เปิดเส้นทางความสำเร็จ
"BNK48" เกิร์ลกรุ๊ปมากฝีมือ ที่แจ้งเกิดได้ด้วยฝีมือ ไม่ใช่โชคช่วย พร้อมแผนสร้างชื่อจากไทยสู่ CLMV แผนสร้างรายได้จากเพลงสู่เกม แอพ โชว์บิซ ภาพยนตร์ และซีรีส์
หลายปีที่ผ่านมา ภาพรวมธุรกิจเพลงในบ้านเราดูจะเงียบเหงา ไม่น่าตื่นเต้น ไร้แรงดึงดูด จนกระทั่งกระแสเพลง
"คุกกี้เสี่ยงทาย" ที่ฮอตฮิตติดลมบน แรงไปทั่วทุกหัวระแหง ปลุกให้ชื่อของ
"BNK48" ถูกถามหา และ Girl Group อย่าง BNK48 ก็เขย่าวงการเพลงเมืองไทย ด้วยบรรทัดฐานและปรากฏการณ์ใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มโอตะ หรือ โอตาคุ (แฟนคลับของ BNK48) กิจกรรม Handshake Event BNK Festival กิจกรรมถ่ายรูป 2Shot, Digital Live Studio เกาะติดชีวิต BNK48 ฯลฯ
BNK48 วันนี้ถูกจับตามองว่า กระแสความดังจะยังคงอยู่ต่อไปหรือไม่
"ฐานเศรษฐกิจ" ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ "จิรัฐ บวรวัฒนะ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีเอ็นเค โฟร์ตี้เอท ออฟฟิศ จำกัด หนุ่มนักบริหารผู้สร้างและผู้ปั้น
"BNK48" ในเมืองไทย ที่จะมาสะท้อนมุมคิดและเส้นทางของ BNK48 นับจากนี้
➣ BNK48 ไม่อิงกระแส
"จิรัฐ" ย้อนความให้ฟังว่า เมื่อ 2-3 ปีก่อน BNK48 เคยเข้าสู่สภาวะขาดทุนกว่า 40-50 ล้านบาท จากการลงทุนต่อเนื่อง และแม้จะเกิดสภาวะขาดทุน BNK48 ก็ยังเดินหน้าต่อและยํ้าจุดยืนชัดเจน จะไม่เดินตามกระแส
[caption id="attachment_371696" align="aligncenter" width="335"]
จิรัฐ บวรวัฒนะ[/caption]
"ในอดีต BNK48 มีเพียงฐานแฟนคลับกลุ่มหนึ่งที่สนใจ แต่เพลงคุกกี้เสี่ยงทายทำให้ผู้ฟังหลายคนรู้จัก จนนำไปสู่ตลาดแมส ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทพยายามหลีกเลี่ยงคำว่า
"กระแส" เพราะถ้าวันนี้ BNK48 อยู่ในกระแส คงไม่เป็นที่รู้จักแบบนี้ หรือ เปรียบเทียบกับละคร เกมที่มีชื่อเสียง มันจะอยู่แค่ระยะเวลาหนึ่งแล้วหายไป แต่เราได้รับความสนใจจากกลุ่มแมสมาปีกว่า รวมถึงรางวัลที่การันตีมากมาย และฐานแฟนคลับที่เติบโตต่อเนื่อง จึงเป็นสิ่งยืนยันว่า สิ่งที่ทำไม่ใช่กระแส"
➣ ที่นี่เป็น Talent Management
นับตั้งแต่การเปิดตัวจนถึงวันนี้ เป็นระยะเวลากว่า 1 ปีครึ่ง ที่ BNK48 เป็นที่รู้จัก ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อจุดเริ่มต้นของการก่อกำเนิด มาจากธุรกิจครอบครัว
"โรสมีเดีย" จึงมีประสบการณ์ทำงานกับคนญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน จนวันหนึ่งได้มองเห็นโอกาสของธุรกิจบริหารระบบไอดอลสไตล์ญี่ปุ่น บริษัท เอเคเอส จำกัด (AKS) จึงได้เกิดการร่วมทุนระหว่าง บริษัท โรส อาร์ทิส แมเนจเมนต์ จำกัด หรือ อาร์เอเอ็ม/RAM ถือหุ้น 90% จากทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท บริษัท เอเคเอส จำกัด (AKS) จากญี่ปุ่น ถือหุ้น 10%
