เศรษฐกิจไทยในสายตา ธนาคารโลก

19 ม.ค. 2562 | 11:02 น.
ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว ว่า เรื่องดีๆ ที่อยากให้พี่น้องผู้ประกอบการทุกท่านได้รับรู้ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารโลกได้ออกมาวิเคราะห์ถึงเศรษฐกิจไทยในปี 2561 ที่ผ่านมา โดยชี้ว่า มีการเติบโตกว่าประเทศที่ดีขึ้น และแข็งแรงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน โดยมาจากนโยบายของรัฐบาลที่เน้นสร้างการเติบโตจากภายใน ทั้งการลงทุนโครงการของรัฐ-เอกชน สามารถต้านทานกับสภาพเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้ประเทศไทยสามารถรับมือการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกที่จะมาถึงในอีก 2 ปีข้างหน้าได้
ดังนั้นเรื่องของการลงทุนในพื้นที่ อีอีซี และระบบโครงสร้างพื้นฐานขึ้นใหม่จากเดิมที่ผ่านมากว่า 20 ปีแล้วจึงเป็นฐานรากสำคัญ โดย ธ.โลกชี้ให้เห็นว่า ทั้งการสร้างรถไฟความเร็วสูง ถนน (มอเตอร์เวย์ และอื่นๆ) จะช่วยสร้างงานเพิ่มรายได้ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับประชาชนจากภาคการก่อสร้างและบริการ นี่คือผลประโยชน์ระยะแรกที่มองเห็น

ประโยชน์ในระยะต่อไป เมื่อโครงการเหล่านี้เสร็จสมบูรณ์ ภาพของระบบสาธารณูปโภคเหล่านี้จะชักจูงให้เอกชน และนักลงทุนให้มองเห็นศักยภาพ และ พร้อมที่จะลงทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีการลงทุนเข้ามา การสร้างงานในอีกหลายๆ ภาคของเศรษฐกิจ จะเพิ่มขึ้น แน่นอนการลงทุนของรัฐในโครงการขนาดใหญ่ใน 4 ปีที่ผ่านมา ก็เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจของภาคเอกชน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสร้างงานสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นให้กับประชาชน นำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำของประเทศลงได้

แอดฐานฯ

อีกข้อหนึ่งที่ผมได้ให้ความสำคัญ นอกจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจแล้ว ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการพัฒนาทางทรัยากรบุคคล ซึ่งเป็นไปตามที่ ธ.โลก ให้คำแนะนำในรายงานชิ้นนี้อีกด้วย
สำหรับการพัฒนาบุคลากรนั้น จะต้องทำแบบครบวงจร ไม่ใช่แค่ในวัยเรียน วัยทำงาน แต่ต้องรวมไปถึงกลุ่มคนสูงอายุด้วย

ด้านการพัฒนาในวัยเรียน จะต้องมีหลักสูตรที่ควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน วัยทำงานที่จะต้องมีศักยภาพใช้เทคโนโลยีให้เป็น ผมเน้นย้ำเสมอถึง การใช้เทคโนโลยีในการทำงาน เพิ่มผลิตภาพ “เราไม่ได้นำ AI เข้ามาเพื่อแย่งงานคน แต่เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระคนในการทำงาน โดยคนมีหน้าที่ควบคุม ซึ่งเราจะต้องปรับบทบาทศักยภาพของคนเพื่อรองรับในเรื่องดังกล่าว”

เช่นเดียวกันในวัยสูงอายุ คนกลุ่มนี้จะต้องพาตัวเองออกมาจากภาคการผลิต และว่างงาน เราจะต้องจัดหางาน เพื่อให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับตนเองและไม่เป็นภาระของลูกหลาน โดยเชื่อมโยงกับการสร้างเศรษฐกิจในระบบฐานรากที่มาจากชุมชน

"ผมเชื่อว่าการวางระบบเศรษฐกิจฐานรากที่เข้มแข็ง จึงเป็นทางออกของประเทศไทยในภาวะที่เศรษฐกิจโลกชะลอ แม้จำเป็นจะต้องระยะเวลา และอาจจะมองไม่เห็นผลที่ชัดเจนในระยะนี้ แต่โครงการเหล่านี้จะช่วยสร้างประเทศให้เข้มแข็งต่อไปในอนาคตได้ครับ"

595959859