'โคมัตสุ' เปิดตัวรุ่นใหม่ ตั้งเป้ากอดแชร์ 30%
'โคมัตสุ' กางแผนรุกตลาดเครื่องจักรกลหนัก ปี 62 ด้วยการเปิดตัวรุ่นใหม่ PC210-10M0 เคาะราคา 4.75 ล้านบาท พร้อมหาโอกาสในการบุกอีอีซี มั่นใจ! สิ้นปี 62 ส่วนแบ่งการตลาด 30%
นายประณิธาน พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางกอกโคมัตสุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า แผนงานในปี 2562 ได้เปิดตัวรถขุดรุ่นใหม่ล่าสุด รุ่น PC210-10M0 ที่มีจุดเด่น PC210-10M0 มาพร้อมแรงม้าที่เพิ่มขึ้น 28% สูงสุด 165 แรงม้า และออกแบบโครงสร้างตัวถังใหม่ มีการเพิ่มนํ้าหนักเคาน์เตอร์เวต เพื่อเพิ่มเสถียรภาพและสมดุลในการทำงาน, ออกแบบรูปทรงบุ้งกี๋ใหม่และมีขนาดใหญ่ขึ้น จึงสามารถเพิ่มผลผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการยกวัสดุได้มากขึ้น 5%
[caption id="attachment_373186" align="aligncenter" width="336"]
ประณิธาน พรประภา[/caption]
นอกจากนั้นแล้ว ยังมาพร้อมระบบควบคุมเครื่องยนต์ใหม่ สามารถใช้นํ้ามันเชื้อเพลิงได้มีประสิทธิภาพขึ้น 20% อีกทั้งยังพัฒนาปั๊มไฮดรอลิกให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้อัตราการไหลของนํ้ามันไฮดรอลิกดีขึ้นที่รอบเครื่องยนต์ต่ำลง พร้อมทั้งระบบพัดลมเครื่องยนต์แบบใหม่ ทำให้ลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ และมีการออกแบบปั๊มไฮดรอลิกที่ใหญ่ขึ้น ทำให้อัตราการไหลของนํ้ามันไฮดรอลิกดีขึ้น สนนราคาเริ่มต้น 4.75 ล้านบาท และรับประกัน 5 ปี 7,000 ชั่วโมง
นายประณิธาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนแผนงานอื่น ๆ ในปีนี้ เบื้องต้น บริษัทพยายามมองหาโอกาสทางธุรกิจจากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งหลายโครงการยังคงมีความต้องการเครื่องจักรกลสูง, โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (สุวรรณภูมิ ดอนเมือง อู่ตะเภา)
ขณะที่ เป้าหมายการขายเฉพาะรุ่นใหม่ คาดว่าจะทำได้ 400 คัน หรือคิดเป็นมูลค่า 1,900 ล้านบาท แต่หากรวมกับทุกรุ่นในปีงบประมาณ 2561 คาดว่าจะทำได้ 800 คัน หรือคิดเป็นมูลค่า 3,200 ล้านบาท ขณะที่ เป้าหมายของปีงบประมาณ 2562 ประเมินว่า ตัวเลขจะใกล้เคียงกันที่ 850 คัน หรือประมาณ 3,500 ล้านบาท ด้านส่วนแบ่งทางการตลาดที่ต้องการจะอยู่ที่ 27-30%
"ตลาดเครื่องจักรกลหนักอยู่ในภาวะทรงตัว โดยปกติถ้ามีการเลือกตั้งก็จะเกิดการกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย มีการใช้เงินจากภาครัฐฯ ในโครงการต่าง ๆ หรือหากไม่มีการเลือกตั้ง ตลาดก็ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับเดิม ขณะที่ การแข่งขันของผู้ประกอบการในตลาดนั้น ถือว่าสูง เพราะมีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ออกมา ทำให้ความต้องการเครื่องจักรกลหนักยังมีอยู่"
ปัจจุบัน โคมัตสุมีศูนย์บริการรวม 23 แห่งทั่วประเทศ อาทิ เชียงใหม่ ขอนแก่น นครสวรรค์ มุกดาหาร และมีบุคลากรที่มีความชำนาญด้านเครื่องจักรให้บริการหลังการขาย ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักสำคัญ ส่วนโรงงานของโคมัตสุจะผลิตรถในกลุ่ม 16 ตัน, 20 ตัน และ 30 ตัน มีกำลังการผลิตสูงสุด 1 หมื่นคัน แต่ผลิตจริงอยู่ที่ 5,000-6,000 คัน โดยผลิตเพื่อป้อนทั้งตลาดในประเทศและส่งออกมากกว่า 21 ประเทศ
