'อียู' จัดระเบียบนำเข้า "ยาง" !! ชาวสวนหวั่นได้ไม่คุ้มเสีย-แลกตลาดแค่ 3 แสนตัน

15 ม.ค. 2562 | 04:25 น.
ชาวสวน-ส่งออกผวา! ตื่นรัฐจัดระเบียบ "ยาง" ตามมาตรฐานอียู เลียนโมเดลไอยูยู ... 'อุทัย' โวย! ชาวสวนจะตกเป็นแพะ ถูกบังคับให้ปฏิบัติเยี่ยงคนในโรงงาน ขัดวิถีชาวบ้าน เผย อียูตลาดเล็กแค่ 3 แสนตัน/ปี หวั่นได้ไม่คุ้มเสีย


eic0919-696x385
พิษสงครามการค้าของ 2 มหาอำนาจยักษ์ใหญ่ "สหรัฐฯ-จีน" ที่หลายฝ่ายคาดการณ์หากยังคงยืดเยื้อจะกระทบทำให้เศรษฐกิจและการค้าโลกชะลอตัวลงในปีนี้ โดยสินค้าไทยหลายรายการจะได้รับผลกระทบทั้งเชิงลบและเชิงบวก โดยในส่วนที่จะได้รับผลกระทบในเชิงลบอย่างชัดเจน คือ สินค้ายางพารา ที่ไทยมีตลาดใหญ่ที่จีน ที่คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 50% ที่ไทยส่งออกวัตถุดิบยางพาราไปทั่วโลก ซึ่งช่วง 11 เดือนแรก ปี 2561 การส่งออกยางพาราของไทยไปจีนมีมูลค่า 5.8 หมื่นล้านบาท ลดลง 36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน


appIMG_0125

จาก "สงครามการค้า" มีผลให้จีนสั่งนำเข้าวัตถุดิบยางพาราไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ยาง (ส่วนใหญ่เป็นยางล้อรถยนต์) ส่งออกไปสหรัฐฯ ได้ลดลง ซึ่งทางออกหนึ่งนับจากนี้ คือ สวนยางพาราของไทยต้องปรับตัวให้ได้มาตรฐานสากล เพื่อให้ได้มาตรฐาน FSC และ PEFC ซึ่งเป็นมาตรฐานสหภาพยุโรป (อียู) ในการจัดการป่าไม้อย่างรับผิดชอบ ที่ 85 ประเทศทั่วโลกยอมรับ ช่วยเพิ่มโอกาสในการส่งออกยางพาราของไทยทดแทนตลาดเก่าได้เพิ่มขึ้น แต่อีกด้านหนึ่งขัดกับวิถีชาวสวนยาง


TP13-3435-A

579183247-1

นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาผลผลิตทางการเกษตร สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และในฐานะประธานสภาเครือข่ายยางและสถาบันเกษตรกรยางพาราแห่งประเทศไทย (สยยท.) เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงมาตรฐานระบบการให้รับรองยางพารา (Forest Management Certification (FSC-FM)) ด้านการจัดการป่าไม้และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของไม้ หรือ ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ได้จากสวนไม้ จะเป็นประทับตราเครื่องหมาย FSC เป็นสัญลักษณ์ หรือ ใบรับรองผลิตภัณฑ์ป่าไม้ที่ได้รับใบรับรองจัดการอย่างถูกต้อง ตามหลักซึ่งกำหนดไว้ว่า ต้องมีพื้นที่อนุรักษ์อย่างน้อย 10% ของพื้นที่สวนไม้ และต้องเป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง ไม่ได้มาจากการทำลายป่าธรรมชาติ โดยการทำมาตรฐานนี้ ทางสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศจะไม่รับซื้อยางพาราและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านมาตรฐานในปี 2563


app-lo002

"ตัวอย่างประมงไอยูยูที่เราต้องทำให้ได้มาตรฐานเขา ทำให้อาชีพชาวประมงล้มหายตายจากไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งมาตรฐาน FSC/PEFC ก็เช่นกัน ที่เราต้องทำตามกฎสำคัญ 10 ข้อ ซึ่งในส่วนของชาวสวนได้ถูกบังคับต้องปฏิบัติในหลายข้อ เช่น ให้สวมเสื้อผ้า รองเท้า คลุมผม แบบปิดมิดชิดในเวลากรีดยางเหมือนคนในโรงงาน รวมทั้งห้ามใส่ปุ๋ยเคมี ห้ามฉีดยา ห้ามพรวนดิน แค่นี้ไม่ถูกต้องแล้ว เพราะขัดกับวิถีชาวบ้าน หากทำแบบนี้ "เราเป็นเมืองขึ้นของอียูหรืออย่างไร จะต้องไปทำตามหมดทุกอย่าง" ..."


ยาง1

นายอุทัย กล่าวว่า ในส่วนของมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) จะต้องออกมาควบคู่และดูแลด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้ต่างชาติจัดการอยู่ฝ่ายเดียวในการออกกฎระเบียบต่าง ๆ คุ้มหรือไม่กับแค่ยางส่งออกไปตลาดอียูราว 3 แสนตันต่อปีเท่านั้น อีกด้านหนึ่ง ชาวสวนปัจจุบันได้รับการดูแลจากภาครัฐน้อยอยู่แล้ว จะต้องทำให้ตายทั้งเป็นเหมือนกับชาวประมงหรืออย่างไร


S__21512205

สอดคล้อง ดร.ปรีดี ลีลาเศรษฐวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ รับเบอร์ จำกัด ที่กล่าวว่า หากพิจารณาแนวโน้มตลาดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ตลาดนํ้ายางข้นโตเร็วมาก เชื่อว่ายังมีความต้องการอยู่มาก มองว่า ไม่จำเป็นว่าจะมีตลาดอียูหรือไม่ อีกด้านหนึ่ง ประเทศที่จะมีการออกเกณฑ์บังคับมาตรฐาน เชื่อว่าจะมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่บังคับเข้มงวดทันที จะกระทบตลาดแน่นอน แต่ไม่ใช่ตลาดจะหายไปเลย อีก 2 ปีข้างหน้า ยังมีเวลาในการปรับเปลี่ยน


ยาง

"กฎระเบียบมาตรฐานหลายตัว ไทยไม่จำเป็นต้องทำตามทั้งหมด 'ยุโรป' เป็นตลาดที่ส่งออกไม่สูงมากนัก สามารถทดแทนด้วยการส่งออกที่อื่นก็ได้ ดูตัวอย่าง "ไอยูยู" บังคับใช้โดยยังไม่ให้ประชาชนได้เตรียมความพร้อม เพราะสิ่งที่ได้กลับมา มองว่า "น้อยนิด" แต่ความเสียหายมีมากกว่า ซึ่งประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ยุโรป สหรัฐฯ จะนึกถึงผลประโยชน์ของตัวเองมาก่อนเป็นหลัก แต่ของไทยเอาต่างชาติก่อน คือ รับมาตรฐานต่างชาติมาก่อน แล้วมาทำให้คนไทยเดือดร้อนถูกต้องหรือไม่"


S__21512207

อนึ่ง มาตรฐาน FSC จะใช้สำหรับไม้ยางพารา และมาตรฐาน PEFC หรือ Program for the Endorsement of Forest Certification Scheme จะใช้มาตรฐานบังคับนํ้ายางและยางแผ่นนำเข้าของอียูที่จะบังคับใช้

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,435 วันที่ 13-16 มกราคม 2562

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว