'สุชาติ' เสนอยกเครื่องกฎหมาย ส.ป.ก. ปั้นเป็นแผ่นดินทองคำ ป้องนายทุนฮุบที่ดิน

09 ม.ค. 2562 | 09:19 น.
กฎหมาย ส.ป.ก. ปั้น "ที่ดินทองคำ" ช่วยพัฒนาเศรษกิจ-สร้างรายได้–แก้ยากจน มั่นใจ! "ใบสลักสิทธิ์" ป้องนายทุน-ต่างชาติฮุบที่ดินทำเลทอง



สุชาติ-1
วันที่ 9 ม.ค. 2562 นายสุชาติ ตันเจริญ คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ผู้เสนอแนวคิด "เปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 ให้เป็นที่ดินทองคำ" หรือ "ส.ป.ก. 4.0" กล่าวถึงกรณี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ วิพากษ์วิจารณ์นโยบาย สปก. 4.0 อาจเปิดช่องให้นายทุนเข้าซื้อที่ดิน ส.ป.ก. และเพิ่มปัญหาความเหลื่อมล้ำ ว่า นายสาทิตย์อ่านแค่พาดหัวข่าวแล้วรีบมาโจมตี อยากแนะนำให้นายสาทิตย์ศึกษาข้อเสนอของตนอย่างละเอียดแล้วค่อยมาวิจารณ์ ขอเรียนว่า ในฐานะแกนนำ ส.ส.กลุ่ม 16 ที่เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณี ส.ป.ก.4-01 รับทราบเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 หรือ กฎหมาย ส.ป.ก. เป็นอย่างดี และเรื่องนี้ได้กลายเป็นฝันร้ายของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่สุดท้ายต้องยุบสภาหนีการลงมติ เพราะปล่อยให้คนรวยได้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. เช่น จ.ภูเก็ต ซึ่งผิดหลักการของกฎหมาย ส.ป.ก. ใช่หรือไม่

"ฝากไปถึงคุณสาทิตย์ อย่าเพิ่งชกลมโดยอ่านแค่พาดหัวข่าว และต้องขอขอบคุณที่นำเรื่องนี้กลับมาให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ถึงความเลวร้ายของ ส.ป.ก.4-01 ในอดีต ที่เป็นผลพวงมาถึงปัจจุบัน ทำให้รัฐบาลชุดนี้ต้องไล่ตามยึดที่ ส.ป.ก. จากคนรวยในหลายจังหวัด เช่น อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เชียงใหม่ เชียงราย เลย เป็นต้น เมื่อเรารู้ปัญหานี้ ผมจึงเสนอว่า ต้องแก้กฎหมายโดยเร็ว ซึ่งจะทำให้พบทางออกที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสำคัญในครั้งนี้" นายสุชาติ ระบุ


สุชาติ-2

นายสุชาติ กล่าวอีกว่า เราต้องยอมรับความจริงกันก่อนว่า 30-40 ปีที่แล้ว กับวันนี้ ยุคสมัยเปลี่ยนไปมาก สมัยนั้นที่ดินเหมาะกับการทำการเกษตร นโยบายจึงเน้นปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม แต่มาถึงวันนี้การทำเกษตรกรรมทำให้เกษตรกรเป็นหนี้ วัตถุประสงค์ของ ส.ป.ก. ต้องการช่วยเหลือคนจน แต่ไม่ใช่ต้องให้จนดักดานตลอดไป การช่วยเหลือคนจนโดยรัฐสนับสนุนให้ประชาชนมีที่ดินทำกิน ก็ควรจะหาทางทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ และสามารถอยู่ดีมีสุขเพิ่มขึ้น หรือเป็นคนรวยไปเลยก็ได้ ทำไมต้องตีกรอบว่า คนที่จะได้รับที่ดิน ส.ป.ก. ต้องจนดักดาน หรือพอจะมีเงินขึ้นมา คุณสมบัติก็ขาดจะถูกยึด ส.ป.ก. คืนไป

นายสุชาติ กล่าวยืนยันว่า นโยบายนี้ไม่ได้ทำให้ที่ดินหลุดไปเป็นของนายทุนและต่างชาติแน่นอน เพราะ 1.กรรมสิทธิที่ดินยังเป็นชื่อ ส.ป.ก. อยู่ทุกตารางนิ้ว ผู้ได้รับการจัดสรรจะได้ครอบครองแค่ "ใบสลักสิทธิ์" ที่เปลี่ยนมือได้เท่านั้น 2.กำหนดอำนาจหน้าที่ให้ ส.ป.ก. จำแนกที่ดิน และกำหนดอัตราภาษีแบบก้าวหน้าและค่าธรรมเนียมให้เหมาะสมกับศักยภาพของที่ดินนั้นให้ชัดเจน 3.ต้องดำเนินคดีกับผู้บุกรุกอย่างเด็ดขาด ต้องดำเนินคดีไม่ไว้หน้า ไม่ใช่แค่เอามาคืนเท่านั้น ยังต้องมีโทษทั้งจำทั้งปรับที่มีอัตราค่าปรับที่เหมาะสม ย้อนหลังตั้งแต่ต้นของการกระทำผิด

อดีต รมช.มหาดไทย กล่าวต่อว่า 4.พัฒนากองทุน ส.ป.ก. ให้รองรับบทบาทใหม่ในการบริหารที่ดินของ ส.ป.ก. ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชน และ 5.ประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกิน กองทุน ส.ป.ก. จะเข้าไปจัดสรรให้กับผู้ที่มีคุณสมบัติ ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนไว้ก่อนปี 2554 จำนวน 3.3 แสนคน ได้มีที่ดินทำกิน และต้องนำที่ดินไปใช้ตามศักยภาพ โดย ส.ป.ก. เข้าไปเป็นพี่เลี้ยง สำหรับรายใหม่จะต้องถือครองไม่น้อยกว่า 10 ปี จึงจะสามารถเปลี่ยนมือได้ ซึ่งเป็นการตอบคำถามนายสาทิตย์อย่างชัดแจ้ง เพราะข้อเสนอของตนจะทำให้คนจนมีที่ดินทำกิน เป็นการดูแลคนจนได้มากขึ้นและดีขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำไป

"ผมจึงกล้าประกาศว่า ส.ป.ก. จะเป็นที่ดินทองคำและต้องทำให้เปลี่ยนมือได้ เพื่อรองรับศักยภาพของคนที่จะนำไปพัฒนาในการใช้ที่ดินทำให้เกิดรายได้มากขึ้น ยิ่งทำให้คนที่ถือครองที่ดินร่ำรวยขึ้น เศรษฐกิจประเทศก็ดีขึ้นเป็นเงาตามตัว ประเทศชาติก็พัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ส่วนคนที่มีศักยภาพไม่มาก เช่น ผู้สูงอายุกว่า 1 ล้านคน ที่เป็นเจ้าของที่ดิน แต่ไม่มีลูกหลาน ไม่สามารถทำงานได้ กองทุน ส.ป.ก. ก็จะเข้าไปช่วยบริหารแทนให้เกิดรายได้ เช่น อาจปลูกต้นไม้มีค่า ซึ่งเป็นการต่อยอดนโยบายรัฐได้ป่า ประชาได้ทรัพย์สินและที่ดินทำกิน" อดีตแกนนำ ส.ส.กลุ่ม 16 ระบุ พร้อมเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองเลิกเล่นการเมืองแบบเก่า หรือ สาดโคลน ควรหันมาช่วยกันทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติดีกว่า วันนี้ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนการทำงานการเมืองเพื่อบ้านเมืองกันแล้ว

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก