ครม. เติมงบ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" อีก 4,370 ล้าน

15 ม.ค. 2562 | 10:16 น.
ครม. เติมงบใส่ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" อีก 4,370 ล้านบาท ขยายเวลามาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ถือบัตรอีก 6 เดือน ไฟเขียว! ให้กดเป็นเงินสดใช้ซื้อสินค้าร้านค้าทั่วไปได้ ภายใน 3 เดือนนี้เท่านั้น

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกัณฑ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม ว่า ครม. เห็นชอบขยายเวลาโครงการมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2 ต่อไปอีก ตั้งแต่เดือน ม.ค. - มิ.ย. 2562 หลังจากโครงการสิ้นสุดไปเมื่อเดือน ธ.ค. 2561 เพื่อใช้ดำเนินการ วงเงิน 4,370 ล้านบาท สำหรับเป้าหมายผู้เข้าร่วมโครงการ 4,145,397 ราย

โดยจะใช้จ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่ายภายใต้กองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก โดยให้กระทรวงการคลังดำเนินการเสนอขอรับจัดสรรเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2562 งบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เมื่อร่างพระราชบัญญัติการจัดประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมมีผลบังคับใช้

สำหรับโครงการฯ ระยะที่ 2 นี้ ให้ประชาชนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาลงทะเบียนเพื่อเข้าอบรมพัฒนาคุณภาพชีวิตหลังผ่านการอบรมจะรับเงินเพิ่มจากระยะแรก สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินเพิ่มอีกรายละ 200 บาทต่อเดือน จากโครงการระยะแรกได้รายละ 300 บาท รวมเป็น 500 บาทต่อเดือน ส่วนผู้ที่มีรายได้มากกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท เมื่อผ่านการฝึกอบรมจะได้รับเงินเพิ่มอีกรายละ 100 บาทต่อเดือน จากระยะแรกรับรายละ 200 บาท รวมเป็น 300 บาทต่อเดือน ซึ่งเงินที่ได้รับเพิ่มรายละ 200 บาท และ 100 บาทดังกล่าว ในระยะที่ 2 นี้ ครม. เคยมีมติให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถเบิกออกมาใช้เป็นเงินสดได้ผ่านตู้เอทีเอ็มและสาขาของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้แล้วก่อนหน้านี้

ส่วนเงินที่ได้รับในโครงการระยะที่ 1 รายละ 300 บาท และ 200 บาทนั้น จากมติ ครม. เดิมกำหนดให้จะต้องใช้จ่ายผ่านร้านค้าธงฟ้าประชารัฐเท่านั้น ซึ่งมีระยะเวลาสิ้นสุดโครงการเดือน ก.ย. 2562 โดยในวันนี้ ครม. ได้เห็นชอบให้ปรับเปลี่ยนการใช้จ่ายเงินในส่วนที่ได้รับในโครงการระยะที่ 1 รายละ 300 บาท และ 200 บาทต่อเดือน ที่เดิมกำหนดให้จะต้องใช้จ่ายผ่านร้านค้าประชารัฐเท่านั้น ให้สามารถเบิกเป็นเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มและสาขาของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้ 200 บาท และ 100 บาทต่อเดือน ตามลำดับ และเหลือเงินสำหรับที่จะต้องใช้จ่ายผ่านร้านค้าประชารัฐไว้ 100 บาท ทั้งนี้ กำหนดให้เบิกใช้เป็นเงินสดได้ตั้งแต่เดือน ก.พ. – เม.ย. 2562 หรือเป็นเวลา 3 เดือนนี้เท่านั้น

ทั้งนี้ นายพุทธพงษ์ ชี้แจงเหตุผลของการปรับเปลี่ยนให้สามารถเบิกเป็นเงินสดได้รายละ 200 บาท และ 100 บาทต่อเดือนในครั้งนี้ ว่า เนื่องจากเมื่อต้นปีมีผลสำรวจระบุว่า ประชาชนต้องการจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าที่ไม่อยู่ในร้านค้าประชารัฐเป็นจำนวนมากนั่นเอง

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว