[caption id="attachment_373960" align="aligncenter" width="650"]
รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์”/“ทริป-รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์”[/caption]
ว่ากันว่า ชะตาชีวิตคนเราไม่เหมือนกัน แม้จะเกิดวัน เวลา และปีเดียวกัน ดังเช่น เส้นทางชีวิตของคู่แฝด
“หมอทัวร์-รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์” และ
“ทริป-รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ทั้งคู่เกิดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2509 อายุย่าง 53 ปี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษา จากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กระทั่งเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ก่อนจะแยกห้องกันเรียนตามความสนใจ
สำหรับแฝดพี่ “ฉันชาย” สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คว้าปริญญาโท และเอกด้านโรคระบบทางเดินหายใจและเวชบำบัดวิกฤตทางระบบหายใจ จากสหรัฐอเมริกา มีความเชี่ยวชาญด้านอายุกรรมโรคปอด ระบบทางเดินหายใจและทรวงอก
ส่วนแฝดน้อง “ชัชชาติ” สำเร็จปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมโยธา ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับทุนอานันทมหิดลในระดับปริญญาโท สาขาวิศวกรรมโครงสร้าง จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ และปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
ปัจจุบัน “ฉันชาย” เป็นรองคณบดี ฝ่ายวางแผนและพัฒนาคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ล่าสุดได้รับเลือกให้เป็น 1 ในกรรมการแพทยสภาตามวาระพ.ศ. 2562-2564 ซึ่งมีผู้สมัครเลือกตั้งเป็นกรรมการแพทยสภาทั้งสิ้น 117 ราย แต่เลือกผู้สมัครได้ไม่เกิน 29 หมายเลข โดย หมอทัวร์ ได้คะแนนสูงเป็นอันดับที่ 7 ด้วยคะแนน 5,269 คะแนน ภารกิจแรกของกรรมการแพทยสภาชุดใหม่ที่จะเกิดขึ้น คือ การประชุมร่วมกับ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเลือกนายกแพทยสภา จากนั้นนายกแพทยสภาจะเลือกทีมเพื่อขึ้นมาทำงานในส่วนของเลขาธิการแพทยสภาต่อไป
ขณะที่ “ชัชชาติ” แฝดผู้น้อง มีเส้นทางชีวิตที่ดูโลดโผนกว่า นับแต่วันที่มีโอกาสได้ช่วยงานให้คำปรึกษาแก่กระทรวงคมนาคมในสมัยรัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ถูกทาบทามจากนางสาวยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นให้มาเป็น “รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม” และ“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม” ตามลำดับ
ล่าสุดลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หลังจากถูกวางตัวจากพรรคเพื่อไทยให้มาคุมทีมเศรษฐกิจ รวมถึงเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเบอร์หนึ่งของพรรคในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
ดังนั้น ภาพของพรรคเพื่อไทยที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นเหมือนกองกำลังยากที่จะแยกออกจากกัน
ในขณะที่
“หมอทัวร์” นั้นได้รับการยกย่องว่า เป็นหมอที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมากจึงเกลียดกลุ่มผู้ให้ร้ายสถาบันแบบเข้ากระดูกดำ เมื่อมีม็อบคนเสื้อแดงชุมนุมปิดล้อมโรงพยาบาลจุฬาฯ ซึ่งมีผู้ป่วยทั้งประชาชนทั่วไป และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมที่เข้ารับการรักษา “หมอทัวร์” ยังยึดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ เฝ้าดูแลรักษาคนไข้อย่างใกล้ชิดทั้งกลางวันกลางคืนอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย สมกับเป็นมืออาชีพได้อย่างน่ายกย่อง
ทั้งคู่
“ฉันชาย-ชัชชาติ” คลอดมาในห้วงเวลาเดียวกัน สายสัมพันธ์ยังเชื่อมถึงกัน ไม่เคยมีปัญหาใดๆต่อกัน ด้วยภารกิจหน้าที่ และอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน จึงทำให้เส้นทางเดินชีวิตเหมือนเดินคนละเส้นทาง เดินอยู่บนดาวคนละดวง...
ขอบคุณภาพ : รายการเนชั่นมิตรไนท์ เนชั่นทีวี