โหมดึงดูดนักลงทุน! 3 ปี เม็ดเงิน 1.1 ล้านล้าน

23 ม.ค. 2562 | 04:40 น.
'คณิศ' เผยการพัฒนาอีอีซีเข้าสู่ระยะที่ 3 ปีนี้เดินหน้าชักจูงนักลงทุนกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะลึก เน้น 6 กลุ่มอุตสาหกรรม ชี้ 3 ปี เอกชนตอบรับการลงทุนแล้ว 1.19 ล้านล้านบาท คาดจะก่อให้เกิดการลงทุนจริงในปีนี้ 5.34 แสนล้านบาท

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กับการดำเนินงานนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ถึงวันนี้ถือว่าเข้าสู่ระยะที่ 3 ซึ่งเป็นเรื่องของการชักจูงการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย การวางแผนเพื่อรองรับการพัฒนาในอนาคต จากระยะแรกได้ดำเนินแผนภาพรวมเพื่อการพัฒนาอีอีซี และออก พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และระยะที่ 2 เป็นเรื่องของการเปิดประมูลโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลักที่สำคัญไปแล้ว

 

[caption id="attachment_376644" align="aligncenter" width="503"] คณิศ แสงสุพรรณ คณิศ แสงสุพรรณ[/caption]

โดยในปี 2562 สกพอ. มีเป้าหมายอย่างตํ่าในการชักจูงนักลงทุน คิดเป็นมูลค่าราว 1 แสนล้านบาท เน้นนักลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ การแพทย์สมัยใหม่ ไบโอเทคโนโลยีและดิจิตอล โดยได้มีแผนการออกไปโรดโชว์ต่างประเทศแบบเจาะลึกในแต่ละเดือน

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เปิดเผยว่า ขณะนี้การลงทุนของภาคเอกชนในโครงการอีอีซีเริ่มเห็นภาพอย่างชัดเจน เพราะนับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา มีมูลค่าการขอรับส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) อยู่ที่ 1.99 แสนล้านบาท และในปี 2560 เพิ่มขึ้นมาเป็น 3.10 แสนล้านบาท ส่งผลให้เกิดมูลค่าการลงทุนจริง 1.19 แสนล้านบาท และในปี 2561 มีการยื่นคำขอรับการส่งเสริม 6.83 แสนล้านบาท จะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนจริงประมาณ 2.65 แสนล้านบาท และในปี 2562 นี้ จากโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมเข้ามาตั้งแต่ปี 2559-2562 คาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนจริงอยู่ที่ 5.34 แสนล้านบาท โดยเป็นของมูลค่าคำขอฯจากปี 2560 อยู่ที่ 40% และมูลค่าคำขอฯปี 2561 อยู่ที่ 60%

นอกจากนี้ ยังเห็นได้ชัดว่า การลงทุนของภาคเอกชนปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว และยังเป็นบวกติดต่อกันมา 4 ไตรมาสแล้ว จากปี 2558 ที่เคยติดลบอยู่ที่ 2.1% ในปี 2559 ปรับตัวขึ้นมา 0.5% ปี 2560 เพิ่มขึ้น 1.7% และในปี 2561 เพิ่มขึ้นมา 3.1%

ส่วนแผนการดำเนินงานในระยะที่ 4 นั้น สกพอ. จะเน้นไปในด้านการศึกษา โดยจะพัฒนาบุคลากรด้านการศึกษาเพื่อรองรับการพัฒนาประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ด้านสาธารณสุข ที่จะให้ประเทศกลายเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ครบวงจร รวมทั้งยกระดับการเกษตรจากรูปแบบเดิม ๆ ไปสู่เกษตรรูปแบบใหม่ ที่มีการนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ในการจัดทำผังเมือง เพื่อรองรับการใช้ประโยชน์ในที่ดินและการดูแลด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม

หน้า 5 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,437 วันที่ 20-23 มกราคม 2562

595959859