ฐานโซไซตี : ชำแหละ 7 ปัญหา "ไทยสมายล์" ลูกในไส้การบินไทย
ห่วงจีดีพีปีนี้จะหลุด 4% หลังการเมืองเริ่มตั้งเค้าว่าจะเปิดศึกกลับมาเล่น "กีฬาสี" ช่วงนี้นักธุรกิจต่างหายใจไม่ทั่วท้อง ต่างชาติก็จับตาใกล้ชิดรอดูโฉมหน้ารัฐบาลใหม่ ทุกคนดูเป็นกังวลมาก และไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาอีก เพราะไม่มีใครได้ มีแต่เสียกับเสีย โดยเฉพาะประเทศชาติ เศรษฐกิจ-การลงทุน-ท่องเที่ยว กระทบหมด ฉะนั้น ต้องใช้ "สติ" และวิจารณญาณให้มาก
จากสถานการณ์ที่ยังไม่น่าไว้วางใจ "ขุนคลัง-อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์" ใส่เกียร์ 5 กระตุ้นการบริโภครากหญ้ารับมือ เพราะเมกะโปรเจ็กต์เดินหน้าไปแยะแล้ว ส่วนรองนายกฯ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" ห่วง ขรก. เกียร์ว่าง กลางเดือนนี้เลยเรียกหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ จี้ให้เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ ส่วนปลายเดือนมีโปรแกรมควงบีโอไอ-ททท. บินไปโรดโชว์ญี่ปุ่นดึงนักลงทุนแดนปลาดิบมาลงทุนในไทยและดึงนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาเที่ยวเมืองไทย เรียกว่า งัดทุกมาตรการออกมาเข็นให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้า "ไม่สะดุด" ในยามที่เศรษฐกิจโลกยังเสี่ยงสูง
มีผลแล้วตั้งแต่วันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่าหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ "VOA" นักท่องเที่ยว 21 ชาติ ที่นายกฯ "บิ๊กตู่" ต่ออายุให้อีก 3 เดือน ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้ เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องไปถึงช่วง 2 เทศกาลท่องเที่ยวสำคัญ คือ ตรุษจีนและสงกรานต์ ซึ่งหวังว่าปีนี้ทั้งต่างชาติและคนไทยยังคงได้เล่นนํ้าสงกรานต์กันอย่างมีความสุขอีกปี ส่วนสิ้นปีก็ให้เป็นไปตามเป้าทะลุ 40 ล้านคน
[caption id="attachment_375433" align="aligncenter" width="500"]
มาดูแผนการฟื้นสายการบิน "ลูกในไส้" ของการบินไทย 'ไทยสมายล์' หลังประธาน "คณิศ แสงสุพรรณ" โบกมือลาโดยทิ้งตัวแดงขาดทุนสะสม 8 พันล้านบาท ไว้ดูต่างหน้า "สุเมธ ดำรงชัยธรรม" ดีดีจึงได้ทีเข้าไปบัญชาการรบเอง พร้อมประกาศรื้อโครงสร้างใหญ่ ยึดอำนาจการบริหารแบบเบ็ดเสร็จ ให้การบริหารจัดการกลับมาขึ้นตรงกับการบินไทย เหมือนเป็นบิสิเนสยูนิต ไทยสมายล์มีหน้าที่รับคำสั่งและบินตามนโยบายอย่างเดียว ไม่แยกเป็น "เอกเทศ" เหมือนที่ผ่านมา
คงไม่ง่ายกับการเข้าไปแก้ปัญหาที่ "หมักหมม" มานาน ไหนจะต้องเจอแรงต้านจากคนในที่อาจจะเข้าใจคนละภาษา หรือ ไม่ยอมเชื่อฟังแต่โดยดีเหมือนเป็น "เด็กดื้อ” ที่ผ่านมาดูเผิน ๆ พอจะแยกปัญหาของไทยสมายล์ออกเป็นหลัก ๆ คือ 1.เส้นทางบินซํ้าซ้อนกับการบินไทย ซึ่งทำให้แย่งผู้โดยสารกันเอง ทั้งในประเทศ-นอกประเทศ 2.การบินไทยต้องแบกรับภาระขายตั๋วให้ไทยสมายล์ 90% เป็นการบล็อกซีต ขายตั๋วได้หรือไม่ได้ บริษัทแม่ต้องรับผิดชอบ 3.บินเส้นทางเดียวกัน แต่ออกคนละเวลา และขายตั๋วถูกกว่าการบินไทย ใครที่ไม่รีบก็บินกับไทยสมายล์ ซึ่งตั๋วถูกกว่า 4.ใช้บุคลากรซํ้าซ้อนกับการบินไทย 5.เป็นสายการบินโลว์คอสต์ แต่ต้นทุนแพงกว่าคู่แข่งโลว์คอสต์ด้วยกัน 6.ไม่ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ที่ตั้งมาเพื่อเป็น "ไฟติ้งแบรนด์" ให้การบินไทย แต่กลายเป็นแย่งผู้โดยสารกันเอง 7.ขาดแผนงานที่ดี ที่ผ่านมาหลายเส้นทางบินขาดทุนจนต้องปิดในที่สุด และโดยสรุป คือ การบริหารงานที่ล้มเหลว สุดท้าย ภาระทั้งหมดก็ไปตกอยู่กับบริษัทแม่
ทางออกให้ไทยสมายล์และการบินไทย ไม่พากันลงเหวทั้งคู่ ต้อง "เซต ซีโร่" ล้างไพ่ใหม่ ซึ่งดีดีจะต้องกล้าเริ่มต้นใหม่ คิดนอกกรอบ แก้ปัญหาระยะสั้น หยุดเลือดไหล ลดการขาดทุนและคุมต้นทุนค่าใช้จ่าย ส่วนระยะยาว ต้องวางยุทธศาสตร์และโพสิชันนิงใหม่ เอาให้ชัดว่า " ไทยสมายล์" จะเป็นสายการบินอะไร แบบไหน และจะเดินหน้ากันอย่างไร
เช่นระยะยาวจะไปปักหลักที่ "อู่ตะเภา" เพื่อหาทราฟฟิกใหม่ ๆ รองรับอีอีซี รถไฟความเร็วสูง ที่ในอนาคตจะเปิดวิ่งเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งขายตั๋วพ่วงกันได้ และใช้ "อู่ตะเภา" เป็นฮับของไทยสมายล์ เพื่อผลักดันให้เป็นสายการบินเชื่อมกับภูมิภาคอาเซียนหรืออื่น ๆ ต้องตีโจทย์ให้แตก มิใช่คิดแต่ "ไทยกรุ๊ป" ซึ่งได้ยินมานาน แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีแผนการที่ชัดเจนและจับต้องได้แต่ประการใด ก่อนที่ไทยแอร์เอเชียและแอร์เอเชียมาเลย์ ก็ชิงขุมทรัพย์ "อู่ตะเภา" ไปรับประทานหมด
ทิ้งท้ายด้วย วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม นี้ 10.00 น. "ยาซุชิ โมริยามะ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนาฯ จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมผลการดำเนินงานและทิศทางการดำเนินธุรกิจ ปี 2562 และแคมเปญภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ล่าสุด ณ ห้องแมกโนเลียบอลรูม ชั้น 10 โรงแรมวอลดอร์ฟแอสโทเรีย กรุงเทพฯ
| คอลัมน์ : ฐานโซไซตี
| โดย : พริกกะเหรี่ยง
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3436 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 17-19 ม.ค.2562
