‘ซีล-อุทยาน’เข้าถํ้าหลวง สํารวจแผนย้ายอุปกรณ์
หน่วยซีล-กรมอุทยานฯ นำทีมสำรวจและถ่ายภาพเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ยังตกค้างอยู่ในถํ้าหลวง เพื่อวางแผนเคลื่อนย้ายต่อไป
ผู้สื่อข่าว “ฐานเศรษฐกิจ” ประจำจังหวัดเชียงราย รายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 17 มกราคม 2562 ที่อุทยานถํ้าหลวง-ขุนนํ้านางนอน (เตรียมการ) ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พล.ร.ต. อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือผบ.หน่วยซีล กองทัพเรือ ร่วมกันนำทีมสำรวจถํ้าหลวง-ขุนนํ้านางนอน ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เจ้าหน้าที่หน่วยซีล ผู้เชี่ยวชาญทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งรัฐและเอกชน รวมแล้ว กว่า 60 นาย เข้าไปสำรวจถํ้าหลวงเป็นครั้งแรก หลังปฏิบัติการค้นหา-ช่วยเหลือ 13 โค้ชและนักเตะ ทีมหมูป่าอะคาเดมี่ออกจากถํ้าหลวง ระหว่างวันที่ 23 มิ.ย.-10 ก.ค. 61 ที่ผ่านมา จนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก โดยก่อนที่จะเข้าไปสำรวจได้ประกอบพิธีสักการะเจ้าแม่นางนอน ขอพรให้ภารกิจสำเร็จลุล่วงด้วยดี
ทั้งนี้ มีรายงานว่าระยะทางในการสำรวจครั้งนี้ จะเข้าไปในถํ้าเป็นระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร โดยจะเป็นการสำรวจตั้งแต่บริเวณหน้าถํ้า โถงแรก โถง 2 โถง3 ไปจนถึงบริเวณสามแยก ซึ่งหากเลี้ยวซ้ายจะไปสู่จุดที่เรียกว่าพัทยาบีช โดยช่วง 1 กิโลเมตรแรกเจ้าหน้าที่กรมอุทยานจะเป็นหัวหน้าทีม ในภารกิจการสำรวจและการถ่ายภาพอุปกรณ์ที่ตกค้างอยู่ในถํ้า ส่วนที่อยู่ลึกเข้าไปนั้นจะเป็นภารกิจของเจ้าหน้าที่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีล และผู้เชี่ยวชาญ
ก่อนที่จะเข้าดำเนินการนั้น คณะผู้สำรวจได้ซักซ้อมความเข้าใจกันแล้วเป็นอย่างดี ว่าการสำรวจครั้งนี้จะสำรวจและถ่ายภาพเท่านั้น ไม่มีการเคลื่อนย้ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทุกชนิด จากนั้นกลับออกมาเพื่อประชุมหารือกันอีกครั้ง เพื่อวางแผนว่าควรจะเก็บกู้เครื่องมือและอุปกรณ์ใดออกมา เครื่องมือและอุปกรณ์ใดที่จะคงไว้ในถํ้าเพื่อให้เป็นประวัติศาสตร์ของปฏิบัติการค้น หาช่วยเหลือ 13 หมูป่า ทั้งนี้เพื่อให้ถํ้าหลวงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โดยสมบูรณ์
นอกจากนี้การเข้าไปสำรวจในถํ้าหลวงครั้งนี้ คณะของผู้สำรวจทุกคนได้นำถุงดำไปด้วยคนละ 2 ถุง เพื่อเก็บขยะที่ตกค้างในถํ้าหลวงออกมาด้วย โดยคาดว่าการสำรวจและถ่ายภาพทั้งหมด น่าจะใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง
หลังภารกิจ “รวมใจเป็นหนึ่ง” สำเร็จ เจ้าหน้าที่สั่งปิดถํ้าทันที รอให้นํ้าลดช่วงหน้าแล้ง โดยระหว่างนั้นถํ้าหลวงฯซึ่งเป็นจุดสนใจของทั้งโลก เป็นเป้าหมายการเดินทางมาของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเปิดให้เยี่ยมชมเฉพาะบริเวณด้านนอก ซึ่งได้มีการปรับภูมิทัศน์รองรับ พร้อมกับสร้างอาคารและจัดแสดงภาพวาดบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของคณะศิลปินเชียงราย และรูปปั้น “จ่าแซม” วีรบุรุษถํ้าหลวง เมื่อเปิดถํ้าให้เข้าชมได้อีกครั้งจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างสมบูรณ์
หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,437 วันที่ 20-23 มกราคม 2562
ผู้สื่อข่าว “ฐานเศรษฐกิจ” ประจำจังหวัดเชียงราย รายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 17 มกราคม 2562 ที่อุทยานถํ้าหลวง-ขุนนํ้านางนอน (เตรียมการ) ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พล.ร.ต. อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือผบ.หน่วยซีล กองทัพเรือ ร่วมกันนำทีมสำรวจถํ้าหลวง-ขุนนํ้านางนอน ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เจ้าหน้าที่หน่วยซีล ผู้เชี่ยวชาญทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งรัฐและเอกชน รวมแล้ว กว่า 60 นาย เข้าไปสำรวจถํ้าหลวงเป็นครั้งแรก หลังปฏิบัติการค้นหา-ช่วยเหลือ 13 โค้ชและนักเตะ ทีมหมูป่าอะคาเดมี่ออกจากถํ้าหลวง ระหว่างวันที่ 23 มิ.ย.-10 ก.ค. 61 ที่ผ่านมา จนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก โดยก่อนที่จะเข้าไปสำรวจได้ประกอบพิธีสักการะเจ้าแม่นางนอน ขอพรให้ภารกิจสำเร็จลุล่วงด้วยดี
ทั้งนี้ มีรายงานว่าระยะทางในการสำรวจครั้งนี้ จะเข้าไปในถํ้าเป็นระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร โดยจะเป็นการสำรวจตั้งแต่บริเวณหน้าถํ้า โถงแรก โถง 2 โถง3 ไปจนถึงบริเวณสามแยก ซึ่งหากเลี้ยวซ้ายจะไปสู่จุดที่เรียกว่าพัทยาบีช โดยช่วง 1 กิโลเมตรแรกเจ้าหน้าที่กรมอุทยานจะเป็นหัวหน้าทีม ในภารกิจการสำรวจและการถ่ายภาพอุปกรณ์ที่ตกค้างอยู่ในถํ้า ส่วนที่อยู่ลึกเข้าไปนั้นจะเป็นภารกิจของเจ้าหน้าที่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีล และผู้เชี่ยวชาญ
ก่อนที่จะเข้าดำเนินการนั้น คณะผู้สำรวจได้ซักซ้อมความเข้าใจกันแล้วเป็นอย่างดี ว่าการสำรวจครั้งนี้จะสำรวจและถ่ายภาพเท่านั้น ไม่มีการเคลื่อนย้ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทุกชนิด จากนั้นกลับออกมาเพื่อประชุมหารือกันอีกครั้ง เพื่อวางแผนว่าควรจะเก็บกู้เครื่องมือและอุปกรณ์ใดออกมา เครื่องมือและอุปกรณ์ใดที่จะคงไว้ในถํ้าเพื่อให้เป็นประวัติศาสตร์ของปฏิบัติการค้น หาช่วยเหลือ 13 หมูป่า ทั้งนี้เพื่อให้ถํ้าหลวงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โดยสมบูรณ์
นอกจากนี้การเข้าไปสำรวจในถํ้าหลวงครั้งนี้ คณะของผู้สำรวจทุกคนได้นำถุงดำไปด้วยคนละ 2 ถุง เพื่อเก็บขยะที่ตกค้างในถํ้าหลวงออกมาด้วย โดยคาดว่าการสำรวจและถ่ายภาพทั้งหมด น่าจะใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง
หลังภารกิจ “รวมใจเป็นหนึ่ง” สำเร็จ เจ้าหน้าที่สั่งปิดถํ้าทันที รอให้นํ้าลดช่วงหน้าแล้ง โดยระหว่างนั้นถํ้าหลวงฯซึ่งเป็นจุดสนใจของทั้งโลก เป็นเป้าหมายการเดินทางมาของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเปิดให้เยี่ยมชมเฉพาะบริเวณด้านนอก ซึ่งได้มีการปรับภูมิทัศน์รองรับ พร้อมกับสร้างอาคารและจัดแสดงภาพวาดบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของคณะศิลปินเชียงราย และรูปปั้น “จ่าแซม” วีรบุรุษถํ้าหลวง เมื่อเปิดถํ้าให้เข้าชมได้อีกครั้งจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างสมบูรณ์
หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,437 วันที่ 20-23 มกราคม 2562
