ตลาดเกิดใหม่คึก! โบรกฯ แนะเพิ่มพอร์ตหุ้น-ทองคำ

20 ม.ค. 2562 | 07:00 น.
โบรกฯ มองโอกาสลงทุนหุ้นไทย คาดดัชนีหุ้นปี 2562 แตะ 1800 จุด มีโอกาสให้ผลตอบแทน 13.5% "บล.ทรีนีตี้ฯ" จับจังหวะยีลด์ SET สูงกว่าตราสารหนี้ 10 ปี ที่ระดับ 4.7% เป็นจุดน่าสนใจลงทุน แนะจัดพอร์ตลงในหุ้น-ทองคำ เหตุดอกเบี้ยแท้จริงลด-ดอลล์อ่อนค่า เผย ตั้งแต่ต้นปีผลตอบแทนสินทรัพย์ทั่วโลกเพิ่มสวนเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นกลุ่ม TIP ให้ผลตอบแทน 3.5%, EM 3.0%, ไทย 1.9% ขณะที่ บอนด์รัฐบาล ติดลบ 0.2%

นายวิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า จากทิศทางเศรษฐกิจโลกปีนี้ที่เข้าสู่ภาวะอิ่มตัวไปแล้ว และกำลังเข้าสู่การชะลอตัว โดยคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้จะเติบโต 3.5% ชะลอลงจากปี 2561 ที่เติบโต 3.7% และเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโต 3.8% จากปี 2561 ที่คาดจะโต 4.0% อีกทั้งความกังวลเรื่องผลกระทบสงครามทางการค้าจีน-สหรัฐฯ ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้เพียง 1 เดียว หรือคงอัตราดอกเบี้ยต่อ ขณะที่ ดอกเบี้ยนโยบายไทย เชื่อว่า ในครึ่งปีแรกยังตรึงที่ระดับ 1.75%


MP17-3437-A

นอกจากนี้ ทิศทางดอกเบี้ยเฟดที่อาจเห็นการปรับลงในปีหน้า ทำให้เงินทุนเคลื่อนย้ายไหลเข้าตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น ตาม Search For Yield โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ (EM) (ครอบคลุมกลุ่ม TIP : ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์) เนื่องจากค่าเงินในภูมิภาคนี้ปรับแข็งค่าขึ้น เศรษฐกิจเติบโตสูงกว่าภูมิภาคอื่น และสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติยังอยู่ในระดับตํ่า ประกอบกับการที่การลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไทยและตราสารหนี้โลกปีนี้เริ่มให้ผลตอบแทนที่น้อยลง หรือ อาจจะติดลบ เมื่อ Mark to Market จึงทำให้ตลาดหุ้นมีความน่าสนใจมากขึ้น

"ปี 2562 จะเป็นปีที่มีเงินทุนต่างประเทศ (Fund Flow) ไหลเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่ แต่ตลาดหุ้นไทยอาจได้ผลประโยชน์ หลังจากที่ผลการเลือกตั้งชัดเจนขึ้น หรือ ในไตรมาส 2 และทั้งปีเงินทุนต่างชาติน่าจะไหลกลับมาประมาณครึ่งหนึ่งของปี 2561 ที่ไหลออกไป เพราะปัจจุบัน สัดส่วนนักลงทุนต่างชาติถืออยู่ในหุ้นไทยเพียง 29% เกือบตํ่าสุดในรอบ 14 ปี โดยในช่วงตั้งแต่วันที่ 1-17 ม.ค. 2562 ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิแล้ว 510 ล้านบาท จากที่ทั้งปี 2561 ขายหุ้นไทยสุทธิ 2.87 แสนล้านบาท"

