'สมคิด' สั่งปัดฝุ่น "บ้านบีโอไอ" !! "ราคาถูก" ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย

09 ม.ค. 2562 | 10:09 น.
'สมคิด' มอบนโยบายบีโอไอ 5 เดือนที่เหลือของรัฐบาล ต้องเร่งออกมาตรการส่งเสริมการลงทุน สร้างความเท่าเทียม ลดความเลื่อมล้ำ สั่งรื้อฟื้นโครงการบ้านบีโอไอ ราคาถูก ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังมอบนโยบายแก่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ว่า จากยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนในปี 2561 ที่ผ่านมามีมูลค่าลงทุน 9.01 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 7.2 แสนล้านบาท แต่ทางรัฐบาลยังไม่พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ เนื่องจากยังต้องบริหารประเทศไปจนถึงเดือน พ.ค. 2562

 

[caption id="attachment_372448" align="aligncenter" width="503"] นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์[/caption]

ดังนั้น ในช่วง 5 เดือนจากนี้ไป ภายใต้สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่มีความแน่นอนในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้นั้น รัฐบาลจะต้องประคับประคองให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศให้ไปรอด โดยได้มอบหมายให้บีโอไอไปจัดทำสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพิ่มเติม เพื่อจะดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุน

รวมถึงการมีมาตรการด้านการสร้างความเท่าเทียม ลดความเลื่อมล้ำ สร้างความเจริญ และพัฒนาท้องถิ่นให้มากขึ้น ที่จะต้องออกมามาตรการเพิ่มเติมที่จะเข้าไปสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเข้าไปลงทุนในท้องถิ่น ที่เน้นภาคเกษตร การสร้างวิสาหกิจชุมชน สร้างอุตสาหกรรมท้องถิ่น รวมถึงระบบโลจิสติกส์เชื่อมโยงเมืองรอง ภาคธุรกิจที่ลงทุนด้านท่องเที่ยวเมืองรอง หรือ การศึกษาในท้องถิ่น ก็ให้ทางบีโอไอให้สิทธิประโยชน์มากเป็นพิเศษ

"สัดส่วนของเศรษฐกิจจากภาคการท่องเที่ยวต่อจีดีพีขยายตัวได้ถึง 15% และจะขยายตัวไปถึง 18-19% จึงอยากเห็นการพัฒนาเศรษฐกิจ หรือ การลงทุน บริเวณรอบ ๆ การท่องเที่ยวและบริการ โดยการเน้นการส่งเสริมไปยังระดับท้องถิ่น แหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่นให้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการจ้างงานอุตสาหกรรมการผลิตและตลาดสินค้าตามมาด้วย"

 

[caption id="attachment_372206" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]

นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้บีโอไอไปรื้อฟื้น "โครงการบ้านบีโอไอ" ที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ที่เคยดำเนินการมาแล้วเมื่อปี 2545 โดยปรับหลักเกณฑ์ทางภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อย ให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์สามารถลงทุนก่อสร้างที่อยู่อาศัยราคาถูกได้ แต่บีโอไอต้องมีเงื่อนไขและมาตรฐานที่ควบคุมคุณภาพไม่ให้เอาเปรียบผู้บริโภค

ทั้งนี้ จะเป็นการช่วยลดความเลื่อมล้ำได้อีกทางหนึ่ง เพราะเห็นได้จาก "โครงการบ้านล้านหลัง" ตามนโยบายของรัฐบาลที่ออกมา ทำให้เห็นว่า ประชาชนผู้มีรายได้น้อยต้องการอยากมีบ้านอาศัยเป็นจำนวนมาก และไม่เพียงพอต่อความต้องการ หากบีโอไอมีมาตรการนี้อกมาจะช่วยมาเสริมความต้องการของประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้

"การดำเนินงานบ้านบีโอไอที่ผ่านมา ตามเกณฑ์การได้รับการสนับสนุนผู้ประกอบการจะมีการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ประเภททาวน์เฮ้าส์ รวมถึงบ้านเดี่ยว ในราคาหน่วยละไม่เกิน 1.2 ล้านบาท ขณะที่ คอนโดมิเนียมจะต้องมีพื้นที่ใช้สอยต่อหน่วยไม่น้อยกว่า 28 ตร.ม. และจำหน่ายในราคาหน่วยละไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งขณะนั้น โครงการอสังหาฯ ที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนทั่วประเทศที่พัฒนามีจำนวน 16 โครงการ"

นายสมคิด กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้ฝากให้บีโอไอผลักดันการเชื่อมต่อทางเศรษฐกิจในภาคใต้จากฝั่งอันดามันสู่อ่าวไทยในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ใน จ.ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานีและระนอง โดยให้จัดทำมาตรการส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มจังหวัดเหล่านี้ รวมทั้งให้เร่งเดินหน้าเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จะต้องมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนด้านอุตสาหกรรมไบโอชีวภาพให้เกิดขึ้น อีกทั้งการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศาภาคเหนือให้เกิดขึ้นที่บีโอไอจะต้องไปออกแบบมาตรการส่งเสริม เพื่อให้เกิดธุรกิจใหม่ ๆ หรือ สร้างสตาร์ทอัพรายใหม่ ๆ ขึ้นมา


โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

โดยช่วงปลายเดือน ม.ค. นี้ เตรียมเดินทางโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง โดยรอบนี้ตั้งใจจะไปดูงานที่เมืองคันไซ โดยได้ให้บีโอไอเตรียมความพร้อมไว้ในการชักชวนเข้ามาลงทุน พร้อมทั้งมอบหมายให้ทางบีโอไอจัดเตรียมงานสัมมนาประจำปีของบีโอไอให้มีการสานต่องานจากปีที่ผ่านมา เพื่อให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น

ส่วนในเดือน ก.พ. เตรียมลงนามกับรัฐบาลฮ่องกง หลังฮ่องกงมีแผนที่จะเปิดสำนักงานเศรษฐกิจและการค้า (ETO) ในประเทศไทย โดยมอบหมายให้บีโอไอเตรียมจัดหาพาร์ทเนอร์ฝ่ายไทยที่พร้อมจะลงทุนกับทางฮ่องกงไว้ด้วย

อีกทั้งในช่วงเดือน มี.ค. 2562 ทางองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) จะเป็นเจ้าภาพจัดงานการประชุมร่วมระหว่างจีนและญี่ปุ่น ที่มีนโยบายร่วมกันและตัดสินใจที่จะไม่แข่งขันทางการค้าที่ไม่สร้างสรรค์ และมองหาประเทศที่ 3 ที่จะลงทุน โดยให้ความสนใจประเทศไทยเป็นประเทศแรก ซึ่งในเรื่องนี้ทางบีโอไอจะเข้าไปมีส่วนในการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้ง 2 ประเทศนี้ด้วย

595959859