ข้าพระบาททาสประชาชน : ‘นายกฯคนนอก’ เป็นคนไทยหรือเปล่า?

16 ม.ค. 2562 | 07:44 น.
นายกคนนอก-01 อาจารย์เขียน ธีระวิทย์ ผู้เขี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์ ที่เคยมีความศรัทธาเชื่อมั่นในระบอบประชาธิป ไตยของโลกตะวันตกมาก่อน บัดนี้ท่านได้พบความจริงของสังคมการเมืองไทย และได้มีความเชื่อใหม่จากการศึกษาและสรุปบทเรียนของการเมืองไทยในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา เป็นผู้เขียนบทความนี้ ท่านบอกว่าอ่านแล้วถ้าเห็นด้วยจงช่วยแชร์ ผมเห็นด้วยจึงช่วยแชร์บทความนี้ครับ

เมื่อผมอายุไม่ถึง 7 ขวบ ผมชอบเอาหนังสติ๊กไปยิงนกกระจิบที่ชอบบินมาหาแมลงกินที่พุ่มไม้ใกล้บ้าน ผมเคยยิงมันตายแล้วคิดภูมิใจว่ามีฝีมือยิงแม่น ภายหลังโตเป็นผู้ใหญ่ ผมจึงสำนึกได้ว่าผมทำบาป ยิงนกตาย พรากมันจากพ่อ-แม่-ลูก-คู่รักของมันโดยไม่มีใครได้ประโยชน์อะไรเลย

เมื่อผมเรียนวิชารัฐศาสตร์จบปริญญาตรี-เอกใหม่ๆ ผมเชื่อว่าการปกครองในระบอบประชาธิปไตยดีเลิศ ผมไม่ได้สนใจที่จะเรียนรู้พฤติกรรมในการเลือกตั้งของไทยว่าเขาเลือกผู้แทนกันมาอย่างไร ผมเคยเขียนบทความลงในวารสารต่างๆ ยืนหยัดความเชื่อของผมว่าการทำรัฐประหารเป็นงานเลวร้ายที่จะอ้างเหตุผลใดๆ มาลบล้างไม่ได้ทั้งสิ้น

เมื่อผมเกษียณอายุราชการแล้ว ผมเห็นคนพันธุ์ทักษิณยึดอำนาจรัฐในไทย โดยผ่านการเลือกตั้งสกปรก ผมเห็นพวกเขาโกงบ้านกินเมือง ใช้อำนาจปกครองประเทศโดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์ของตนและพรรคพวก จนที่สุดผมได้ข้อสรุปว่าคนไทยจะแตกแยกกันทุกหย่อมหญ้า และประเทศชาติจะล่มจมในที่สุด เรายังหวังลมๆ แล้งๆ รอคอยพระสยามเทวาธิราชมากอบกู้สถานการณ์ให้

[caption id="attachment_375488" align="aligncenter" width="503"] ศ.ดร.เขียน ธีระวิทย์ ศ.ดร.เขียน ธีระวิทย์[/caption]

การใช้กำลังเข้ายึดอำนาจโดยทหารเป็นทางออกที่เลวร้ายน้อยที่สุด แล้วสถานการณ์ก็บังคับให้ทหารทำรัฐประหารจริงๆ ถึง 2 ครั้ง ซึ่งผมก็เห็นชอบด้วย นั่นคือผมได้เปลี่ยนทัศนคติทางการเมืองอย่างชัดเจน จากเดิมที่ว่าทหารต้องห้ามในการทำรัฐประหาร มาเป็นทหารมีสิทธิ์ธรรมชาติที่จะทำรัฐประหารได้ ถ้าเรามีประชาธิปไตยจอมปลอมที่ไม่ยึดหลักกฎหมายในการปกครองประเทศ

กว่า 10 ปีที่ผ่านมานี้ ผมมีเวลาวิเคราะห์ปัญหาการเมืองไทยมากขึ้น ผมดูจากของจริงมากกว่าเชื่อตามตำรา ผมเห็นคนไทยในวงการวิชาการ สื่อมวลชน นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและนักการเมืองจำนวนมาก มีทัศนคติทางการเมืองเหมือนผมสมัยมันสมองยังไม่โต ยิงนกกระจิบเล่นโดยไม่รู้จักคิดให้รอบคอบว่าแล้วใครจะได้อะไร จะเอาระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนเป็นใหญ่ แล้วได้ประชาธิปไตยจอมปลอมที่ใครเป็นใหญ่กันแน่ รณรงค์ชวนคนอื่นให้ออกเสียงไม่รับรัฐธรรมนูญโดยไม่คิดให้รอบคอบว่า ถ้าไม่รับฉบับนี้แล้วผลจะเป็นอย่างไร

ปัจจุบัน มีการรณรงค์กันอย่างแพร่หลายว่านายกรัฐมนตรีจะต้องมาจากการเลือกตั้ง “ไม่เอานายกรัฐมนตรีคนนอก” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นแชมป์ล่าสุดที่ออกมาสอนคนให้เชื่อเช่นนั้น ตอนที่ผมยังเป็นหนุ่มและฟุ้งซ่านประชาธิปไตยในแผ่นกระดาษนั้น ผมตกหลุมตำราวิชาการฝรั่งไม่ลึกเท่ากับอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์

เรามีตัวอย่างให้เห็นกันชัดๆ ตั้งแต่ปี 2520 เป็นต้นมา เรามีนายกรัฐมนตรี 9 คน (ไม่รวมที่เป็นไม่เกิน 2 เดือน) เป็น “คนนอก” 5 คน ได้แก่ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ คุณอานันท์ ปันยารชุน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่วนที่เป็น “คนใน”  มี 9 คน คือ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ, นายชวน หลีกภัย, นายบรรหาร ศิลป-อาชา, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ, นายทักษิณ ชินวัตร, นายสมัคร สุนทรเวช, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เราเห็นแล้วยังว่าใครทำประโยชน์ให้แก่ชาติ ใครทำลายประเทศชาติมากกว่ากัน

มีใครมองไม่เห็นบ้าง “นายกฯ คนนอก” เช่น พล.อ.เปรม และคุณอานันท์ นั้น มีคุณูปการต่อประเทศชาติมากเพียงใด พล.อ.ประยุทธ์ ใช้เวลา 2 ปีเศษกอบกู้ประเทศเรา ซึ่งจมปลักอยู่กับกองเพลิงแห่งความขัดแย้งให้เป็นได้อย่างทุกวันนี้ เรียกว่าเป็นผู้นำที่ไม่ธรรมดา แต่อนาคตจะเป็นอย่างไรนั้นเรายังมองไม่เห็น

[caption id="attachment_375433" align="aligncenter" width="500"] ข้าพระบาททาสประชาชน : ‘นายกฯคนนอก’ เป็นคนไทยหรือเปล่า? เพิ่มเพื่อน [/caption]

ส่วน “นายกฯ คนใน” นั้น ผู้ที่มีคุณสมบัติกอบกู้ชื่อเสียงของนักการเมืองในสายตาของผมมีคนเดียว คือ คุณชวน หลีกภัย ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั้นพูดเก่ง มีหลักการ-หลักวิชา เหมาะกับการเป็นผู้นำของประเทศประชาธิปไตยตะวันตก ท่านมีปัญหาเรื่องการตัดสินใจในการแก้ปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเมือง กรณีการประชุมสุดยอดอาเซียน + 6 ที่โรงแรม รอยัลคลิฟบีช รีสอร์ท ที่พัทยา (10 เมษายน 2552) ซึ่งถูกม็อบเสื้อแดงบุกขับไล่ นายอภิสิทธิ์และผู้นำต่างประเทศต้องหนีกระเจิงตั้งแต่วันแรก และต้องล้มเลิกการประชุมคราวนั้น ประเทศไทยเสียหายอย่างใหญ่หลวงอย่างประเมินค่ามิได้

การประชุมที่สำคัญยิ่งครั้งนั้น นายกรัฐมนตรีผู้เป็นเจ้าภาพ จะต้องมีข้อมูลที่ทันต่อเหตุการณ์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของฝ่ายต่อต้าน ถ้าไม่มีก็ต้องถือว่าบริหารงานข่าวกรองไม่เป็น ท่านน่าจะรู้ว่าลำพังกำลังตำรวจนั้นเชื่อถือไม่ได้ และงานสำคัญเช่นนั้นจะเลื่อนหรือยกเลิกก็ไม่ได้ ทำไมท่านไม่ขอกำลังทหารมาช่วย ถ้าท่านมัวกังวลใจว่าเอาทหารมาใช้งานรักษาความสงบเรียบร้อยภายในไม่เป็นประชาธิปไตย ก็หมายความว่าท่านเอาหลักวิชาประชาธิปไตยมาประยุกต์ใช้กับประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตยไม่เป็น เช่นเดียวกับที่ท่านถูกม็อบเสื้อแดงไล่ต้อนซุกรถหนีออกมาจากกระทรวงมหาดไทย 2 วันต่อมาและการสลายการชุมนุมที่ยืดเยื้อของม็อบเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์ (12 มี.ค.-19 พ.ค. 53) ส่วนหนึ่งเป็นเพราะท่านตัดสินใจ แก้ปัญหาไม่เป็น

1_ExPJaeH--WitTlM5bdchOQ กว่า 10 ปีที่ผ่านมา ผมเห็นภัยจากระบอบประชาธิปไตยสามานย์มากขึ้น สหรัฐฯ ได้ชื่อว่าเป็นแชมเปี้ยนของระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่มีประเทศใดเสมอเหมือนในการทำร้ายคนบริสุทธิ์ทั่วโลก ใครเป็นผู้นำไล่ล่าสังหารซัดดัม ฮุสเซนของอิรัก ใครไปโค่นล้มรัฐบาลมูอัมมาร์ อัล กัดดาฟีของลิเบีย ทำให้ 2 ประเทศนี้ประสบภาวะสงครามแหลกลานมาจนถึงทุกวันนี้ ยังมีอัฟกานิสถาน ซีเรีย และอื่นๆ อีกมากมาย ฉะนั้น คนไทยทั้งหลายจงอย่าหลงใหลคลั่งไคล้ระบอบประชาธิปไตยให้มากนักเลย

