ก.ล.ต. ลงโทษผู้แนะนำลงทุน 2 ราย! ฐานใช้บัญชีหลักทรัพย์ผู้ลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง
ก.ล.ต. ลงโทษผู้แนะนำการลงทุน 2 ราย ฐานใช้บัญชีหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง ได้แก่ (1) นายโภไคย วงศ์ประสิทธิ์ศรี ผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 1 และผู้วางแผนการลงทุน ขณะกระทำผิดสังกัดบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) และ (2) นายธนะวรรธน์ คชพงษ์สิทธิโชค ผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุน ขณะกระทำผิดสังกัดบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นระยะเวลา 2 ปี 6 เดือน
ก.ล.ต. ตรวจสอบพบว่า (1) ระหว่างวันที่ 4 ม.ค. 2556 - 15 ต.ค. 2557 นายโภไคยใช้บัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้า ซึ่งเป็นมารดา ซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง โดยพบว่า มีการถอนเงินจากบัญชีหลักประกันของลูกค้าเข้าบัญชีธนาคารอัตโนมัติ (บัญชี ATS) ของลูกค้าหลายรายการ เป็นเงิน 6.18 ล้านบาท และยังพบว่า มีการทยอยถอนเงินดังกล่าวจากบัญชี ATS ของลูกค้าเข้าบัญชีเงินฝากของนายโภไคยหลายรายการ เป็นเงินรวม 6.16 ล้านบาท จึงพิจารณาว่า นายโภไคยเป็นผู้รับประโยชน์ที่แท้จริงในบัญชีหลักทรัพย์ดังกล่าว
(2) กรณีนายธนะวรรธน์พบว่า ระหว่างเดือน มิ.ย. - ต.ค. 2557 นายธนะวรรธน์ได้ขอยืมบัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้า ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ในการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง โดยพบว่า เงินที่ถอนจากบัญชีส่วนตัวของนายธนะวรรธน์มียอดตรงกับจำนวนเงินฝากเข้าหลักประกันในบัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้า ต่อมาลูกค้าได้ถอนเงินหลักประกันจากบัญชีหลักทรัพย์เพื่อเข้าบัญชีเงินฝากส่วนตัวของตนเอง เป็นเงิน 2.53 ล้านบาท รวมถึงได้ทยอยถอนเงินดังกล่าวทั้งหมดและฝากเข้าบัญชีของนายธนะวรรธน์ จึงพิจารณาว่า นายธนะวรรธน์ใช้บัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง
การกระทำของ (1) นายโภไคย และ (2) นายธนะวรรธน์ เป็นการใช้บัญชีหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง ซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน*
[caption id="attachment_377829" align="aligncenter" width="500"]
[/caption]
การลงโทษบุคคลลำดับที่ (1) นายโภไคย ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 1** และผู้วางแผนการลงทุน และกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป เป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. 2562
การลงโทษบุคคลลำดับที่ (2) นายธนะวรรธน์ ก.ล.ต. เห็นควรสั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุนของนายธนะวรรธน์เป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน เนื่องจากระยะเวลาในการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุนของนายธนะวรรธน์สิ้นสุดไปแล้ว ก.ล.ต. จึงได้กำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป เป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. 2562
ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนระมัดระวังและหมั่นตรวจสอบรายการซื้อขาย รวมทั้งเงินลงทุนในบัญชีอย่างสม่ำเสมอ และต้องไม่ยินยอมให้ผู้แนะนำการลงทุนตัดสินใจแทนหรือมาใช้บัญชีของตนเอ
** หมายเหตุ :
* ข้อ 23(1) และเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามข้อ 31(1) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 8/2557 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ลงวันที่ 3 มิ.ย. 2557 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 48/2560 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน (ฉบับที่ 7) ลงวันที่ 30 ส.ค. 2560
** ผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 1 ผู้แนะนำการลงทุนที่ให้คำแนะนำแก่ผู้ลงทุนในผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนที่ไม่มีความซับซ้อน และผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อนได้ทุกประเภท
ก.ล.ต. ตรวจสอบพบว่า (1) ระหว่างวันที่ 4 ม.ค. 2556 - 15 ต.ค. 2557 นายโภไคยใช้บัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้า ซึ่งเป็นมารดา ซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง โดยพบว่า มีการถอนเงินจากบัญชีหลักประกันของลูกค้าเข้าบัญชีธนาคารอัตโนมัติ (บัญชี ATS) ของลูกค้าหลายรายการ เป็นเงิน 6.18 ล้านบาท และยังพบว่า มีการทยอยถอนเงินดังกล่าวจากบัญชี ATS ของลูกค้าเข้าบัญชีเงินฝากของนายโภไคยหลายรายการ เป็นเงินรวม 6.16 ล้านบาท จึงพิจารณาว่า นายโภไคยเป็นผู้รับประโยชน์ที่แท้จริงในบัญชีหลักทรัพย์ดังกล่าว
(2) กรณีนายธนะวรรธน์พบว่า ระหว่างเดือน มิ.ย. - ต.ค. 2557 นายธนะวรรธน์ได้ขอยืมบัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้า ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ในการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง โดยพบว่า เงินที่ถอนจากบัญชีส่วนตัวของนายธนะวรรธน์มียอดตรงกับจำนวนเงินฝากเข้าหลักประกันในบัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้า ต่อมาลูกค้าได้ถอนเงินหลักประกันจากบัญชีหลักทรัพย์เพื่อเข้าบัญชีเงินฝากส่วนตัวของตนเอง เป็นเงิน 2.53 ล้านบาท รวมถึงได้ทยอยถอนเงินดังกล่าวทั้งหมดและฝากเข้าบัญชีของนายธนะวรรธน์ จึงพิจารณาว่า นายธนะวรรธน์ใช้บัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง
การกระทำของ (1) นายโภไคย และ (2) นายธนะวรรธน์ เป็นการใช้บัญชีหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง ซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน*
[caption id="attachment_377829" align="aligncenter" width="500"]
การลงโทษบุคคลลำดับที่ (1) นายโภไคย ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 1** และผู้วางแผนการลงทุน และกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป เป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. 2562
การลงโทษบุคคลลำดับที่ (2) นายธนะวรรธน์ ก.ล.ต. เห็นควรสั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุนของนายธนะวรรธน์เป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน เนื่องจากระยะเวลาในการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุนของนายธนะวรรธน์สิ้นสุดไปแล้ว ก.ล.ต. จึงได้กำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป เป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. 2562
ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนระมัดระวังและหมั่นตรวจสอบรายการซื้อขาย รวมทั้งเงินลงทุนในบัญชีอย่างสม่ำเสมอ และต้องไม่ยินยอมให้ผู้แนะนำการลงทุนตัดสินใจแทนหรือมาใช้บัญชีของตนเอ
** หมายเหตุ :
* ข้อ 23(1) และเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามข้อ 31(1) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 8/2557 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ลงวันที่ 3 มิ.ย. 2557 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 48/2560 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน (ฉบับที่ 7) ลงวันที่ 30 ส.ค. 2560
** ผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 1 ผู้แนะนำการลงทุนที่ให้คำแนะนำแก่ผู้ลงทุนในผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนที่ไม่มีความซับซ้อน และผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อนได้ทุกประเภท
