'ทีเส็บ' ยกระดับ "ตลาดอินเซนทิฟไทย" ขึ้นแท่นระดับโลก

11 ม.ค. 2562 | 11:04 น.
แนวโน้มตลาดอินเซนทิฟมาแรง! ทีเส็บโชว์ศักยภาพไทยในงาน SITE 2019 Global Conference เน้นขายความพร้อม วัฒนธรรม และสุขภาพ มั่นใจ! จะดึงดูดตลาดโลกได้ดี

นายฟิลลิป อายส์วอด ประธานสมาคมส่งเสริมธุรกิจการจัดอินเซนทิฟระดับโลก The Society for Incentive Travel Excellence (SITE) กล่าวถึง "เทรนด์โลกของธุรกิจการจัดงานอินเซนทิฟ" หรือ "การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล" โดยมองว่า "ธุรกิจนี้มีการเติบโตเร็วที่สุดและมีค่าใช้จ่ายต่อคนสูงที่สุดจากทุกกลุ่มของอุตสาหกรรมไมซ์ ซึ่งนักเดินทางกลุ่มอินเซนทิฟส่วนใหญ่จะเดินทางอยู่ในภูมิภาคเดียวกัน โดยเสน่ห์ของจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักเดินทางกลุ่มอินเซนทิฟ ได้แก่ ภาพลักษณ์ชื่อเสียงของประเทศ และแบรนด์ของเมืองหรือจังหวัดเป็นสิ่งสำคัญ เน้นการพัฒนาเมืองรองเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ เพื่อตอบโจทย์นักเดินทาง รวมถึงมีความนิยมในกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ความปลอดภัยเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด และเทคโนโลยี คือ ปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญ


re_T27C8883

ด้านภาพรวมแนวโน้มของประเทศไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการจัดอินเซนทิฟ นับว่ามีแนวโน้มที่ดีมาก โดยมองว่า "ไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการจัดอินเซนทิฟที่สมบูรณ์แบบ" มีเสน่ห์มากมาย เดินทางเข้าถึงได้ง่าย มีโรงแรมที่พักและสถานที่จัดงานระดับห้าดาว มีรากฐานวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์หยั่งลึก และอาหารการกินที่มีชื่อเสียงเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งประเทศไทยเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในฐานะหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญด้านการจัดอินเซนทิฟของเอเชีย จึงได้รับเลือกให้จัดงานประชุมใหญ่ของสมาคมในครั้งนี้ คือ การประชุมใหญ่ SITE2019 Global Conference ภายใต้คอนเซปต์งาน "Incentivising Diversity & Innovation" ซึ่งสมาคม SITE จะนำเสนอจุดเด่นของกรุงเทพฯ ในด้านความร่วมสมัยของเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่วงการอินเซนทิฟกําลังมองหา เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้เข้าร่วมประชุม"

 

[caption id="attachment_373424" align="aligncenter" width="503"] ฟิลลิป อายส์วอด ประธานสมาคมส่งเสริมธุรกิจการจัดอินเซนทิฟระดับโลก The Society for Incentive Travel Excellence (SITE) ฟิลลิป อายส์วอด ประธานสมาคมส่งเสริมธุรกิจการจัดอินเซนทิฟระดับโลก The Society for Incentive Travel Excellence (SITE)[/caption]

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ทีเส็บรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่การประชุมใหญ่ของสมาคม SITE กลับมาจัดในอาเซียนอีกครั้งในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา โดยการที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการจัดประชุมใหญ่ SITE2019 Global Conference ครั้งนี้ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศใน 4 ด้านหลักด้วยกัน คือ 1.การสร้างความเชื่อมั่นจากประชาคมโลกถึงศักยภาพความพร้อมของไทยในการก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมอินเซนทิฟในระดับภูมิภาค และการเพิ่มจำนวนงานอินเซนทิฟระดับโลกเข้าสู่ประเทศไทย 2.การกระตุ้นอุตสาหกรรมอินเซนทิฟในระดับภูมิภาคอาเซียนให้เติบโต 3.การสร้างแรงบันดาลใจและผลักดันบุคลากรในวงการอินเซนทิฟให้ตื่นตัวและมีการพัฒนาต่อเนื่องอยู่เสมอ 4.การสร้างโอกาสให้กับอุตสาหกรรมอินเซนทิฟไทยได้แสดงศักยภาพด้านวัฒนธรรมที่หลากหลาย และนวัตกรรมภูมิปัญญาสร้างสรรค์ของประเทศสู่สายตาผู้เชี่ยวชาญด้านอินเซนทิฟจากทั่วโลก (Incentive professional) ที่จะเข้าร่วมงานกว่า 300 ราย และคาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับระบบเศรษฐกิจไทยได้กว่า 25 ล้านบาท

 

[caption id="attachment_373423" align="aligncenter" width="503"] จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ ทีเส็บ จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ ทีเส็บ[/caption]

