ปตท.สผ. ได้รับสัมปทาน 2 แปลง ร่วมกับ 'อีเอ็นไอ' ในยูเออี

14 ม.ค. 2562 | 05:21 น.
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. โดยบริษัท พีทีทีอีพี มีนา จำกัด (PTTEP MENA Limited) ซึ่งร่วมทุนกับ บริษัท อีเอ็นไอ อาบูดาบี (Eni Abu Dhabi) บริษัทในเครือของอีเอ็นไอ (Eni) ผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของประเทศอิตาลี ได้รับสัมปทานแหล่งก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งในแปลงสำรวจออฟชอร์ 1 (Offshore 1) และแปลงออฟชอร์ 2 (Offshore 2) จากบริษัท อาบูดาบี เนชั่นแนล ออยล์ หรือ แอดนอค (Abu Dhabi National Oil Company หรือ ADNOC) บริษัทน้ำมันแห่งชาติของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) จากการเปิดประมูลครั้งแรกในประเทศ นับเป็นก้าวแรกของ ปตท.สผ. ในการลงทุนในยูเออี สะท้อนความสำเร็จของบริษัทในการลงทุนตามแผนกลยุทธ์

000ปตท.สผ. ได้รับสัมปทานในยูเออี
นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.สผ. กล่าวว่า "ปตท.สผ. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เข้าไปลงทุนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นครั้งแรก ซึ่งการได้รับสัมปทานในแปลงออฟชอร์ 1 และออฟชอร์ 2 เปิดโอกาสให้ ปตท.สผ. ได้ร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญระดับโลก ทั้งแอดนอคและอีเอ็นไอ และยังทำให้เราได้เข้าไปลงทุนในพื้นที่ที่มีศักยภาพปิโตรเลียมสูงแห่งหนึ่งของโลก ปตท.สผ. เชื่อว่ากลุ่มผู้ร่วมทุนจะใช้ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาแปลงสำรวจนี้ ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์ในระยะยาวให้กับทุกฝ่าย"

ด้าน ดร.สุลต่าน อาห์เหม็ด อัล จาเบอร์ รัฐมนตรีของยูเออี (UAE Minister of State) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอดนอค กรุ๊ป กล่าวว่า การอนุมัติสัมปทานครั้งแรกครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นครั้งประวัติศาสตร์และเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่จะเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมของอาบูดาบี ตามยุทธศาสตร์การลงทุนปี 2573 ของแอดนอค รวมถึงเป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการจะเป็นพันธมิตรกับบริษัทน้ำมันและก๊าซที่มีทั้งศักยภาพทั้งทางเทคโนโลยีและเงินทุน ที่จะมาช่วยพัฒนาทรัพยากรปิโตรเลียมของประเทศ การให้สัมปทานกับอีเอ็นไอนั้น ถือเป็นอีกขั้นหนึ่งของการเป็นพันธมิตรกัน ขณะเดียวกัน บริษัทน้ำมันแห่งชาติของไทย ปตท.สผ. ซึ่งเข้ามาเป็นพันธมิตรใหม่นั้น ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความมั่นใจที่นักลงทุนต่างชาติมีต่อยูเออี

นายเคลาดิโอ เดสคัลซี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อีเอ็นไอ กล่าวว่า กลุ่มผู้ร่วมทุนจะใช้ความเชี่ยวชาญและนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ เพื่อสำรวจทรัพยากรปิโตรเลียมนอกชายฝั่งของอาบูดาบีในครั้งนี้ "พีทีทีอีพี มีนา" และ "อีเอ็นไอ อาบูดาบี" จะถือสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 30 และ 70 ตามลำดับ โดยมีระยะเวลาการสำรวจไม่เกิน 9 ปี ซึ่งทั้ง 2 แปลง มีอายุสัมปทาน 35 ปี

'ยูเออี' เป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก โดยร้อยละ 96 ของปริมาณสำรองปิโตรเลียม อยู่ในพื้นที่ของกรุงอาบูดาบี และยังเป็นประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรปิโตรเลียมขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ซึ่งยังรอการสำรวจและพัฒนา

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว