เลือกวิธีการทำงานที่สมาร์ทขึ้น ... เพื่อศักยภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้น (1)
เพิ่มศักยภาพให้กับพนักงาน ... เพื่อบริหารจัดการทั้งงานและการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว ในแบบฉบับ "ชไนเดอร์ อิเล็คทริค"
"โอลิเวียร์ บลูม" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เขียนบทความพูดถึงการเพิ่มศักยภาพให้กับพนักงานในแบบฉบับ "ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" โดยพูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว กับการละเลย "พลังของตัวเอง" ซึ่งจะส่งผลต่อทั้งตัวพนักงานและองค์กร
"โทนี่ ชวาทซ์" CEO ของ the Energy Project และ "คริสติน โปราธ" นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการ ได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ในบทความ HBR หลังทำการสำรวจคนทำงาน 1.9 หมื่นคน พบว่า พนักงานจะรู้สึกดีขึ้น ทำงานได้ดีขึ้น และยั่งยืนยิ่งขึ้น หากได้รับตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐาน 4 อย่าง ได้แก่ 1.การฟื้นฟู (ทางกายภาพ) 2.คุณค่า (ทางอารมณ์) 3.การมุ่งเน้น (เรื่องจิตใจ) และ 4.จุดมุ่งหมาย (ทางจิตวิญญาณ) แต่ในขณะเดียวกันกลับมีพนักงานเพียง 14% ในองค์กร ที่มองว่า เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ
สิ่งที่พนักงานในองค์กรต้องเผชิญอยู่ทุกวันนี้ และเป็นประเด็นที่สำคัญ คือ ความต้องการผลลัพธ์ที่มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยใช้ทรัพยากรที่น้อยลง
ความต้องการเหล่านี้ คือ สิ่งที่ส่งผลให้พนักงานขาดสมาธิในการทำงาน และตามมาด้วยความเหนื่อยล้า และต้องการหลุดพ้นจากสภาพดังกล่าว
"โอลิเวียร์" บอกว่า ในมุมมองของเขา กลยุทธ์ที่ดี คือ ความพยายามในการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นพื้นฐานให้มากขึ้น ซึ่งที่ "ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" กำลังพยายามทำเรื่องพวกนี้อยู่ โดยปรัชญาของ "ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" คือ ปัจจัยพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลง สำหรับ "ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" เริ่มจากคำมั่นสัญญาเรื่องของคุณค่าที่นำเสนอให้แก่พนักงาน ในเรื่องที่พนักงานจะได้รับอิสระในการบริหารจัดการ ทั้งการทำงานและชีวิตส่วนตัว ที่มีความแตกต่างกันในแบบฉบับของตัวเอง
แนวทางการปฏิบัติที่ทำให้เกิดผลจากคำมั่นสัญญาของ "ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" เริ่มตั้งแต่ "การฝึกอบรม" เป็นการสร้างการรับรู้และการฝึกอบรมเกี่ยวกับความเป็นอยู่ที่ดี (Well-Being) โดยเริ่มจากการให้ผู้นำระดับสูงของชไนเดอร์ อิเล็คทริค 2,000 คนก่อน เพื่อเป็นการกระตุ้นและสร้างแรงผลักดันให้กับพนักงาน และสุดท้าย คือ การนำพนักงานกว่า 3.8 หมื่นคน เข้าร่วมโปรแกรมการฝึกอบรม
ห้องปฏิบัติการ "ความเป็นอยู่ที่ดี หรือ Well-Being Labs" ห้องปฏิบัติการเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทีมในการทดลองเกี่ยวกับพฤติกรรมใหม่ ๆ ที่จะเปลี่ยนวิถีการทำงาน ด้วยความเชื่อที่ว่า การทำสิ่งเล็ก ๆ ทุกวัน สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีการจัดแคมเปญระดับโลก "Crowdsourcing Campaign" เพื่อระดมความคิดเห็นและรวบรวมความคิดที่มีแนวโน้มว่า "จะทำได้จริง" นำไปสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับการใช้ชีวิตของพนักงาน ซึ่งปัจจุบัน มีห้องปฏิบัติการกว่า 1,000 แห่ง ที่ใช้จัดกิจกรรม เช่น "กิจกรรมยืดความสุข" "โยคะรายสัปดาห์" "การประชุมอย่างใส่ใจ" "10,000 ก้าวต่อวัน" "พลังแห่งการงีบ" "การกำจัดการเสียเวลา" "กิจกรรมการกุศล" "5 ภาษาที่ช่วยสร้างคุณค่า" และอื่น ๆ
"สถานที่ทำงานแห่งอนาคต" ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มีการออกแบบที่ทำงานสอดคล้องกันทั่วโลกในทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่งที่ตั้ง ความง่ายในการเข้าถึง สถาปัตยกรรม โครงสร้าง การออกแบบ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์