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,435 วันที่ 13 - 16 มกราคม พ.ศ. 2562
นายประณิธาน พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางกอกโคมัตสุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า แผนงานในปี 2562 ได้เปิดตัวรถขุดรุ่นใหม่ล่าสุด รุ่น PC210-10M0 ที่มีจุดเด่น PC210-10M0 มาพร้อมแรงม้าที่เพิ่มขึ้น 28% สูงสุด 165 แรงม้า และออกแบบโครงสร้างตัวถังใหม่ มีการเพิ่มนํ้าหนักเคาน์เตอร์เวต เพื่อเพิ่มเสถียรภาพและสมดุลในการทำงาน, ออกแบบรูปทรงบุ้งกี๋ใหม่และมีขนาดใหญ่ขึ้น จึงสามารถเพิ่มผลผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการยกวัสดุได้มากขึ้น 5%
[caption id="attachment_373186" align="aligncenter" width="336"]
นอกจากนั้นแล้ว ยังมาพร้อมระบบควบคุมเครื่องยนต์ใหม่ สามารถใช้นํ้ามันเชื้อเพลิงได้มีประสิทธิภาพขึ้น 20% อีกทั้งยังพัฒนาปั๊มไฮดรอลิกให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้อัตราการไหลของนํ้ามันไฮดรอลิกดีขึ้นที่รอบเครื่องยนต์ต่ำลง พร้อมทั้งระบบพัดลมเครื่องยนต์แบบใหม่ ทำให้ลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ และมีการออกแบบปั๊มไฮดรอลิกที่ใหญ่ขึ้น ทำให้อัตราการไหลของนํ้ามันไฮดรอลิกดีขึ้น สนนราคาเริ่มต้น 4.75 ล้านบาท และรับประกัน 5 ปี 7,000 ชั่วโมง
นายประณิธาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนแผนงานอื่น ๆ ในปีนี้ เบื้องต้น บริษัทพยายามมองหาโอกาสทางธุรกิจจากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งหลายโครงการยังคงมีความต้องการเครื่องจักรกลสูง, โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (สุวรรณภูมิ ดอนเมือง อู่ตะเภา)
ขณะที่ เป้าหมายการขายเฉพาะรุ่นใหม่ คาดว่าจะทำได้ 400 คัน หรือคิดเป็นมูลค่า 1,900 ล้านบาท แต่หากรวมกับทุกรุ่นในปีงบประมาณ 2561 คาดว่าจะทำได้ 800 คัน หรือคิดเป็นมูลค่า 3,200 ล้านบาท ขณะที่ เป้าหมายของปีงบประมาณ 2562 ประเมินว่า ตัวเลขจะใกล้เคียงกันที่ 850 คัน หรือประมาณ 3,500 ล้านบาท ด้านส่วนแบ่งทางการตลาดที่ต้องการจะอยู่ที่ 27-30%
"ตลาดเครื่องจักรกลหนักอยู่ในภาวะทรงตัว โดยปกติถ้ามีการเลือกตั้งก็จะเกิดการกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย มีการใช้เงินจากภาครัฐฯ ในโครงการต่าง ๆ หรือหากไม่มีการเลือกตั้ง ตลาดก็ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับเดิม ขณะที่ การแข่งขันของผู้ประกอบการในตลาดนั้น ถือว่าสูง เพราะมีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ออกมา ทำให้ความต้องการเครื่องจักรกลหนักยังมีอยู่"
ปัจจุบัน โคมัตสุมีศูนย์บริการรวม 23 แห่งทั่วประเทศ อาทิ เชียงใหม่ ขอนแก่น นครสวรรค์ มุกดาหาร และมีบุคลากรที่มีความชำนาญด้านเครื่องจักรให้บริการหลังการขาย ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักสำคัญ ส่วนโรงงานของโคมัตสุจะผลิตรถในกลุ่ม 16 ตัน, 20 ตัน และ 30 ตัน มีกำลังการผลิตสูงสุด 1 หมื่นคัน แต่ผลิตจริงอยู่ที่ 5,000-6,000 คัน โดยผลิตเพื่อป้อนทั้งตลาดในประเทศและส่งออกมากกว่า 21 ประเทศ
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,435 วันที่ 13 - 16 มกราคม พ.ศ. 2562