มีคนสร้างประเด็นความขัดแย้งให้พวกเราตั้งแต่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่เพิ่งผ่านประชามติ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา “นายกฯ ต้องมาจากการเลือกตั้ง” คนที่เล่นการเมืองเป็นอาชีพของไทยมีไม่ถึง 1% ของประชากรทั้งหมด ต้องการผูกขาดอำนาจแต่งตั้งผู้บริหารสูงสุดของประเทศก็ได้แล้ว แม้พรรคการเมืองจะคัดสรร “คนนอก” มาอยู่ในบัญชีผู้แข่งเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 158-159 ก็ไม่ยอม คนดีๆ มีความสามารถมากมายไม่อยากไปแย่งตำแหน่งนั้นกับนักการเมืองหรอก บางคนแม้ท่านจะเอาดอกไม้ธูปเทียนไปเชิญก็ยังไม่ยอมรับด้วยซํ้า คิดได้หรือไม่ว่าท่านกำลังเรียกร้องคนไทยทั่วประเทศให้ตัดสิทธิ์ของคนอาชีพอื่นมากกว่า 99% มิให้เขาได้ผู้นำที่ดีมีความสามารถ เพราะเขาไม่ยอมสมัครเลือกตั้ง ส.ส. หรือเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ที่นักการเมืองได้ทำให้สกปรกไปแล้ว


นายกคนนอน-03

“คนนอก” เป็นคนไทยหรือเปล่า? ตอบคำถามนี้ได้ไหม? กลัวทหารมาเป็นนายกรัฐมนตรีใช่ไหม? ทหารไม่ใช่คนไทยหรือไร? ทหารรักชาติไม่เป็นหรือ? ท่านกลัวทหารเอารถถังมาหนุนหลังปกครองประเทศหรือ? ทุกวันนี้ท่านก็ด่าทหารกันอย่างเสรีอยู่แล้ว ทำไมไม่กลัวล่ะ? ถ้าไม่ทำผิดกฎหมายก็ไม่ต้องกลัวทหาร ผมกลัวนายกฯ ที่ไม่บังคับใช้กฎหมายมากกว่า เพราะคนไม่เคารพกฎหมายทำให้ผมเดือดร้อนด้วย

แทนที่จะมารณรงค์ต่อต้าน “นายกฯคนนอก” เรามาช่วยกันรณรงค์ให้คนไทยอย่าแบ่งแยก “คนใน” “คนนอก” ดีกว่า คอยต่อต้านนายกฯคนต่อๆ ไป ที่ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และ/หรือ ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งคัดด้วย

บทความท่านอาจารย์เขียน ธีระวิทย์ ได้ทิ้งท้ายไว้ด้วยว่าประชาธิปไตย ที่เราลอกเลียนแบบมาจากตะวันตก จะกลายเป็นอดีตแล้วในตะวันออก มีชาติใดบ้างที่ใช้ประชาธิปไตยได้อย่างขาวสะอาดนอกจากญี่ปุ่น จีนรุ่งเรืองขึ้นมาจนตะวันตกกลัวอุจจาระขึ้นสมอง ก็ใช้ประชาธิปไตยแบบ 1/3 หรือ 1/4 ใบเท่านั้นปกครองประเทศ”

ผมเห็นด้วยกับอาจารย์เขียน ธีระวิทย์ เป็นส่วนใหญ่ครับ แต่มีเงื่อนไข ว่า นายกฯคนนอกต้องเป็นแบบท่านนายกฯ เปรม ติณสูลานนท์ หรือ นายอานันท์ ปันยารชุน สิ่งที่ผมวิตกกังวลก็คือ ทั้งนายกฯคนนอกหรือมาจากการเลือกตั้งนั้น ต้องไม่เป็น “เผด็จการรัฐสภาหรือเผด็จการทหาร” เพราะทั้ง 2 ระบอบนี้ ก็สร้างความเสียหายแก่บ้านเมืองพอๆกัน ดั่งอดีตที่ผ่านมา

เช่นเดียวกันผมเห็นด้วยว่าใครก็ได้ที่จะเป็นนายกฯ ปกครองประเทศ ต้องเป็นผู้นำที่ซื่อสัตย์ สุจริต มีความรู้ความสามารถ เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชน ในความเสียสละกล้าหาญ กล้าตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง นี่คือนายกฯที่ประชาชนต้องการครับจะมาจากใครก็ได้ทั้งนั้น

| คอลัมน์ : ข้าพระบาท ทาสประชาชน
| โดย : ประพันธุ์ คูณมี 
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3436 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 17-19 ม.ค.2562 
595959859