"บทบาทของทีเส็บในครั้งนี้ ได้ดำเนินตามแนวการทำงานภายใต้แบรนด์ไมซ์ไทย THAILAND : Redefine Your Business Events ในฐานะของ Co-Creator ผู้ร่วมประมูลสิทธิ์การจัดงานประชุมใหญ่ของมืออาชีพด้านอินเซนทิฟจากทั่วโลก มาพบปะแลกเปลี่ยน หารือการทำธุรกิจร่วมกันในอนาคต ได้ร่วมเป็น Partner หรือ พันธมิตรกับหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการภาคเอกชนในการสร้างทีมคณะทำงานเจ้าภาพ เช่น กรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การบินไทย และสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) ขณะเดียวกันยังเป็น Collaborator สร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในการอำนวยความสะดวกการจัดงาน อาทิ การบริการไมซ์เลนช่องทางพิเศษ ประสานเรื่องสถานที่จัดงานและที่พัก ตลอดจนเป็น Thought Leader ผู้นำสร้างสรรค์การนำเสนอวัฒนธรรมและนวัตกรรมให้วงการอินเซนทิฟไทยและระดับนานาชาติได้มองเห็นช่องทางของการพัฒนาแนวคิด สินค้า หรือ บริการใหม่ เพื่อตอบสนองนักเดินทางเป้าหมายในอนาคต ขณะเดียวกันยังนำเสนอกิจกรรมก่อน-หลังการประชุมที่ให้ผู้เข้าประชุมได้เรียนรู้วัฒนธรรมไทยและชีวิตความเป็นอยู่ของไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากเป็นที่ตั้งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสถานที่จัดงานและศูนย์การค้าสมัยใหม่ จึงเหมาะสมกับการเป็นสถานที่จัดงานให้ผู้เข้าประชุมเห็นภาพประเทศไทย ทั้งในแง่ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และพัฒนาการที่ก้าวทันโลกสมัยใหม่ไปพร้อมกัน"

นายจิรุตถ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ทีเส็บยังได้ร่วมมือกับสมาคม SITE จัดหลักสูตรอบรมเพื่อเรียนรู้การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอินเซนทิฟ (Incentive Specialist) ที่เรียกว่า Certified Incentive Specialists (CIS) ในวันที่ 10-11 ม.ค. เพื่ออบรมเบื้องต้นและสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์แนวทางการออกแบบโปรแกรมอินเซนทิฟ ที่สามารถกระตุ้นจูงใจผู้ร่วมงานให้พัฒนาตนเอง พัฒนาอาชีพ เรียนรู้การตลาดและห่วงโซ่ของธุรกิจอินเซนทิฟ โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมอบรมถึง 60 ราย จากฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และไทย ซึ่งปัจจุบันมีคนไทยผ่านการอบรม CIS สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชีย รวมถึง 68 คน ตอกย้ำศักยภาพบุคลากรด้านอินเซนทิฟที่มีมาตรฐานนานาชาติของประเทศไทย


re_T27C8518

สำหรับตลาดอินเซนทิฟไทยในปีที่ผ่านมา 2561 (สิ้นสุดปีงบประมาณเดือน ก.ย. 61) มีจำนวนนักเดินทางจากต่างประเทศทั้งสิ้น 369,370 ราย เติบโตร้อยละ 35.90 (สูงที่สุดในรอบ 14 ปี) มีรายได้รวม 20,670 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 23.80 (สูงที่สุดในรอบ 7 ปี) กลุ่มนักเดินทาง 10 อันดับแรกที่มีจำนวนสูงสุด ได้แก่ จีน 79,121 ราย อินเดีย 65,717 ราย มาเลเซีย 32,980 ราย เวียดนาม 26,046 ราย ฟิลิปปินส์ 22,025 ราย เกาหลีใต้ 17,596 ราย อินโดนีเซีย 16,164 ราย สิงคโปร์ 14,596 ราย ญี่ปุ่น 13,187 ราย และ สปป. ลาว 13,157 ราย โดยมีจุดหมายปลายทางของการจัดงานที่กรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต ตามลำดับ ส่วนกิจกรรมที่ได้รับความนิยม ได้แก่ การนัดหมายประชุมทางธุรกิจล่วงหน้า การนำเที่ยวก่อนการประชุม และงานแสดงวัฒนธรรม

โดยในปีนี้ ทีเส็บได้เตรียมแคมเปญสนับสนุนธุรกิจอินเซนทิฟ ภายใต้แนวคิด "MEET BY DESIGN - Redefined" เพื่อดึงดูดกลุ่มอินเซนทิฟจากต่างประเทศให้มาจัดงานในประเทศไทย โดยปรับแนวทางการสนับสนุนให้สอดคล้องกับตลาดเป้าหมาย ทั้งตลาดยุโรป อเมริกา โอเชียเนีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาชนชนจีน อินเดีย และกลุ่มประเทศอาเซียน โดยประมาณการว่า ในปี 2562 จะมีนักเดินทางกลุ่มอินเซนทีฟจากต่างประเทศมายังประเทศไทย จำนวน 388,000 ราย และสร้างรายได้ 21,700 ล้านบาท


re_T27C8728

"จากภาพรวมตลาดอินเซนทิฟของไทยที่มีแนวโน้มดีมาก ประกอบกับมีจำนวนผู้ดำเนินงานมืออาชีพระดับนานาชาติในอุตสาหกรรมอินเซนทิฟจากประเทศไทย ที่เป็นสมาชิกสมาคม SITE ถึง 23 ราย ส่งผลให้มีการจัดตั้ง "สมาคม SITE สาขาประเทศไทย" ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางการสร้างเครือข่ายธุรกิจอินเซนทิฟระดับนานาชาติ โดยกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่มีส่วนร่วมดำเนินงานจัดกิจกรรมส่งเสริมธุรกิจอินเซนทิฟสำหรับกลุ่มสมาชิกในภูมิภาคเดียวกัน โดยจะมีการประกาศการจัดตั้ง "สมาคม SITE สาขาประเทศไทย" อย่างเป็นทางการ ภายในงาน SITE2019 Global Conference ซึ่งทีเส็บเป็นแกนนำให้การสนับสนุนและร่วมประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน จนประสบความสำเร็จในการก่อตั้งสมาคม SITE สาขาประเทศไทย ขึ้นเป็นประเทศแรกในอาเซียน ตอกย้ำภาพลักษณ์ไทยในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลกของการจัดอินเซนทิฟในระดับนานาชาติ" นายจิรุตถ์ ทิ้งท้าย


เพิ่มเพื่อน
โปรโมทแทรกอีบุ๊ก