พับแผนไฮสปีด "กรุงเทพฯ-หัวหิน" !! จ่อยก "ไฮสปีด 3 สนามบิน" เฟส 2 ให้ 'ซีพี' เดินรถ

21 ม.ค. 2562 | 07:32 น.
ร.ฟ.ท. จ่อพับแผนไฮสปีด "กรุงเทพฯ-หัวหิน" สั่งตั้งทีมศึกษา หวั่นไม่คุ้มค่า แถมยังเตรียมประเคนให้ 'ซีพี' เดินรถไฮสปีด 3 สนามบิน เฟส 2 ล่าสุด เร่งเคลียร์ปมไทย-จีน ฉลุยพร้อมลงนามสัญญา 4 หมื่นล้าน ปลาย ก.พ. นี้

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) อยู่ระหว่างประกวดราคาสัญญาจ้างเอกชนเข้ามาศึกษาแผนโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ในพื้นที่อีอีซี เฟส 2 ช่วงอู่ตะเภา-ตราด ระยะทาง 300-400 กม. วงเงินลงทุนมากกว่า 3 แสนล้านบาทนั้น ร.ฟ.ท. ได้ระบุในข้อเสนอการว่าจ้างให้บริษัทที่ชนะประมูลไปศึกษาแนวทางให้เอกชนที่เดินรถเฟส 1 ช่วงกรุงเทพฯ-อู่ตะเภานั้น เข้ามาเดินรถในเฟส 2 ด้วย โดยไม่ต้องเปิดประมูล เพื่อความสะดวกสบายของประชาชน หรือ อาจมีการจ้างเอกชนรายเดิมเดินรถเหมือนกับกรณีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

"ปัจจุบัน ถือว่าการว่าจ้างที่ปรึกษาเข้ามาดูภาพรวมของโครงการเฟส 2 ถือว่าล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากขั้นตอนจัดซื้อที่เพิ่มขึ้นตามกฎหมายใหม่และเจ้าหน้าที่ขาดประสบการณ์ ดังนั้น ร.ฟ.ท. จึงตั้งเป้าลงนามสัญญาว่าจ้างดังกล่าวให้ได้ภายในเดือนนี้หรือเดือนหน้า"

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ในส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 209 กม. วงเงินลงทุน 1 แสนล้านบาทนั้น ร.ฟ.ท. ได้สั่งชะลอโครงการดังกล่าวออกไปก่อน เนื่องจากพบว่า ระยะทางดังกล่าวไม่คุ้มค่าในการลงทุน จึงเกรงว่าเอกชนจะไม่สนใจโครงการดังกล่าว

 

[caption id="attachment_377362" align="aligncenter" width="500"] พับแผนไฮสปีด "กรุงเทพฯ-หัวหิน" !! จ่อยก "ไฮสปีด 3 สนามบิน" เฟส 2 ให้ 'ซีพี' เดินรถ เพิ่มเพื่อน [/caption]

ดังนั้น จึงต้องการพัฒนาเป็นเส้นทางสายยาวแทน เป็นช่วงกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 635 กม. วงเงินลงทุนมากกว่า 6 แสนล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการของบประมาณจ้างเอกชนเข้ามาศึกษา คาดว่าจะได้ตัวภายในปีนี้ ก่อนศึกษาในปี 2563 ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน

"อย่างไรก็ตาม เส้นทางดังกล่าวถือว่าเป็นรถไฟไฮสปีดสายยาว ใช้วงเงินลงทุนเยอะ จึงไม่แน่ใจว่าฝ่ายนโยบายในอนาคตจะยังเดินหน้ารถไฟไฮสปีดสายใต้ต่อไปหรือไม่ และหากจะลดเส้นทางเหลือช่วงกรุงเทพฯ-ประจวบคีรีขันธ์ หรือ กรุงเทพฯ-ชุมพร ก็ยังคงไม่สะท้อนความคุ้มค่าเท่ากับการจบสถานีสุดท้ายที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพราะถือเป็นประตูการท่องเที่ยวภาคใต้"

ด้าน แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า ได้มีการเลื่อนงานประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ณ กรุงปักกิ่ง จากเดิมวันที่ 25 ม.ค. นี้ ไปเป็นช่วงปลายเดือนหน้า

สำหรับความคืบหน้าสัญญา 2.3 (งานระบบราง ระบบไฟฟ้า และเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร) วงเงิน 4 หมื่นล้านบาทนั้น คืบหน้าไปได้เยอะแล้ว ซึ่งทางฝ่ายจีนได้ทยอยส่งรายละเอียด การถอดแบบ และมูลค่าของสัญญา (BOQ) และตัวเลขค่าใช้จ่ายมาแล้ว

"เบื้องต้น เท่าที่ตรวจสอบก็เป็นไปตามมาตรฐานที่ฝ่ายไทยศึกษาเกณฑ์ราคากลางมา ดังนั้น จึงคาดว่าไม่น่ามีปัญหาแล้ว พร้อมลงนามสัญญาภายในการประชุมครั้งหน้าแน่นอน อย่างไรก็ตาม ต้องรีบลงนามสัญญาให้จบ เพราะรถใช้เวลาผลิตนานถึง 6 ปี และทยอยนำเข้ามาประกอบทีละชิ้น เพื่อให้ทันกับการเปิดเดินรถในปี 2565-2566"


……………….

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ระวังไฮสปีดเทรน ตราบาปรัฐบาล คสช.
ยื้อ! "ไฮสปีด 3 สนามบิน" ร.ฟ.ท. ปัด 8 ข้อเสนอ 'ซีพี'


595959859