทศไทย ในปี 2561 ที่สูงกว่า 95,000 ตันต่อปี เพิ่มขึ้นกว่า 6.08% จากปี 2560 ขณะที่ ไทยผลิตเมล็ดกาแฟได้ 23,617 ตันต่อปี จึงมีการนำเข้าเมล็ดกาแฟประมาณ 68,000 ตันต่อปี ซึ่งจากความต้องการกาแฟของโลกที่เพิ่มสูงขึ้นและมีความหลากหลาย ทำให้ไทยมีโอกาสในการส่งออกเมล็ดกาแฟและผลิตภัณฑ์กาแฟเพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งการลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและผู้ประกอบการกาแฟตลอดห่วงโซ่มูลค่า เพื่อชี้โอกาสของกาแฟไทยในโลกการค้าเสรี

595959859