"ที่ผ่านมา ผมพยายามปฏิเสธว่า BNK48 ไม่ใช่ธุรกิจประเภทค่ายเพลง เชื่อว่าหลายคนมองว่า คือ ค่ายเพลง บริษัทไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมเพลง เพราะเชื่อว่า อุตสาหกรรมเพลงไม่สามารถดำเนินได้ต่อในแบบที่เป็นอยู่ แต่ BNK48 เป็นธุรกิจ Talent Management ดังนั้น เพลง คือ กลไกหนึ่งที่จะทำให้น้อง ๆ Talent ของ BNK48 เป็นที่รู้จัก แต่ไม่ใช่ทั้งหมด"
➣
ชูโมเดลสโมสรฟุตบอล
ปัจจุบัน BNK48 มีสมาชิก (Talent) จำนวนกว่า 50 คน ซึ่งในเร็ว ๆ นี้จะมีการเปิดรับสมัคร Talent รุ่นใหม่ ๆ ออกมาให้ได้ตามเป้าที่วางไว้ คือ จำนวนราวกว่า 70 คน เนื่องจากบริษัทมีจุดยืนที่ชัดเจน คือ การเป็น Talent Management ดังนั้น จึงต้องผลักดัน Talent ที่มีอยู่ให้เกิดการพัฒนาและสามารถทำงานได้ในรูปแบบหลากหลาย หากเปรียบเทียบเช่นเดียวกับสโมสรฟุตบอล ที่แม้วันนี้จะมีนักเตะคนใดคนหนึ่งออกไปจากสโมสรก็ตาม แต่สโมสรยังต้องอยู่และมีฐานแฟนคลับติดตามต่อเนื่อง
"เป้าหมายระยะยาวของบริษัท คือ ต้องการบริหารงานเป็นในรูปแบบ
"สโมสรฟุตบอล" ความนิยมเหมือนการครองแชมป์ เช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล ฯลฯ ที่แม้ในวันนี้ไม่ได้ครองแชมป์ แต่ก็ยังมีฐานแฟนคลับติดตามอย่างเหนียวแน่น มีผู้เล่นหลากหลาย เมื่อนักเตะย้ายออกไป สโมสรยังอยู่ได้ วันนี้บริษัทนิยาม BNK48 เป็นแพลตฟอร์ม ไม่ใช่นักดนตรี"
➣
เชื่อมพาร์ตเนอร์รุกต่างประเทศ
เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางปี 2561 บริษัท แพลนบี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB ได้ทุ่มเงินลงทุนกว่า 182 ล้านบาท เพื่อเข้าซื้อหุ้น BNK48 ในสัดส่วน 35% การผนึกรวมทั้ง 2 บริษัท เพราะมองว่า การลงทุนครั้งนี้จะต่อยอดไปสู่ธุรกิจคอนเทนต์ได้อีกมาก และเป็นการเพิ่มมูลค่าในการเข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ ขณะเดียวกัน ในปีนี้ BNK48 ได้วางแผนนำ Talent ปัจจุบัน เดินสายประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ทั้งในและต่างประเทศ
"ล่าสุด BNK48 ได้จับมือเป็นพาร์ตเนอร์สื่อใหญ่ในต่างประเทศ โดยเฟสแรกจะเริ่มในกลุ่ม CLMV อาทิ กัมพูชา เมียนมา สปป.ลาว ขณะที่ เฟสที่ 2 จะลุยตลาด Chinese Speaking Countries คือ สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน จีน เป็นต้น ขณะที่ ตลาดในประเทศ BNK48 จะมุ่งเน้นไปยังตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อเข้าสู่ตลาดแมสเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งจะผลิตคอนเทนต์ให้สอดคล้องกับตลาดที่ BNK48 จะไป เช่น ตลาดในแถบภาคใต้ ก็จะสร้างคอนเทนต์เฉพาะสำหรับสถานที่นั้น"
➣
สู่เกม-แอพ-โชว์บิซ-หนัง-ซีรีส์
"จิรัฐ" บอกว่า ทุก ๆ ซิงเกิลที่ออกมาแต่ละครั้ง BNK48 ได้รับการตอบรับที่ดีจากฐานแฟนคลับในปัจจุบันอย่างมาก ทั้งในรูปแบบของออนไลน์และออฟไลน์ เห็นได้จากการเปิดขายซีดีเพลง 2 วัน พบว่า มียอดขายกว่า 3 แสนแผ่น และทุก ๆ ครั้ง ที่มีการปล่อยซิงเกิล หรือ ซีดี ออกมาในแต่ละครั้ง จะมียอดขายไม่ตํ่ากว่า 3 แสนแผ่นทุกครั้ง
อีกทั้งในช่องทางออนไลน์ก็เช่นเดียวกัน ปัจจุบัน มีฐานแฟนคลับอยู่ที่ 1.5 ล้านคน ที่ติดตามและเป็นสมาชิกผ่านโซเชียลมีเดีย อาทิ เฟซบุ๊ก ยูทูบ เป็นต้น
"ปัจจุบัน บริษัทต้องการผลักดันให้ Talent ทุกคนสามารถทำงานได้หลากหลายด้าน ขณะเดียวกัน บริษัทก็ต้องทำตัวเป็นแพลตฟอร์มที่ต้องสร้างคอนเทนต์ต่าง ๆ เข้ามาตอบโจทย์กลุ่มแฟนคลับและผู้ฟังให้รู้สึกมีส่วนรวมและใกล้ชิด Talent โดยที่ผ่านมา บริษัทได้ต่อยอดคอนเทนต์ที่มีนำไปสู่แพลตฟอร์มที่หลากหลาย เช่น จากคอนเทนต์บางส่วนในเอ็มวี สามารถนำไปสู่เกม แอพพลิเคชันอื่น ๆ และในปีนี้ บริษัทได้วางงบประมาณการลงทุนไว้กว่า 200 ล้านบาท ลงทุนด้านคอนเทนต์ต่าง ๆ เช่น ภาพยนตร์ ซีรีส์ เกม เพลง โชว์บิซ เป็นต้น พร้อมคาดว่า ในปีนี้จะมีรายได้เติบโตกว่า 25% เมื่อเทียบปีก่อน"
➣ เพิ่มฐานเด็กและเยาวชน
ความนิยมของ BNK48 ปัจจุบันไม่ได้มีเพียงผู้ชายเท่านั้น แต่ปัจจุบัน ผู้หญิงก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งสัดส่วนแฟนคลับปัจจุบันขณะนี้ เป็นผู้ชาย 50% และผู้หญิง 50% แต่สิ่งที่น่าแปลกใจ คือ ปัจจุบันกลับมีกลุ่มเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
"วันนี้กลุ่มแฟนคลับที่เพิ่มขึ้น คือ เด็กและเยาวชน จึงเป็นกฎว่า ห้าม Talent ของ BNK48 มีแฟน เพราะบริษัทต้องการให้ Talent ทุกคนเป็นแบบอย่างที่ดี ขณะเดียวกัน บริษัทมีจุดยืนและทิศทางชัดเจน คือ ไม่รับสปอนเซอร์ที่เป็นเครื่องดื่มของมึนเมา อาหารเสริม รวมถึงงานเซ็กซี่ แม้รายได้ในกลุ่มสินค้าประเภทนี้จะมีจำนวนมาก แต่บริษัทเลือกจะตัดทิ้ง เพราะบริษัทต้องการให้เยาชนมีตัวอย่างที่ดี ทั้งในเรื่องการเรียนและทำงาน รวมถึงความพยายาม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ และนั่นคือ สิ่งที่บริษัทเชื่อว่ากลุ่มผู้ชมผู้ฟังที่เป็นเด็กและเยาวชนจะเป็นฐานแฟนคลับที่ดีในอนาคต ที่จะเติบโตและนำไปสู่ความยั่งยืน"
หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,434 ระหว่างวันที่ 10-12 มกราคม 2562