ไฟเขียว! "งบปี 63" 3.2 ล้านล้าน คาดเศรษฐกิจโต 3.5-4.5%

08 ม.ค. 2562 | 09:27 น.
วันที่ 8 ม.ค. 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จำนวน 2 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.7% โดยเป็นงบประมาณขาดดุลจำนวน 4.5 แสนล้านบาท

สำนักงบประมาณรายงานว่า สาระสำคัญของงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 3,200,000 ล้านบาท ดังนี้ 1.โครงสร้างงบประมาณรายจ่ายประกอบด้วยประมาณการรายจ่าย ดังต่อไปนี้ รายจ่ายประจำ จํานวน 2,358,410.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จำนวน 85,754.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.8% และคิดเป็นสัดส่วน 73.7% ของวงเงินงบประมาณรวม ลดลงจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ซึ่งมีสัดส่วน 75.8%


102104

รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง จำนวน 62,709.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ซึ่งไม่มีการเสนอตั้งงบประมาณ หรือเพิ่มขึ้น 100% และคิดเป็นสัดส่วน 20% ของวงเงินงบประมาณรวม

รายจ่ายลงทุน จำนวน 691,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จำนวน 42,061.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.5% และคิดเป็นสัดส่วน 21.6% ของวงเงินงบประมาณรวม เท่ากับปีงบประมาณ พ.ศ. 2562

รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน 87,680 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จำนวน 9,474.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.1% และคิดเป็นสัดส่วน 2.7% ของวงเงินงบประมารรวม เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ซึ่งมีสัดส่วน 2.6%

รายได้สุทธิ จำนวน 2,750,000 ล้านบาท งบประมาณขาดดุล จำนวน 450,000 ล้านบาท เท่ากับปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 และคิดเป็นสัดส่วน 2.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ลดลงจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ซึ่งมีสัดส่วน 2.6%

"ทั้งนี้ วงเงินงบประมาณรายจ่าย 3.2 ล้านล้านบาทดังกล่าว เท่ากับกรอบวงเงินตามแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2563–2565 ที่ ครม. ได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2561 สำหรับงบประมาณรายจ่ายลงทุนและงบประมาณรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้มีจำนวนและสัดส่วนอยู่ภายในกรอบที่กำหนดตามราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561"


102102

ขณะเดียวกัน สำนักงบประมาณรายงานด้วยว่า สมมติฐานทางเศรษฐกิจเศรษฐกิจไทยในปี 2563 คาดว่าจะขยายตัวในช่วง 3.5–4.5% โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจโลก ที่คาดว่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ภาคการส่งออกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับอุปสงค์ในประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะการลงทุนภาครัฐที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นตามการเร่งเบิกจ่ายของโครงการลงทุนสำคัญที่มีกำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2563–2564 ขณะที่ การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นและการใช้จ่ายภาคครัวเรือนมีการขยายตัวในเกณฑ์ดี สำหรับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ คาดว่า อัตราเงินเฟ้ออยู่ในช่วง 0.8-1.8% และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลประมาณ 5.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ

ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 คาดว่า รัฐบาลจะจัดเก็บรายได้รวมจำนวน 3,256,500 ล้านบาท เมื่อหักการคืนภาษีของกรมสรรพากร อากรถอนคืนกรมศุลกากร การจัดสรร ภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด การกันเงินเพื่อชดเชยภาษีการส่งออก และการจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจาย อำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม คงเหลือรายได้สุทธิ จำนวน 2,750,000 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการรายได้สุทธิปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จำนวน 2,550,000 ล้านบาท เป็นจำนวน 200,000 ล้านบาท หรือ 7.8%

สำนักงบฯ รายงานอีกว่า นโยบายงบประมาณวงเงินและโครงสร้างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จากสมมติฐานทางเศรษฐกิจและประมาณการรายได้รัฐบาลดังกล่าวข้างต้น เพื่อให้การจัดการรายจ่ายภาครัฐสามารถขับเคลื่อนภารกิจตามยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580 แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2560–2564 นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2560–2564 แผนการปฏิรูปประเทศและนโยบายรัฐบาลได้ตามเป้าหมาย รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินภารกิจของหน่วยงานตามกฎหมาย

595959859