อุปทานน้ำมันดิบสหรัฐฯ กดดันราคาน้ำมันดิบขยับลง

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 18 มกราคม 2562

- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กซัสปรับตัวลดลง หลังได้รับปัจจัยกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบและปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยกำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ แตะระดับ 11.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 2.4 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อเทียบกับเดือน ม.ค. 61

- กลุ่มโอเปกคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบโลกในปี 62 ว่าจะเติบโตเพียง 1.29 ล้านบาร์เรลต่อวันจากปีก่อนหน้า ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับอุปสงค์ที่เติบโตในปี 61 ที่ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน และได้ปรับลดการคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบจากกลุ่มโอเปกลงมาอยู่ที่ระดับ 30.83 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลง 910,000 บาร์เรลต่อวันเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของปี 61

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบหลังถูกกดดันจากอุปทานที่ล้นตลาดโดยปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในภูมิภาคปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในตลาด ประกอบกับการส่งออกน้ำมันดีเซลของประเทศญี่ปุ่นที่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 49-54 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 57-62  เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

บตาสถานการณ์ในสหราชอาณาจักร หลังแผนการตกลง BREXIT ที่นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ถูกปฏิเสธโดยเสียงส่วนใหญ่ ส่งผลให้ประเทศอังกฤษอาจต้องถอนตัวจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลงใดๆ ทั้งสิ้น หรืออาจยกเลิก BREXIT หากไม่สามารถเสนอแผน BREXITฉบับใหม่ได้ภายในเวลาที่กำหนด

เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นหลังรัฐบาลจีนส่งสัญญาณออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้งส่งผลให้ตลาดโลกกังวลว่าเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลกอาจเผชิญหน้ากับการชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังกำลังการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ได้ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่ 11.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่ โรงกลั่นในสหรัฐฯ ได้ปรับลดกำลังการกลั่นและมีแนวโน้มที่จะปรับลงอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์