หน้า 22-23 ฉบับที่ 3,436 วันที่ 17 - 19 มกราคม พ.ศ. 2562
"โอลิเวียร์ บลูม" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เขียนบทความพูดถึงการเพิ่มศักยภาพให้กับพนักงานในแบบฉบับ "ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" โดยพูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว กับการละเลย "พลังของตัวเอง" ซึ่งจะส่งผลต่อทั้งตัวพนักงานและองค์กร
"โทนี่ ชวาทซ์" CEO ของ the Energy Project และ "คริสติน โปราธ" นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการ ได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ในบทความ HBR หลังทำการสำรวจคนทำงาน 1.9 หมื่นคน พบว่า พนักงานจะรู้สึกดีขึ้น ทำงานได้ดีขึ้น และยั่งยืนยิ่งขึ้น หากได้รับตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐาน 4 อย่าง ได้แก่ 1.การฟื้นฟู (ทางกายภาพ) 2.คุณค่า (ทางอารมณ์) 3.การมุ่งเน้น (เรื่องจิตใจ) และ 4.จุดมุ่งหมาย (ทางจิตวิญญาณ) แต่ในขณะเดียวกันกลับมีพนักงานเพียง 14% ในองค์กร ที่มองว่า เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ
สิ่งที่พนักงานในองค์กรต้องเผชิญอยู่ทุกวันนี้ และเป็นประเด็นที่สำคัญ คือ ความต้องการผลลัพธ์ที่มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยใช้ทรัพยากรที่น้อยลง
ความต้องการเหล่านี้ คือ สิ่งที่ส่งผลให้พนักงานขาดสมาธิในการทำงาน และตามมาด้วยความเหนื่อยล้า และต้องการหลุดพ้นจากสภาพดังกล่าว
"โอลิเวียร์" บอกว่า ในมุมมองของเขา กลยุทธ์ที่ดี คือ ความพยายามในการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นพื้นฐานให้มากขึ้น ซึ่งที่ "ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" กำลังพยายามทำเรื่องพวกนี้อยู่ โดยปรัชญาของ "ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" คือ ปัจจัยพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลง สำหรับ "ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" เริ่มจากคำมั่นสัญญาเรื่องของคุณค่าที่นำเสนอให้แก่พนักงาน ในเรื่องที่พนักงานจะได้รับอิสระในการบริหารจัดการ ทั้งการทำงานและชีวิตส่วนตัว ที่มีความแตกต่างกันในแบบฉบับของตัวเอง
แนวทางการปฏิบัติที่ทำให้เกิดผลจากคำมั่นสัญญาของ "ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" เริ่มตั้งแต่ "การฝึกอบรม" เป็นการสร้างการรับรู้และการฝึกอบรมเกี่ยวกับความเป็นอยู่ที่ดี (Well-Being) โดยเริ่มจากการให้ผู้นำระดับสูงของชไนเดอร์ อิเล็คทริค 2,000 คนก่อน เพื่อเป็นการกระตุ้นและสร้างแรงผลักดันให้กับพนักงาน และสุดท้าย คือ การนำพนักงานกว่า 3.8 หมื่นคน เข้าร่วมโปรแกรมการฝึกอบรม
ห้องปฏิบัติการ "ความเป็นอยู่ที่ดี หรือ Well-Being Labs" ห้องปฏิบัติการเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทีมในการทดลองเกี่ยวกับพฤติกรรมใหม่ ๆ ที่จะเปลี่ยนวิถีการทำงาน ด้วยความเชื่อที่ว่า การทำสิ่งเล็ก ๆ ทุกวัน สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีการจัดแคมเปญระดับโลก "Crowdsourcing Campaign" เพื่อระดมความคิดเห็นและรวบรวมความคิดที่มีแนวโน้มว่า "จะทำได้จริง" นำไปสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับการใช้ชีวิตของพนักงาน ซึ่งปัจจุบัน มีห้องปฏิบัติการกว่า 1,000 แห่ง ที่ใช้จัดกิจกรรม เช่น "กิจกรรมยืดความสุข" "โยคะรายสัปดาห์" "การประชุมอย่างใส่ใจ" "10,000 ก้าวต่อวัน" "พลังแห่งการงีบ" "การกำจัดการเสียเวลา" "กิจกรรมการกุศล" "5 ภาษาที่ช่วยสร้างคุณค่า" และอื่น ๆ
"สถานที่ทำงานแห่งอนาคต" ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มีการออกแบบที่ทำงานสอดคล้องกันทั่วโลกในทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่งที่ตั้ง ความง่ายในการเข้าถึง สถาปัตยกรรม โครงสร้าง การออกแบบ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์
หน้า 22-23 ฉบับที่ 3,436 วันที่ 17 - 19 มกราคม พ.ศ. 2562
