"ตัง ตัง" สยายปีกส่งออก! "อาหารเพื่อสุขภาพ" 100 ล้าน

10 ม.ค. 2562 | 06:00 น.
"ตัง ตัง" นวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ ไต่ระดับเจาะตลาดลูกค้าระดับบน เล็งรุกออนไลน์เป็นหลัก พร้อมวางจำหน่ายจุดขายแบบพรีเมียม รุกตลาดส่งออก มั่นใจ! รายได้ปีนี้แตะ 100 ล้านบาท

นายสุทธิสินธุ์ อัครพลโชติ ประธาน บริษัท กฤษณาเฮลท์ตี้ โปรดักส์ จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"
ว่า บริษัทได้นำเสนอนวัตกรรมขนมข้าวอบกรอบข้าวหอมมะลิ หรือ ข้าวตังแบบพอดีคำ ภายใต้ชื่อแบรนด์ "ตัง ตัง" ออกสู่ตลาด โดยวางตำแหน่งให้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ หรือเรียกได้ว่า เป็นอาหารที่มีสารประกอบที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคในระดับบน ซึ่งล่าสุด ได้ลงทุนก่อสร้างโรงงานที่เป็นต้นแบบมาตรฐาน เพื่อรองรับการทำตลาด และสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการเข้ามาศึกษาดูงาน


1946113

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ข้าวตังแบนด์ "ตัง ตัง" จะเป็นแบบพรีเมียม โดยบรรจุลงแพ็กเกจในรูปแบบแคปซูลอย่างดีพร้อมกับกระเป๋าถือแบบเจมส์บอนด์ ซึ่งมีช่องทางการจำหน่ายหลักผ่านออนไลน์บนเว็บไซต์ของบริษัท โดยจะมีการเชื่อมต่อไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจด้วย

ขณะที่ ในรูปแบบของออฟไลน์จะมุ่งเน้นการวางจำหน่ายที่ร้านขายของฝากแบบพรีเมียมที่เป็นของบริษัทนำเที่ยว ร้านกาแฟแบบพรีเมียม และสนามบิน เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมที่จะเข้าไปเจรจาทางธุรกิจกับคิงเพาเวอร์ เพื่อนำผลิตภัณฑ์เข้าไปวางจำหน่าย โดยจะมุ่งเน้นวางจำหน่ายในจุดที่เป็นแบบการซื้อของฝาก จะไม่เน้นการจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า


1946121

ส่วนตลาดต่างประเทศจะทำการตลาดที่ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และลาว โดยการดำเนินการผ่านตัวแทนจำหน่ายของแต่ละประเทศ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะทำตลาดที่ประเทศลาวก่อนเป็นลำดับแรก เพราะมีเครือข่ายทางธุรกิจอยู่ โดยจะเลือกวางจำหน่ายที่ภัตตาคารและในกาสิโน ซึ่งช่วงแรกที่ผลิตภัณฑ์ทำเสร็จ ได้มีการทดลองทำข้าวตังหน้าทุเรียนออกมา โดยเลือกใช้พันธุ์หมอนทองและชะนีมาเป็นส่วนผสม ปรากฏว่า ผู้บริโภคจากประเทศจีนชื่นชอบมาก และได้รับการติดต่อให้นำผลิตภัณฑ์ไปทำตลาดที่ประเทศจีน โดยทำออกมาในแบบบรรจุถุงธรรมดา เพื่อความเหมาะสมของตลาด

"ข้าวตังแบรนด์ "ตัง ตัง" เป็นนวัตกรรมทางด้านอาหารที่ทำมาจากข้าวหอมมะลิอินทรีย์ สมุนไพรไทย และชาหอม หรือ ชากฤษณา โดยเป็นการนำภูมิปัญญาไทยมาต่อยอดพัฒนาสูตรกระบวนการผลิตข้าวตัง เพื่อยกระดับและสร้างมูลค่าของข้าวหอมมะลิไทยและสมุนไพรไทยให้มีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างความแตกต่างจากข้าวตังธรรมดามาเป็นขนมอบกรอบในรูปแบบของแครกเกอร์ เป็นการเปลี่ยนขนมพื้นบ้านของคนไทย ธรรมดาให้ไม่ธรรมดา"

นายสุทธิสินธุ์ กล่าวต่อไปอีกว่า จุดเด่นของผลิตภัณฑ์แบรนด์ "ตัง ตัง" อยู่ที่รสชาติความอร่อย หอม กรอบ ลื่นคอ เมื่อรับประทานแล้วจะหยุดไม่อยู่ โดยบริษัทจะให้ความสำคัญกับแผ่นดิบก่อนที่จะนำไปทอดมาก ซึ่งมีลูกค้าหลายรายที่นิยมซื้อแผ่นดิบไปทอดเอง โดยสรรพคุณก็เปรียบเสมือนการรับประทานข้าวเช้ากับกาแฟ แต่ไม่ต้องรับประทานข้าว เพราะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพเหมือนกับเป็นยาในตอนเช้า

"จากกลยุทธ์การทำตลาดดังกล่าว เชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ประมาณ 100 ล้านบาท ภายในปีนี้ เพราะออร์เดอร์บนช่องทางออนไลน์ของบริษัทมีเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยที่ผลิตภัณฑ์ก็เป็นพรีเมียมราคาจึงค่อนข้างสูง เนื่องจากเราใช้วัตถุดิบชั้นดีในการผลิต โดยปัจจุบัน "ตัง ตัง" มีให้เลือก 3 รสชาติ ได้แก่ รสออริจินัล รสมะพร้าว และรสทุเรียน"


1946122

นายสุทธิสินธุ์ กล่าวอีกว่า สรรพคุณจากชากฤษณามีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การช่วยดูแลระบบภายในร่างกาย มีธาตุเหล็ก สังกะสี และกาบา ซึ่งได้จากข้าว โดยผลิตภัณฑ์แบรนด์ "ตัง ตัง" จะมีการผสมข้าวงอกลงไปด้วย นอกจากนี้ ยังมีสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ฯลฯ

"หลักคิดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น คือ การทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตเราและเพื่อผู้อื่น โดยมีสโลแกนของผลิตภัณฑ์ ว่า เราคือ ความคุ้มค่าที่สุดสำหรับชีวิตคุณและคนที่คุณรัก มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าเพื่อชีวิต และสุขภาพที่ดี"

อนึ่ง ผลิตภัณฑ์แบรนด์ "ตัง ตัง" เกิดขึ้นจากความบังเอิญทางธุรกิจที่ได้มาจากการที่นายสุทธิสินธุ์เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ "ชากฤษณา" โดยที่วันหนึ่งดื่มชาที่ชงไว้ไม่หมด จึงนำชาดังกล่าวมาหุงข้าว ปรากฏว่า ข้าวที่สุกออกมามีกลิ่นหอมอย่างมากและมีสีออกสีทองน่ารับประทาน จึงคิดต่อยอดนำไปทำขนมข้าวตัง ซึ่งเป็นขนมที่มีชื่อเสียงของนครราชสีมาที่เป็นบ้านเกิด และนำมาจำหน่ายแบบสินค้าโอท็อป โดยได้รับการตอบรับจากตลาดที่ดีอย่างมาก หลังจากนั้นจึงคิดนำนวัตกรรมเข้ามาผสมผสานจนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์แบรนด์ "ตัง ตัง" ในที่สุด

หน้า 8 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3434 วันที่ 13-15 มกราคม 2562



ติดตามฐาน