Internet of Things (IoT) ... กำลังทำให้โลกเปลี่ยนไป

21 ม.ค. 2562 | 05:26 น.
210162-1147

McKinsey ได้คาดการณ์ว่า ตลาด IoT เฉพาะในธุรกิจ ICT จะมีค่าสูงถึง 581 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2020 และในปี 2025 การตรวจสอบและการควบคุมทางไกล (Remote Monitoring) จะสามารถสร้างมูลค่าในตลาดได้ถึง 1.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประยุกต์ใช้ IoT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถในอุตสาหกรรมด้านการแพทย์และสาธารณสุข

จากรายงานของ Statista คาดการณ์ว่า จะมีอุปกรณ์ IoT จำนวนมากถึง 31 พันล้านชิ้นทั่วโลก และจะทำให้ธุรกิจต่าง ๆ มีโอกาสใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมดิจิทัลในทศวรรษต่อจากนี้ และตลาดของ IoT จะมีมูลค่ากว่า 1.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2020 และผลการวิเคราะห์ของ Business Insider Intelligence ในรายงาน Internet of Things จะมีค่าตลาดสูงถึง 15 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ระหว่างปี 2017 ถึง 2025


S__17753259

ภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจต่าง ๆ จะประยุกต์ IoT ในธุรกิจ เนื่องจากศักยภาพในด้านการลดต้นทุนและทำให้มูลค่าของตลาดในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วนั่นเอง ซึ่งจากการวิเคราะห์และทำวิจัยด้านการตลาดพบว่า IoT จะถูกประยุกต์ใช้ในภาคสาธารณะสุขอย่างมากในช่วงปี 2018 ถึง 2026

บ้านอัจฉริยะ (Smart Homes) จะเป็นตลาดที่ทำให้ IoT เติบโตอย่างรวดเร็วและมีการลงทุนเพิ่มมากขึ้นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และเราจะได้เห็นการทำงานแบบอัตโนมัติมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งถือได้ว่าเป็น Mainstream ของเศรษฐกิจและธุรกิจใหม่ในอนาคตอันใกล้

การเก็บข้อมูลจากเซ็นเซอร์และ IoT ทั่วโลก จะทำให้ข้อมูลจำนวนมหาศาลสามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็วผ่านระบบ 5G ซึ่งขีดความสามารถของมนุษย์ทั่วไปไม่สามารถประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ในระดับนี้ได้ จึงทำให้อุตสาหกรรมใหม่เป็นอุตสาหกรรมอัตโนมัติที่แรงงานมนุษย์แบบดั้งเดิมไม่สามารถที่จะอยู่ได้ต่อไป แต่มนุษย์จะต้องพัฒนาทักษะใหม่ที่ทำงานร่วมกับระบบอัตโนมัติที่มีการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่อย่างเรียลไทม์

 

[caption id="attachment_377364" align="aligncenter" width="503"] ©jeferrb ©jeferrb[/caption]

มีวิธีเดียวที่สามารถที่จะติดตามการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลขนาดใหญ่และวิเคราะห์ผลอย่างมีประสิทธิภาพ นั่นก็คือ การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในการช่วยวิเคราะห์ ซึ่งในหลายธุรกิจสามารถประยุกต์ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ด้วยเทคโนโลยี AI เพื่อที่จะทำให้เกิดธุรกิจที่มีความชาญฉลาดและมีมูลค่าสูงขึ้นอย่างมาก เช่น

(1) อุปกรณ์สวมใส่ (Wearables) ที่สามารถที่จะติดตามสถานภาพร่างกายและสุขภาพของเราอย่างเรียลไทม์ และสามารถเก็บข้อมูลในระยะยาวเพื่อให้แพทย์สามารถวิเคราะห์และวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำมากขึ้น และการส่งข้อมูลสุขภาพจากทุกคนจำนวนนับพันล้านคนทั่วโลก ก็จะทำให้การวินิจฉัยโรคด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI จะทรงประสิทธิภาพและมีความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคเข้าใกล้ 100% อย่างไม่น่าเชื่อ

(2) การเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วย IoT และ AI ในโรงงาน หรือ จากสถานต่าง ๆ ของการผลิตสินค้าหรือให้บริการ จะทำให้องค์กรมีขีดความสามารถในการผลิตแบบอัตโนมัติ (Automation) และพยากรณ์ความเสื่อมสภาพของเครื่องจักรที่แม่นยำ (Predictive Maintenance) ทำให้ต้นทุนในการบำรุงรักษาดังกล่าวต่ำลงอย่างมาก

 