นายวิศิษฐ์ มองตลาดหุ้นไทยปี 2562 มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยมีปัจจัยพื้นฐานเป้าหมายที่ Forward PE ที่ 15.6 เท่า หรือที่ SET Index ระดับ 1800 จุด โดยการแกว่งตัวของ SET Index ในปี 2562 จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1500-1800 จุด โดยประเมิน SET Index ที่ระดับ 1500 เป็นระดับ Forward PE ที่ 13 เท่า และมองว่าผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทย (11 ม.ค. 62) สูงกว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ 10 ปี (Earning Yield Gap : EYG) ที่ระดับ 4.74% จึงเป็นจุดที่น่าสนใจในการลงทุน เนื่องจากให้ผลตอบแทนสูงเป็นอันดับ 3 ในรอบ 4 ปี โดยเดือน ม.ค. 2560 ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนสูงกว่าตราสารหนี้ 5.49% และปี 2558 ให้ผลตอบแทนสูงกว่า 4.74%

"จากการศึกษาความสัมพันธ์ในอดีต พบว่า ถ้า EYG ที่ระดับ 4.7% ผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยหลังจากนั้น 3 เดือน จะให้ผลตอบแทนที่ 10.4% เช่น ในเดือน ม.ค. 2557 EYG ที่ระดับ 4.74% ตลาดหุ้นไทยเดือน เม.ย. 2557 ให้ผลตอบแทนที่ 10.7% และประเมินว่า หากดัชนีหุ้นไทยแตะ 1800 จุด ผลตอบแทน (แคปิตอลเกนบวกปันผล 3.5%) ของตลาดทุนไทยปีนี้จะอยู่ระดับ 13.5% จากปี 2561 ที่ติดลบ 10.8%"

นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า ผลตอบแทนสินทรัพย์ทั่วโลกนับตั้งแต่ต้นปีนี้เพิ่มขึ้นเกือบทุกตัว สวนทางกับเศรษฐกิจที่ชะลอลง ยกเว้นผลตอบแทนการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย ที่ติดลบ 0.2% ดังนั้น แนะจัดพอร์ตเพิ่มนํ้าหนักการลงทุนในหุ้นเป็น 60% ลงทุนในทองคำ (รูปดอลลาร์) 10-20% จากเดิมที่แนะให้ถือเพียง 5% และที่เหลือถือเป็นเงินสด เพื่อเพิ่มทางเลือกและกระจายการลงทุน

"ทองคำจะให้ผลตอบแทนดีในภาวะที่ดอกเบี้ยแท้จริงลดลง เงินดอลลาร์อ่อนค่า และปีนี้ราคาทองคำมีแนวโน้มจะปรับขึ้นไป 1,400 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ได้ จากปัจจุบันอยู่ในกรอบ 1,287-1,295 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ คำนวณจากดัชนีดังกล่าว คาดจะให้ผลตอบแทนปีนี้ราว 10% และควรลดการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่ผลตอบแทนยังติดลบ"

ด้าน นายพรเทพ ชูพันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการที่เฟดไหวตัวทันชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้เศรษฐกิจที่เคยวิตกว่าอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) ในปี 2563 ไม่น่าห่วงอีกต่อไป เป็นการปรับจากจุดพีกกลับสู่ภาวะปกติ และคาดกระแสเงินทุนจะหันมาลงในตลาดเกิดใหม่ (EM) แทน จะเห็นว่าภายใน 6 วัน (12-17 ม.ค.) ฟันด์โฟลว์ได้ไหลเข้าภูมิภาคนี้แล้ว 8 พันล้านบาท สำหรับตลาดหุ้นไทยคาดเงินทุนจะไหลเข้าเห็นชัดเจนหลังการเลือกตั้ง

"ตลาดเกิดใหม่ (EM) มีความน่าสนใจ เช่นเดียวกับ "ตลาดหุ้นไทย" กำไรตลาดปีนี้ที่ยังเติบโตได้ 6-8% ขณะที่ ราคาอยู่ในระดับไม่แพงไป ซึ่งในภาวะปกติตลาดหุ้นไทยจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10-14% ต่อปี"

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,437 วันที่ 20-23 มกราคม 2562

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก