"ฮอนด้า แอคคอร์ด โฉมใหม่" ไม่แพงกว่าเดิม เพิ่มเติมความเฉียบคม

17 ม.ค. 2562 | 03:33 น.
กลุ่มรถยนต์นั่งขนาดกลาง หรือ ดี-เซกเมนต์ ผมจำได้ว่ามียุคหนึ่งสมัยหนึ่งที่ค่ายญี่ปุ่นพัฒนารถออกมาขายได้อย่างน่าเกรงขาม ทั้งตัวถังขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ภายในกว้างขวาง ดูหรูหรา อุดมด้วยออพชันอำนวยความสะดวก-ปลอดภัย สมกับเป็นโปรดักต์ระดับ Flagship Model (รถที่ใส่เทคโนโลยีดีที่สุดและหวังยอดขาย)

ด้วยแนวทางนี้ โตโยต้า คัมรี่, ฮอนด้า แอคคอร์ด และนิสสัน เทียน่า เคยร่วมกันรบ แยกกันตี แอบจิกยอดขายจากกลุ่มรถหรูระดับเริ่มต้นของค่ายเยอรมนีมาแล้ว

แม้ในปัจจุบัน สถานการณ์ไม่ได้หอมหวนเหมือนอดีต เพราะโดนเบียดบังส่วนแบ่งการตลาดจากกลุ่มเอสยูวีที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ขณะเดียวกัน ค่ายรถเยอรมนียังเอาคืนด้วยรถสายพันธุ์ใหม่ ๆ หรือบางรุ่นทำราคาได้แถว ๆ 2 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายรถดี-เซกเมนต์แบรนด์ญี่ปุ่นเริ่มนิ่ง หรือ ไม่เติบโตไปกว่านี้ (เพราะราคารถก็ขยับขึ้นเรื่อย ๆ)

 

[caption id="attachment_375746" align="aligncenter" width="503"] (แฟ้มภาพ) แสดงให้เห็นถึงยอดขายรถในกลุ่มดีเซกเมนต์ หลังปิดไตรมาส3ปีที่แล้ว (แฟ้มภาพ) แสดงให้เห็นถึงยอดขายรถในกลุ่มดีเซกเมนต์ หลังปิดไตรมาส3ปีที่แล้ว[/caption]

ในปี 2560 ยอดขายรถกลุ่มนี้มีประมาณ 8,100 คัน (เมื่อก่อนต้องเกินหมื่นคันต่อปี) ส่วนปี 2561 ผมยังไม่เห็นยอดขายในเดือนสุดท้าย แต่เชื่อว่า รวม 12 เดือนแล้ว ตลาดไม่น่าจะโตกว่าปี 2560

สำหรับปี 2562 ตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางจะถูกขับเคลื่อนด้วย 2 ค่ายหลัก คือ โตโยต้า คัมรี่ ที่เปิดตัวโฉมใหม่ปีที่แล้ว (เริ่มส่งมอบ พ.ย. 2561) และฮอนด้า แอคคอร์ด โฉมใหม่ เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายเดือน มี.ค. นี้ ส่วน 'เทียน่า' ที่ยึดโมเดลเดิม L33 แล้วแค่แต่งหน้าทางปาก นิสสันไม่ได้หวังยอดขายมากนัก (ปีที่แล้วขายไม่ถึง 900 คัน)

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสร่วมอีเวนต์ที่ ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย เชิญผู้สื่อข่าว 13 ท่าน ให้ไปขับ "แอคคอร์ด โฉมใหม่" ถึงเมืองลอสแอนเจลิส, สหรัฐอเมริกา

ที่ต้องยกขบวนไปถึงอเมริกาก็ไม่มีอะไรมากครับ เพราะที่นี่เป็นตลาดหลักของแอคคอร์ด และในโลกตอนนี้มีไม่กี่ประเทศที่เริ่มขายโฉมใหม่

นอกจากบางประเทศในยุโรปแล้ว ภูมิภาคเอเชียมีจีนที่เริ่มผลิตและขายไปเรียบร้อย ส่วนเกาหลีใต้ทำตลาดด้วยรูปแบบนำเข้าทั้งคัน (ยอดขายไม่น่าเยอะ) ขณะที่ ญี่ปุ่นยังไม่ได้เปิดตัว


1 2

"แอคคอร์ด โฉมใหม่" เจเนอเรชันที่ 10 ฮอนด้าวางแนวทางการพัฒนาให้รถดูเด็กลง เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ปราดเปรียว หวังจับกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เมื่อซื้อเป็นเจ้าของแล้วดูดีมีรสนิยม ใครเห็นก็ชื่นชมในความทันสมัย ซึ่งเป็นคอนเซปต์เดียวกับ "โตโยต้า คัมรี่" นั่นละครับ

เอาละครับยุคใหม่สมัยเปลี่ยน เดี๋ยวนี้วัยรุ่นประสบความสำเร็จเร็ว ขณะที่ ค่ายรถไม่อยากตีบตันในกลุ่มลูกค้าเดิม ๆ ต้องพยายามสื่อสารในแนวทางใหม่ ๆ หรือชี้ให้ชัดว่า ถ้าคุณอยากดูภูมิฐาน เพิ่มเงินอีกนิดขยับขึ้นไปขับ คัมรี่ แอคคอร์ด จะมีภาพลักษณ์สง่างาม ไฮโซกว่า ทั้งเรื่องของการออกแบบ เทคโนโลยีทันสมัยที่ใส่เข้ามา พร้อมสมรรถนะจี๊ดจ๊าดเร้าใจ

ฮอนด้า แอคคอร์ด โฉมใหม่ ที่ผมได้พบตัวเป็น ๆ ที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2018 และลองขับที่เมืองลุงแซม (โชคไม่ดีในวันทดสอบฝนตกตลอดทั้งวัน) ต้องยอมรับว่า ปรับรูปลักษณ์ให้ดูสปอร์ตมากขึ้น

ด้วยโครงสร้างที่รถเตี้ยลงและกว้างขึ้น เส้นสายที่ออกแบบชี้นำสายตา เหมือนรถมีพลังพร้อมพุ่งทยาน และไม่น่าเชื่อว่า ความยาวของรถนั้นสั้นลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับโฉมเดิม แต่ได้ระยะฐานล้อที่มากขึ้น

จากโครงสร้างและการพัฒนาให้รถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง ตรงนี้ส่งเสริมศักยภาพด้านการขับขี่ในตัวอยู่แล้วครับ แต่ด้วยฐานล้อที่ยาวขึ้นและการออกแบบเบาะนั่ง ทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารกว้างขวาง ยิ่งนั่งเป็นผู้โดยสารด้านหลังขยับแข้งขาได้สบาย

 

[caption id="attachment_375749" align="aligncenter" width="503"] 2019 Honda Accord Hybrid 2019 Honda Accord Hybrid[/caption]

[caption id="attachment_375750" align="aligncenter" width="503"] 2019 Honda Accord Hybrid 2019 Honda Accord Hybrid[/caption]

[caption id="attachment_375751" align="aligncenter" width="503"] 2019 Honda Accord Hybrid 2019 Honda Accord Hybrid[/caption]

ฮอนด้าเขายังละเอียดละเมียดละไมในการเก็บเสียงรบกวนจากภายนอก ทั้งเพิ่มฉนวนเก็บเสียงรอบห้องโดยสาร ตามรอยต่อจุดเชื่อมต่าง ๆ หรือ ใช้เทคนิคของการฉีดโฟมพิเศษบริเวณหลังคาและเสาของประตู

การลดเสียงจากล้อยางบดพื้นถนน รวมถึงระบบที่เคยมีอยู่เดิมอย่าง Active Noise Control (ANC) ใช้ไมโครโฟนปล่อยคลื่นเสียงชนกับความถี่ของเสียงที่เข้ามารบกวนภายในห้องโดยสาร ซึ่งเดิมมีไมโครโฟนอยู่ 2 ตัว ฝังไว้ด้านหน้าและหลัง แต่รุ่นใหม่เพิ่มด้านข้างเข้ามาอีก 1 ตัว

ส่วนเทคโนโลยียานยนต์อื่น ๆ ที่ใส่เข้ามาให้รถมีมูลค่ามากขึ้น เช่น ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้า (Head Up Display : HUD) และหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ควบคุมเครื่องเสียง พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI

ด้านความปลอดภัยภายใต้ชื่อ "ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง" ติดตั้งกล้องส่องภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System) มีกล้อง 4 ตัว พร้อมเรดาร์เซ็นเซอร์ ซึ่งจะเสริมให้เกิดระบบอื่น ๆ คือ ระบบช่วยจอดรถเข้าซอง และขนานกับทางเท้า ระบบเตือนเมื่อรถยนต์เคลื่อนผ่านขณะถอย ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรกระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ และระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ เป็นต้น

เรื่องของขุมพลังฮอนด้ายืนยันว่า จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร ไดเรกอินเจกชัน เทอร์โบ (ที่วางในซีวิคมาก่อน) แทนรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และ 2.4 ลิตร เพราะให้พละกำลังดีกว่า แถมประหยัดน้ำมัน ปล่อยไอเสียต่ำ ทั้งยังพัฒนาให้รองรับแก๊สโซฮอล์ E85 ซึ่งเหล่านี้มีผลต่อภาษีสรรพสามิตที่แอคคอร์ดจะได้ต่ำกว่าเดิมหนึ่งขั้น หรือจาก 25% เป็น 20%

สำหรับขุมพลังไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรและมอเตอร์ไฟฟ้านั้น ปล่อยไอเสียต่ำกว่า 100 กรัมต่อกิโลเมตรอยู่แล้ว แต่ด้วยการสนับสนุนของรัฐบาลในโครงการรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งฮอนด้ายื่นแพกเกจส่งเสริมการลงทุนไปเรียบร้อย ทั้งประกอบรถและแบตเตอรี่ นั่นส่งผลให้ "แอคคอร์ด ไฮบริด" เสียภาษีสรรพสามิตเพียง 4% จากเดิม 8%

การลองขับสั้น ๆ ในวันฝนกระหน่ำ ณ ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ของเมืองลอสแอนเจลิส ด้วยระยะทางประมาณ 15 กม. หรือใช้เวลาขับไม่เกินครึ่งชั่วโมงต่อรุ่นเครื่องยนต์ ถ้าผมเพ้อพร่ำพรรณามาก คงเป็นจินตนาการที่เกินจริง


All-new Honda Accord Hybrid (USA Version) (6) All-new Honda Accord Hybrid (USA Version) (7) All-new Honda Accord Hybrid (USA Version)_Accord Logo All-new Honda Accord Hybrid (USA Version)_Alloy Wheel

ถ้าเอาความรู้สึกสั้น ๆ แต่ชัดเจน คือ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ประกบเกียร์ CVT เพียงพอในการขับเคลื่อนรถตัวถังที่ขนาดใหญ่อย่าง "แอคคอร์ด" โดยแรงม้าเวอร์ชันอเมริการะบุไว้ 192 ตัว ส่วนเมืองไทยต้องรอว่า สุดท้ายจะปรับจูนเป็นเท่าไหร่

ขณะที่ รุ่นไฮบริด ผมมองว่าเป็นระบบไฮบริดที่ทันสมัยกว่าโตโยต้าในเชิงวิศวกรรม ด้วยการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนรถโดยตรง แน่นอนว่า รถจะออกตัวด้วยพลังไฟฟ้าล้วน (เหมือนกัน)

ส่วนการขับย่านความเร็วกลาง ๆ หรือ ขับในเมือง ระบบไฮบริดของฮอนด้าจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้านี่ละครับเป็นตัวขับเคลื่อน (ส่งแรงผ่านเฟืองสู่เพลาหน้าโดยตรง) และเครื่องยนต์จะทำหน้าที่เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานเท่านั้น (จะมีมอเตอร์เจเนอเรเตอร์อีกตัวรับหน้าที่ปั่นไฟ) ส่วนเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร จะทำงานเป็นหลัก หรือ ขับเคลื่อนรถโดยตรงเมื่อใช้ความเร็วสูง และจะมีพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วยเสริมบ้าง