[caption id="attachment_377368" align="aligncenter" width="503"] ©TheDigitalArtist ©TheDigitalArtist[/caption]

(3) การสาธารณสุขจะเปลี่ยนไปอย่างมาก ซึ่งจะมีทั้งประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอย่างยิ่งและราคาจะถูกลงอย่างมาก จะทำให้ความเหลื่อมล้ำด้านการรักษาพยาบาลลดลง เนื่องจากเทคโนโลยีถึงมือทั้งแพทย์และประชาชนทั่วไป โดยตั้งแต่ปี 2019 นี้เป็นต้นไป จะเป็นปีแห่งการเริ่มใช้ IoT อย่างจริงจัง ด้วยราคาที่ถูกลงอย่างมากในทุก ๆ ปีต่อจากนี้ไป ซึ่งระบบ Real-Time Health System (RTHS) ที่ถือว่าเป็น Next Gen ของวงการสาธารณะสุขกำลังจะเกิดขึ้นจริง โดยมีเป้าหมายในการลดเวลาและกระบวนการในการรักษาและกระบวนการในการตัดสินใจในการวินิจฉัยของแพทย์ให้สั้นลง

(4) เมืองอัจฉริยะ (Smart City) จะปรากฏอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น ระบบเซ็นเซอร์ที่จอดรถ ระบบ GPS ที่ช่วยในการบริหารจัดการการจราจรที่เชื่อมโยงกับสมาร์ทโฟนของคนทุกคน รวมไปถึงตำแหน่งของรถยนต์ที่วิ่งอยู่ทั้งหมด ถังขยะที่สามารถที่จะตรวจสอบการติดเชื้อ การตรวจสอบมลภาวะอากาศที่มีเซ็นเซอร์ราคาถูกติดอยู่ทุกที่ จึงสามารถใช้เป็นเครื่องมือที่ไว้เตือนประชาชนเมื่อมลภาวะเป็นพิษ เป็นต้น

(5) IoT และ Blockchain จะเชื่อมโยงและประสานสอดคล้องกัน โดย IDC ได้วิเคราะห์ว่า ภายในปี 2019 การประยุกต์ใช้ IoT จะอยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยี Blockchain กว่า 20% เนื่องจากความกังวลของระบบ IoT ที่ฝังอยู่กับอุปกรณ์ต่าง ๆ อาจจะได้รับความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ดังนั้น การประยุกต์ใช้ Blockchain จึงเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมและมีความยืดหยุ่นสูงเมื่อทำงานร่วมกับ IoT

 

[caption id="attachment_377362" align="aligncenter" width="500"] Internet of Things (IoT) ... กำลังทำให้โลกเปลี่ยนไป เพิ่มเพื่อน [/caption]

เทคโนโลยี IoT ทำให้อุตสาหกรรมด้านดิจิทัลเชื่อมโยงเข้ากับอุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้อย่างใกล้ชิดและแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันในอนาคต ดังนั้น ภายในหนึ่งถึงสองทศวรรษนี้ IoT จะทำให้ธุรกิจทุกธุรกิจมีการเชื่อมโยงกันและมีความชาญฉลาดอย่างไม่น่าเชื่อ จนเกิดระบบเศรษฐกิจใหม่ภายในปี 2025 ถึง 2030 อย่างชัดเจน โดยเทคโนโลยี 5G จะเป็นตัวปลดล็อคทำให้ IoT สามารถที่จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและส่งข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างเรียลไทม์

การวิเคราะห์ของ Business Insider Intelligence ได้กล่าวด้วยว่า บริษัทต่าง ๆ รวมไปถึงผู้บริโภคทั่วโลก จะมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปอย่างพลิกผันในทุกอุตสาหกรรม ด้วยการที่มีการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลกันอย่างชาญฉลาดและเรียลไทม์ โดยทุกอย่างที่สามารถทำให้เป็นการให้บริการและผลิตแบบอัตโนมัติได้ (Automation) ก็จะถูกทำให้เกิดการผลิตและบริการอย่างอัตโนมัติที่สมบูรณ์แบบภายในไม่ถึงสองทศวรรษนี้ จึงทำให้ระบบเศรษฐกิจใหม่มีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากวันนี้อย่างสิ้นเชิง


……………….

บทความพิเศษ โดย พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ส่องนวัตกรรมเด่นงาน CES 2019 "AI–IoT" กำลังเปลี่ยนโลก
CAT เร่งขยาย LoRaWAN รับเทคโนโลยี IoT ในอนาคต

บทความน่าสนใจ :
โลกกำลังเปลี่ยนไป
เทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลในปี 2019 - 2020


บาร์ไลน์ฐาน