'บริดจสโตน' กางแผนสนับสนุนยางพาราจากเกษตรกรเพิ่มในปีนี้ ตั้งเป้า 1.2 แสนตัน พร้อมประเมินภาพรวมตลาดยางรถยนต์ในไทยทรงตัว แต่บริดจสโตนจะเติบโต 5%
นายฮิเดยูกิ ทาเคดะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด กล่าวว่า ตลาดยางรถยนต์ในประเทศไทยมีการแข่งขันที่ดุเดือด อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ได้เตรียมแผนงาน พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายการเติบโต โดยคาดว่ารายได้ในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 5.4% อีกทั้งยังตั้งเป้าเดินเครื่องการผลิต 47,000 เส้น/วัน และสนับสนุนยางพาราจากเกษตรกรไทย 120,000 ตัน ในปี 2562
ปัจจุบัน บริดจสโตนผลิตเพื่อป้อนตลาดในประเทศ 50% และส่งออกไป 64 ประเทศทั่วโลก อีก 50%
"บริดจสโตนมีบริษัทในเครือ 15 แห่ง และดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ (Upstream) กลางน้ำ (Midstream) และปลายน้ำ (Downstream) ซึ่งทุกส่วนล้วนสนับสนุนและทำให้ธุรกิของเราติบโตและประสบความสำเร็จ โดยปีที่ผ่านมา เรามีส่วนแบ่งทางการตลาดอาร์อีเอ็ม 38.5% และในปีนี้เราตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 40%"
นายทาเคดะ กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนงานในปีนี้จะยังไม่มีการลงทุนใดใดเพิ่มในส่วนของโรงงาน แต่จะเน้นไปที่การพัฒนายางในรูปแบบต่าง ๆ และจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ ทั้งในกลุ่มรถยนต์ทั่วไปและรถบรรทุก รวมไปถึงการขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านศูนย์บริการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น A.C.T, AUTOBOY, COCKPIT, TRUCK CENTER และ FLEET Point ที่มีรวมกันกว่า 1,500 แห่ง
นอกเหนือจากแผนงานด้านต่าง ๆ แล้ว ในปีนี้จะมีแคมเปญการตลาด
"Give A Loving Hand" (กิฟ อะ เลิฟวิ่ง แฮนด์) ส่งมอบความรักไปกับ
#ยางที่คุณเชื่อมือ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงความสำคัญของยางและเลือกซื้อยางที่มีคุณภาพ อีกทั้งยังเตรียมกิจกรรม อาทิ การเป็นผู้สนับสนุนหลักกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกอย่างเป็นทางการจนถึงปี 2567 และไทยบริดจสโตนยังได้สนับสนุนนักกีฬาไทยและตัวแทนทีมบริดจสโตนไทยแลนด์ เพื่อสานฝันสู่เส้นทางโอลิมปิกและพาราลิมปิก ให้ได้ก้าวข้ามอุปสรรคและไล่ล่าความฝันได้สำเร็จ ด้วยแคมเปญสร้างแรงบันดาลใจ
"Chase Your Dream"
นายทาเคดะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความต้องการของตลาดรวมยางรถยนต์ในประเทศไทย มีประมาณ 22 ล้านเส้น โดยในจำนวน 15% เป็นการผลิตเพื่อป้อนโออีเอ็ม (โรงงานผู้ผลิตรถยนต์) ส่วนที่เหลือจะเป็นอาร์อีเอ็ม (ตลาดทดแทน) และตลาดส่งออก