นอกจากนี้ ฮอนด้ายังใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไออน 1.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง (โตโยต้าใช้แบบนิเกิลเมทัลไฮดราย) ที่ปรับปรุงเซลส์และโมดูลใหม่ ทำให้ชุดแพกแบตเตอรี่ขนาดเล็กลงและน้ำหนักเบาลง พร้อมย้ายตัวเองจากการพิงอยู่ที่เบาะนั่งด้านหลัง ไปอยู่ใต้เบาะนั่งด้านหลังแทน ตรงนี้ช่วยเรื่องสมดุลการทรงตัวของรถได้พอสมควร พร้อมรักษาพื้นที่เก็บสัมภาระในฝากระโปรงหลังได้เท่ากับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน

 

[caption id="attachment_375752" align="aligncenter" width="503"] 2019 Honda Accord Hybrid 2019 Honda Accord Hybrid[/caption]

ด้วยเทคนิคต่าง ๆ ของระบบฟูลไฮบริด ที่ฮอนด้าเรียกว่า Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) ผมค่อนข้างประทับใจมากกว่าไฮบริดของโตโยต้า ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกกับ "แอคคอร์ด ไฮบริด" เมื่อราว 4 ปีก่อนแล้วละครับ (ขึ้นอยู่กับแนวคิดของแต่ละค่าย ซึ่งโตโยต้าพัฒนามาก่อนแลัใช้ไฮบริดรูปแบบนี้มานาน)

ในสัมผัสแรกของการขับขี่ "แอคคอร์ด ไฮบริด" ผมรับรู้ถึงความแตกต่างจากรุ่น 1.5 เทอร์โบได้พอสมควร ด้วยบุคลิกการควบคุมและพละกำลังที่รุ่นไฮบริดจะนวลเนียนกว่า ซึ่งรถสเปกอเมริกาให้กำลังรวมทั้งระบบไฮบริด 212 แรงม้า จังหวะกดคันเร่งออกตัว เรี่ยวแรงมากระชับฉับไว (ด้วยคุณสมบัติของมอเตอร์ไฟฟ้า) ถือเป็นระบบขับเคลื่อนที่ตอบสนองทั้ง สมรรถนะ และอัตราบริโภคน้ำมันต่ำ (ยิ่งขับขี่ในเมือง) และเป็นระบบที่รองรับปลั๊ก-อินไฮบริดต่อไป

รวบรัดตัดความ ... สำหรับราคาขายเมื่อเทียบกับ "แอคคอร์ เดิม" (1.659-1.849 ล้านบาท) ผมเชื่อว่า ฮอนด้าแอคคอร์ด โมเดลเชนจ์ ไม่น่าจะขยับราคาเพิ่ม อย่างรุ่นท็อปไฮบริดคงป้วนเปี้ยนแถว ๆ 1.8 ล้านบาท ขณะที่ ความโดดเด่นในเชิงโครงสร้าง สามารถสนับสนุนสมรรถนะจากหัวใจใหม่ 1.5 ลิตรเทอร์โบ และระบบไฮบริดแบบ i-MMD ที่ขับเคลื่อนได้เนียนมากขึ้น อดใจรออีกนิดครับ ปลายเดือน มี.ค. นี้ เมื่อเห็นสเปกเต็ม ๆ หรือได้ลองขับจริงท่านอาจจะได้เสียเงินเพื่อครอบครองยนตรกรรมแห่งความภูมิใจรุ่นนี้

โดย : กรกิต กสิคุณ บรรณาธิการข่าวรถยนต์ นสพ.ฐานเศรษฐกิจ


 

[caption id="attachment_375758" align="aligncenter" width="503"] All-new Honda Accord 1.5 TURBO (USA Version) (1) ฮอนด้า แอคคอร์ด โฉมใหม่ รุ่น 1.5 เทอร์โบ[/caption]

All-new Honda Accord 1.5 TURBO (USA Version) (2) All-new Honda Accord 1.5 TURBO (USA Version) (8) All-new Honda Accord 1.5 TURBO (USA Version) (14)