รีด "ภาษีอี-คอมเมิร์ซ" โปะงบขาดดุล!!
กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณได้จัดทำแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2563-2565) โดยคาดว่า ในปี 2562 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวในช่วง 3.5-4.5% ส่วนเศรษฐกิจไทยในระยะปานกลาง ในปี 2563-2565 คาดว่าจะขยายตัวตามศักยภาพในช่วง 3.5-4.5% เช่นเดียวกับปี 2562 ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นจากช่วง 1.5-2.5% ในปี 2564 มาอยู่ในช่วง 2.0-3.0% ในปี 2565
ขณะเดียวกันยังได้กำหนดเป้าหมายและนโยบายการคลังระยะปานกลาง ปีงบประมาณ 2563-2565 โดยประเมินว่า รัฐบาลจำเป็นต้องจัดทำงบประมาณขาดดุลอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หากภาวะเศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยมีภาคเอกชนเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รัฐบาลก็จะสามารถลดขนาดการขาดดุลลง
นอกจากนี้ ยังได้ประมาณการรายได้สุทธิรัฐบาลปีงบประมาณ 2563 อยู่ที่ 2.75 ล้านล้านบาท ปี 2564 จำนวน 2.773 ล้านล้านบาท และปี 2565 ที่ 2.886 ล้านล้านบาท โดยปีงบประมาณ 2563 ได้คำนวณรวมรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรคมนาคม จำนวน 1.2 แสนล้านบาท
[caption id="attachment_375878" align="aligncenter" width="500"]
[/caption]
ส่วนปีงบประมาณ 2564 คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มจากการบังคับใช้กฎหมาย มาตรการป้องกันการกำหนดราคาโอนระหว่างบริษัทหรือหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ประกอบการคอมเมิร์ซในต่างประเทศ การจัดเก็บภาษีเงินได้จากการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม และการพัฒนาที่ราชพัสดุบริเวณสถานีขนส่งหมอชิต รวมทั้งการทบทวนยกเว้นภาษีบางประเภทที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังเสนอนโยบายและมาตรการระยะปานกลางให้รัฐบาลดำเนินการ ที่สำคัญ คือ การปรับปรุงประมวลรัษฎากร เพื่อรองรับระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ประกอบการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) ในต่างประเทศ การจัดเก็บภาษีเงินได้จากการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม ผลักดันให้มีการระดมทุนในรูปแบบใหม่สำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพื่อช่วยลดภาระการลงทุนจากงบประมาณ เช่น การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) การระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือ Thailand Future Fund เป็นต้น
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,435 วันที่ 13-16 ม.ค. 2562 หน้า 02
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● ม.หอการค้า เผย 10 ธุรกิจเด่น ปี 62 "อี-คอมเมิร์ซ" มาแรงสุด!!
● GIT รุกตลาดอี-คอมเมิร์ซ ดัน "เอสเอ็มอีอัญมณี" ขึ้นแพลตฟอร์ม
ขณะเดียวกันยังได้กำหนดเป้าหมายและนโยบายการคลังระยะปานกลาง ปีงบประมาณ 2563-2565 โดยประเมินว่า รัฐบาลจำเป็นต้องจัดทำงบประมาณขาดดุลอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หากภาวะเศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยมีภาคเอกชนเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รัฐบาลก็จะสามารถลดขนาดการขาดดุลลง
นอกจากนี้ ยังได้ประมาณการรายได้สุทธิรัฐบาลปีงบประมาณ 2563 อยู่ที่ 2.75 ล้านล้านบาท ปี 2564 จำนวน 2.773 ล้านล้านบาท และปี 2565 ที่ 2.886 ล้านล้านบาท โดยปีงบประมาณ 2563 ได้คำนวณรวมรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรคมนาคม จำนวน 1.2 แสนล้านบาท
[caption id="attachment_375878" align="aligncenter" width="500"]
ส่วนปีงบประมาณ 2564 คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มจากการบังคับใช้กฎหมาย มาตรการป้องกันการกำหนดราคาโอนระหว่างบริษัทหรือหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ประกอบการคอมเมิร์ซในต่างประเทศ การจัดเก็บภาษีเงินได้จากการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม และการพัฒนาที่ราชพัสดุบริเวณสถานีขนส่งหมอชิต รวมทั้งการทบทวนยกเว้นภาษีบางประเภทที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังเสนอนโยบายและมาตรการระยะปานกลางให้รัฐบาลดำเนินการ ที่สำคัญ คือ การปรับปรุงประมวลรัษฎากร เพื่อรองรับระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ประกอบการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) ในต่างประเทศ การจัดเก็บภาษีเงินได้จากการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม ผลักดันให้มีการระดมทุนในรูปแบบใหม่สำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพื่อช่วยลดภาระการลงทุนจากงบประมาณ เช่น การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) การระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือ Thailand Future Fund เป็นต้น
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,435 วันที่ 13-16 ม.ค. 2562 หน้า 02
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● ม.หอการค้า เผย 10 ธุรกิจเด่น ปี 62 "อี-คอมเมิร์ซ" มาแรงสุด!!
● GIT รุกตลาดอี-คอมเมิร์ซ ดัน "เอสเอ็มอีอัญมณี" ขึ้นแพลตฟอร์ม
