'เน็กซ์โปรดักส์' จับลิขสิทธิ์ 'มาร์เวล' ดันรายได้โต 250 ล้าน!!
บริษัท เน็กซ์โปรดักส์ฯ เน้นกลยุทธ์งานลิขสิทธิ์แท้ ล่าสุด จับมือ 'มาร์เวล' ขนลายซูเปอร์ฮีโร่ดังลงผลิตภัณฑ์ ขยายฐานลูกค้า เพิ่มรายได้ พร้อมทวงคืนตลาดเดิม ดันรายได้แตะ 250 ล้าน ชูจุดเด่นรายเดียวในประเทศไทย
นายจักรายุทธ จามจุรีร่มใจ ผู้จัดการแผนกออกแบบสร้างสรรค์ บริษัท เน็กซ์โปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าคลุมรถแบรนด์ "ออโต้ เมท" (Auto Mate) และประดับยนต์ในรูปแบบผ้าแบรนด์ "ออโต้ เดค" (Auto Dec) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า กลยุทธ์การทำตลาดของบริษัทปีนี้ จะมุ่งเน้นไปที่การนำเสนองานที่บริษัทได้ลิขสิทธิ์ลวดลายต่าง ๆ ทั้งหมด เพราะเป็นช่องทางสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้เป็นจำนวนมาก พร้อมกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าเพื่อเพิ่มรายได้ ด้วยการซื้อลิขสิทธิ์จาก "มาร์เวล สตูดิโอส์" (Marvel) ซึ่งเป็นแฟรนไชส์สื่อบันเทิงแนวซูเปอร์ฮีโร่ประเภทจักรวาลร่วมสัญชาติอเมริกันที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน โดยบริษัทจะได้ลิขสิทธิ์การ์ตูน 4-5 เรื่อง มาออกแบบร่วมกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่จะจำหน่าย
นอกจากนี้ ยังจะดำเนินการรุกตลาดไปยังฐานลูกค้าเดิม เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทที่เคยทำได้ให้กลับคืนมา แม้ว่าตลาดของผ้าคลุมรถจะค่อนข้างทำได้ยาก แต่ตลาดที่เป็นประดับยนต์ ซึ่งบริษัทเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แต่เพียงรายเดียวในประเทศไทย ยังมีช่องทางให้บริษัทได้เข้าไปทำตลาด ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่
"เดิมทีบริษัทเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การ์ตูนดังเรื่องต่าง ๆ เพื่อนำมาออกแบบลงไปบนผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น หมีพูห์, โดราเอมอน หรือ ลิขสิทธิ์ของสโมสรฟุตบอล เช่น ลิเวอร์พูลและเชลซี ส่วนสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเพิ่งหมดสัญญาไป โดยเรียกว่าเป็นรายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับลิขสิทธิ์"
อย่างไรก็ดี ในยุคที่ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่โลกของดิจิตอลมากขึ้น บริษัทก็ได้มีการปรับตัว โดยการเพิ่มช่องทางการทำตลาดแบบออนไลน์ ทั้งในรูปแบบของเว็บไซต์, ไลน์แอด (Line@), เพจเฟซบุ๊ก และแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น ลาซาด้า (Lazada), ช้อปปี้ (Shopee) และอีเลฟเว่นสตรีท (11Street) เป็นต้น
"ผลิตภัณฑ์ที่เป็นผ้าคลุมรถ บริษัทจะไม่ได้ออกแบบโดยการใส่ลวดลายของลิขสิทธิ์ที่บริษัทได้มาลงไป เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคจะคำนึงถึงเรื่องการใช้งานมากกว่าความสวยงามของผลิตภัณฑ์"
นายจักรายุทธ กล่าวต่อไปอีกว่า จากกลยุทธ์ในการทำตลาดดังกล่าวของบริษัทในปีนี้ คาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ประมาณ 250 ล้านบาท หรือ เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 5-10% โดยบริษัทไม่ได้ตั้งเป้ารายได้ไว้สูงมาก เนื่องจากเศรษฐกิจยังอยู่ในสภาวะที่ซบเซาอยู่ ส่วนจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Auto Mate และ Auto Dec นั้น จะอยู่ที่วัตถุดิบ ซึ่งเป็นฟอยล์สะท้อนแสงสำหรับผ้าคลุมรถ ซึ่งบริษัทเป็นเพียงรายเดียวในประเทศที่ใช้วัตถุดิบดังกล่าวนี้ และเรื่องของการลงทุนซื้อลิขสิทธิ์แท้มาใช้ในการออกแบบร่วมกับผลิตภัณฑ์ ซึ่งต้องใช้คำว่า รายเดียวในประเทศไทยเช่นเดียวกัน
ด้านหลักคิดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ จะประกอบไปด้วยปัจจัย 3 ข้อหลัก ได้แก่ 1.การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ได้รับลิขสิทธิ์แท้จากเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างแท้จริง, 2.ช่องทางการจำหน่าย โดยเฉพาะการจำหน่ายในรูปแบบของการขายส่งไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ และ 3.การที่บริษัทมีโรงงานผลิตเป็นของตนเอง ทำให้สามารถควบคุมการผลิตได้ ไม่จำเป็นต้องมีขั้นตํ่าในการผลิต ผลิตมากก็ได้เมื่อตลาดต้องการ หรือจะผลิตน้อยก็ได้เมื่อกำลังซื้อผู้บริโภคหดตัว
หน้า 8 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3436 วันที่ 17-19 มกราคม 2562
นายจักรายุทธ จามจุรีร่มใจ ผู้จัดการแผนกออกแบบสร้างสรรค์ บริษัท เน็กซ์โปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าคลุมรถแบรนด์ "ออโต้ เมท" (Auto Mate) และประดับยนต์ในรูปแบบผ้าแบรนด์ "ออโต้ เดค" (Auto Dec) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า กลยุทธ์การทำตลาดของบริษัทปีนี้ จะมุ่งเน้นไปที่การนำเสนองานที่บริษัทได้ลิขสิทธิ์ลวดลายต่าง ๆ ทั้งหมด เพราะเป็นช่องทางสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้เป็นจำนวนมาก พร้อมกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าเพื่อเพิ่มรายได้ ด้วยการซื้อลิขสิทธิ์จาก "มาร์เวล สตูดิโอส์" (Marvel) ซึ่งเป็นแฟรนไชส์สื่อบันเทิงแนวซูเปอร์ฮีโร่ประเภทจักรวาลร่วมสัญชาติอเมริกันที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน โดยบริษัทจะได้ลิขสิทธิ์การ์ตูน 4-5 เรื่อง มาออกแบบร่วมกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่จะจำหน่าย
นอกจากนี้ ยังจะดำเนินการรุกตลาดไปยังฐานลูกค้าเดิม เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทที่เคยทำได้ให้กลับคืนมา แม้ว่าตลาดของผ้าคลุมรถจะค่อนข้างทำได้ยาก แต่ตลาดที่เป็นประดับยนต์ ซึ่งบริษัทเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แต่เพียงรายเดียวในประเทศไทย ยังมีช่องทางให้บริษัทได้เข้าไปทำตลาด ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่
"เดิมทีบริษัทเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การ์ตูนดังเรื่องต่าง ๆ เพื่อนำมาออกแบบลงไปบนผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น หมีพูห์, โดราเอมอน หรือ ลิขสิทธิ์ของสโมสรฟุตบอล เช่น ลิเวอร์พูลและเชลซี ส่วนสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเพิ่งหมดสัญญาไป โดยเรียกว่าเป็นรายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับลิขสิทธิ์"
อย่างไรก็ดี ในยุคที่ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่โลกของดิจิตอลมากขึ้น บริษัทก็ได้มีการปรับตัว โดยการเพิ่มช่องทางการทำตลาดแบบออนไลน์ ทั้งในรูปแบบของเว็บไซต์, ไลน์แอด (Line@), เพจเฟซบุ๊ก และแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น ลาซาด้า (Lazada), ช้อปปี้ (Shopee) และอีเลฟเว่นสตรีท (11Street) เป็นต้น
"ผลิตภัณฑ์ที่เป็นผ้าคลุมรถ บริษัทจะไม่ได้ออกแบบโดยการใส่ลวดลายของลิขสิทธิ์ที่บริษัทได้มาลงไป เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคจะคำนึงถึงเรื่องการใช้งานมากกว่าความสวยงามของผลิตภัณฑ์"
นายจักรายุทธ กล่าวต่อไปอีกว่า จากกลยุทธ์ในการทำตลาดดังกล่าวของบริษัทในปีนี้ คาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ประมาณ 250 ล้านบาท หรือ เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 5-10% โดยบริษัทไม่ได้ตั้งเป้ารายได้ไว้สูงมาก เนื่องจากเศรษฐกิจยังอยู่ในสภาวะที่ซบเซาอยู่ ส่วนจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Auto Mate และ Auto Dec นั้น จะอยู่ที่วัตถุดิบ ซึ่งเป็นฟอยล์สะท้อนแสงสำหรับผ้าคลุมรถ ซึ่งบริษัทเป็นเพียงรายเดียวในประเทศที่ใช้วัตถุดิบดังกล่าวนี้ และเรื่องของการลงทุนซื้อลิขสิทธิ์แท้มาใช้ในการออกแบบร่วมกับผลิตภัณฑ์ ซึ่งต้องใช้คำว่า รายเดียวในประเทศไทยเช่นเดียวกัน
ด้านหลักคิดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ จะประกอบไปด้วยปัจจัย 3 ข้อหลัก ได้แก่ 1.การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ได้รับลิขสิทธิ์แท้จากเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างแท้จริง, 2.ช่องทางการจำหน่าย โดยเฉพาะการจำหน่ายในรูปแบบของการขายส่งไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ และ 3.การที่บริษัทมีโรงงานผลิตเป็นของตนเอง ทำให้สามารถควบคุมการผลิตได้ ไม่จำเป็นต้องมีขั้นตํ่าในการผลิต ผลิตมากก็ได้เมื่อตลาดต้องการ หรือจะผลิตน้อยก็ได้เมื่อกำลังซื้อผู้บริโภคหดตัว
หน้า 8 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3436 วันที่ 17-19 มกราคม 2562
